"สุภิญญา" สวดยับ กสทช.ใช้อำนาจ พร่ำเพรือ เรียกสอบซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น”
"สุภิญญา" สวดยับ กสทช.ใช้อำนาจ พร่ำเพรือ เรียกสอบซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ยันไม่เคยเห็นเรื่องร้องเรียนเนื้อหาไม่เหมาะสม มีแต่คนร้องไม่ให้ระงับการแพร่ภาพ อัด พีระพงษ์ เรียกแขก สร้างกระแสต้านไม่ดีจากวัยรุ่น
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 25 กรกฎาคม 2556 นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการประชุมคณะการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ชุดใหญ่ ในช่วงเช้าวันนี้ (25 กรกฎาคม 2556) จะขอหารือนอกรอบเกี่ยวกับกรณีพล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ หนึ่งใน กสทช. และประธานอนุกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ด้านกำกับผังและเนื้อหารายการ มีคำสั่งให้ทำหนังสือเชิญตัวแทนบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เข้ามาชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับเนื้อหาซีรีส์ เรื่อง "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่ออกอากาศทางช่องจีเอ็มเอ็มวัน ในวันที่ 5 สิงหาคม 2556 นี้ ว่า มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบ กสทช. ยังไม่เคยได้รับการร้องเรียนเรื่องเนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้เข้ามา ในทางตรงกันข้ามร้องเรียนที่แจ้งเข้ามีแต่การคัดค้านไม่ให้ กสทช. ระงับการแพร่ภาพซีรีส์เรื่องนี้
นางสาวสุภิญญา กล่าวยืนยันว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสั่งระงับการแพร่ภาพออกอากาศซีรีส์ที่ยังไม่ได้ออกอากาศ กสทช. ไม่มีสิทธิที่จะไปสั่งได้ การสั่งระงับเป็นอำนาจของผู้ประกอบการที่จะควบคุมดูแลรายการของตนเอง ไม่ให้มีปัญหา กสทช.มีเพียงอำนาจในการเรียกดูเทปละครที่ออกอากาศไปแล้ว มาตรวจสอบได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่า เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายมาตราใด และเหมาะสมหรือไม่ และการตรวจสอบแต่ละครั้งก็ใช้เวลานาน กว่าผลจะออกมาละครก็จบไปแล้ว
“ถ้าจะบอกว่า ละครซีรีส์ “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ.2551 มาตราที่ 37 ในเรื่องของศีลธรรม ดิฉันว่าความหมายมันก็กว้างมากเกินไป แม้จะมีการออกประกาศฉบับนี้ขึ้นมาดูแลอีกขั้นหนึ่ง แต่มันก็ยังมีปัญหากันอยู่ และถ้าจะบอกว่า ละครที่มีฉากวัยรุ่นมี sex และทำแท้ง ผิด ละครหัวค่ำที่ฉายในฟรีทีวีที่มีเนื้อหา ตบตี แย่งสามีกันไปมาก็คงไม่ได้ออกอากาศกันหมด”
นางสาวสุภิญญา กล่าวต่อไปว่า ยืนยันว่าการสั่งให้มีการตรวจสอบเนื้อหาละครซีรีส์ เรื่อง"ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" มาจากแนวคิดของ กสทช.เพียงคนเดียว คือ พล.ท. พีระพงษ์ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่แน่ใจว่า พล.ท. พีระพงษ์ ได้มีโอกาสดูเนื้อหาในละครซีรีส์เรื่องนี้อย่างละเอียดหรือยัง รวมถึง กสทช.คนอื่นด้วย แต่เท่าที่ตนทราบ เนื้อหาละครซีรีส์เรื่องนี้ จะมีการสอดแทรกแง่คิดและคติเตือนใจให้กับวัยรุ่น ไม่ได้นำเสนอแค่เนื้อหาในส่วนที่ไม่ดีเท่านั้น
“กสทช.เรามีอำนาจในการตรวจสอบ แต่การจะใช้อำนาจตรวจสอบอะไร ต้องดูให้ดีด้วย ต้องทำอย่างรอบครอบไม่ใช่ใช้อำนาจพร่ำเพรือ นึกจะเรียกจะสั่งอะไรก็ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะถูกต่อต้าน ถูกตำหนิเอาได้"
นางสาวสุภิญญา ยังกล่าวยืนยันว่า สำหรับละครซีรีส์ฮอร์โมน แทนที่จะใช้วิธีการออกคำสั่งเรียกมาตรวจสอบแบบนี้ อาจจะใช้วิธีจัดเสวนาระดมความคิดเห็นก็ได้ เรื่องนี้ไม่น่าจะถึงขั้นต้องออกคำสั่งเรียกมาชี้แจง เพราะเรื่องอื่นมีความรุนแรงกว่านี้มาก เช่น รายการของ คุณลีน่าจัง ที่มีการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมาก หรือ การโฆษณายาผีบอก น้ำหมักอะไร ที่หลอกลวงเกินจริง ยังไม่เคยเห็นที่จะไปสั่งระงับหรือแก้ไขอะไรได้เลย
นางสาวสุภิญญา ยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวว่า กสทช. ได้ออกหนังสือเชิญแกรมมี่ มาชี้แจงเนื้อหาละครซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” มีคนเข้าทวิตเตอร์มาสอบถามเรื่องนี้จากตนจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นการต่อว่าการดำเนินงานของกสทช.และขอร้องไม่ให้ระงับการแพร่ภาพละครซีรีส์เรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 24 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงานข่าวว่า นางสาวสุภิญญา ได้ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Supinya Klangnarong ถึงกรณีชาวเน็ตพากันก่นด่า กสทช. หลังมีกระแสข่าวจะแบนละคร ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น หรือ Hormones The Series ที่กำลังออกอากาศโดยอ้างมีเนื้อหาล่อแหลม อาจผิดพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ.2551 มาตราที่ 37 ว่า
ณ เวลายังอยู่ที่ กสทช. อยู่เลย นั่งตอบคำถาม ฟังคำก่นด่าจากประชาชนในทวิตเตอร์ สืบเนื่องจากดราม่า Hormonestheseries ที่ข้าพเจ้าไม่รู้เรื่องเลย แต่วันนี้งานเข้าเต็มๆ
โดยสรุปบอร์ด กสท. ยังไม่เคยพูดคุยเรื่องนี้ ยังไม่เคยลงมติใดๆ แต่เป็นความริเริ่มของท่าน กสทช. พลโทพีระพงษ์ มานะกิจ ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหาและผังรายการ ท่านเรียกแขกให้ข้าพเจ้าทั้งวัน ทวิตเตอร์แทบแตก โดนถล่มเพียบ ต้องนั่งอธิบาย แต่จะกลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมบอร์ด กสท.เรื่องสำคัญด้วย (แต่ไม่มีเรื่องนี้นะคะ)
ขอถอนหายใจ ภาพลักษณ์ กสทช.กลายเป็นกบว.คืนชีพไปแล้ว ทุกท่านทราบจุดยืนข้าพเจ้าดีว่าอยู่ข้างเสรีภาพสื่อเสมอเว้นแต่ว่ามันขัดกฎหมายอย่างร้ายแรงหรือไปละเมิดสิทธิมนุษยชน
ส่วนตัวแม้จะไม่ค่อยชอบละครไทย แต่ไม่เคยเห็นด้วยกับการแบน ละครเลย เพราะมันคือจินตนาการและจริตของสังคมนั้น โดยเฉพาะ Hormonestheseries ยังไม่เคยดูแต่เท่าที่หาข้อมูลเป็นละครสะท้อนสังคม ชีวิตสับสนของวัยรุ่น มันจะผิดกฏหมายมาตรา 37 ตรงไหน?? ถ้ามันไม่ได้ลามกอนาจาร
ส่วนเนื้อเรื่องที่วัยรุ่นมี sex และทำแท้ง มันก็สอนให้เด็กๆได้คิด สมัยข้าพเจ้าเป็นวันรุ่นก็ดูละครเรื่อง กว่าจะรู้เดียงสา, น้ำพุ, แรงกว่านี้อีก ตอนเป็นหนัง โรงเรียนยังพาไปดูเลย นั้นมันก็ 20-30 ปีมาแล้ว ตอนนี้เป็นยุคไหนแล้ว ที่ข้าพเจ้าผ่านช่วงวัยรุ่นมาได้ด้วยดีก็เพราะได้ดูหนังเรื่องกว่าจะรู้เดียงสา นี่ล่ะ ทำให้ผู้หญิงเรารู้ว่าเราควรระวังตัวอย่างไร
กสทช.ต้องอย่ามาทำตัวจุกจิกเป็น กบว.ย้อนยุค วางกรอบที่มันร้ายแรงจริงๆแล้วกำกับให้ได้ เช่นเรื่องโฆษณายาผีบอก หลอกลวงเกินจริง ผิด อย. อันนี้ควรรีบไปจัดการก่อน หนังกับละครมันเป็นจินตนาการ เด็กเยาวชนเขารู้ ที่เขาชอบดูเพราะมันสะท้อนชีวิตเขา เขาคุยกับที่บ้านหรือโรงเรียนไม่ได้บ้าง เด็กไทยเก็บกด
จริงๆมันเป็นสื่อที่ดีในการสอนเรื่องเพศศึกษากับเยาวชน กสทช.วันนี้เพิ่งเปิดตัว น้องดูดี สัญลักษณ์ทีวีดิจิตอล เรากำลังก้าวไปข้างหน้า อย่าย้อนยุคไปไกลถึงปี 2498 ที่เพิ่งมีทีวีอะนาล็อกในประเทศไทย ให้เด็กเขาได้คิดอ่านกันเองบ้าง ทีละครหลังข่าวตบจูบ ข่มขืนมีมา 3-4 ทศวรรษ รัฐยังไม่เคยกล้าแบนเลย แม้จะไม่มีรสนิยม แต่รัฐธรรมรองรับสิทธิคนให้เลือกดูสิ่งที่เขาชอบ ถ้ามันไม่ขัดกฏหมายแบบคอขาดบาดตาย
ละครที่สอนให้เด็กรู้จักคิด รู้จักเลือก ควรสนับสนุน แล้วผู้ใหญ่ใช้มันเป็นเครื่องมือ เราอยู่ยุคดิจิตอลแล้วต้องปรับวิธีคิดแบบอะนาล็อกด้วย ไม่งั้นลุงๆป้าๆอย่างเราก็จะตามไม่ทัน เรื่องเล็กๆชอบทำ แต่เรื่องใหญ่ๆกลับละเลย
หมดแรงแล้วกลับบ้านดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ .. ทำไมมันมีแต่เรื่องนะ กสทช.