เปลี่ยน “ข้าว” ให้กลายเป็นขนม (กรุบกรอบ) สไตล์ใหม่ ฝีมือคนไทยผลิต
“กสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม” วันนี้สถานการณ์การเกษตรในบ้านเราไม่ได้เรืองอำนาจอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะข้าวไทยที่กำลังร้อนระอุ เจอข่าวข้าวเน่า ข้าวมีพิษ จนนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาสยบข่าว ด้วยการชิมข้าวโชว์
ขณะที่หลายฝ่ายก็แสดงความเป็นห่วงจัดกิจกรรม เวทีเสวนาต่าง ๆ เพื่อร่วมกันหาทางออก ซึ่งหนึ่งในนั้นมีโครงการที่น่าสนใจ คือ “ไทยแลนด์ ฟู้ดวัลเลย์” (THAILAND FOOD VALLEY: TFV)" เป็นโครงการที่ดำเนินรอยตามแนวคิดหุบเขาอาหารแห่งเนเธอร์แลนด์ (Netherland Food Valley) ประเทศผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนาอาหาร โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาอาหารให้มีความเข้มแข็งต่อยอดผลิตสินค้าเชิงนวัตกรรมตอบสนองตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างไปตามวัฒนธรรมการบริโภค
สำนักข่าวอิศรา ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร ที่ประสบความสำเร็จ และต่อยอดได้เชิงพาณิชย์ บริษัทฟาร์เมอรส์มาร์เก็ต(ประเทศไทย) จำกัด จับมือกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันพัฒนาวัตถุดิบจาก “ข้าว” จนกลายเป็นขนมอบกรอบ ที่ไม่ได้แค่ทานให้อร่อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค
นายเอกวิทย์ ศัลยพงษ์ ประธานกรรมการบริษัทฟาร์เมอรส์มาร์เก็ต (ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่า หลังจากที่บริษัทเปิดได้ไม่นาน มีความพยายามแปรรูปสินค้าเกษตรจากวัตถุดิบที่มาจากข้าว แต่ปัญหาที่เจอคือความกรอบของขนม และอายุของสินค้าสั้นเกินไป ทางบริษัทจึงได้เข้าไปปรึกษาอาจารย์ท่านหนึ่งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งทางก็ได้รับคำแนะนำให้บริษัทเข้าร่วมโครงการไทยแลนด์ฟู้ดวัลเลย์ เพราะจะมีทีมนักวิจัยเข้ามาช่วยพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพของสินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
“ในช่วงแรกเจอปัญหาเรื่องการเข้าใจโจทย์ที่ต่างกันระหว่างนักวิจัยกับบริษัท เนื่องจากนักวิชาการกับกลุ่มธุรกิจมีมุมมองแตกต่างกัน นักวิชาการอยากให้สินค้ามีประโยชน์ที่สุด ดีที่สุด แต่สำหรับธุรกิจอยากได้สิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้าด้วย เพราะสิ่งที่ดีสุดอาจไม่ใช่สิ่งที่ขายดีที่สุด เราแก้ปัญหาด้วยการพาไปดูหน้างาน ดูอุปกรณ์ที่เรามี เนื่องจากอุปกรณ์ วัตถุดิบไม่ทันสมัยเหมือนในห้องทดลอง ซึ่งก็ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้ นักวิชาการก็เข้าใจเรามากขึ้น”
เมื่อถามถึงสาเหตุว่า ทำไมวัตถุดิบต้องเป็น “ข้าว” ประธานกรรมการบริษัทฟาร์เมอรส์มาร์เก็ตฯ บอกว่า ความจริงข้าวเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับเรา เพราะข้าวมีกลิ่นเฉพาะตัว แต่ที่เลือกข้าวเพราะข้าวเป็นตัวแทนประเทศไทย และมีวัตถุดิบหาได้ง่าย และมั่นใจว่า อย่างไรก็ตามจะไม่มีปัญหาเรื่องวัตถุดิบขาดแคลนอย่างแน่นอน รวมถึงยังเป็นการช่วยเหลือชาวนาในประเทศอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนสาเหตุที่เป็นขนมคล้ายป๊อบคอร์น เจ้าของบริษัทฟาร์เมอรส์มาร์เก็ตฯ อธิบายว่า เกิดมาจากทีมผู้ผลิตมีโอกาสทานขนม และมักได้ยินคำพูดที่ว่า
“ขนมเป็นอาหารจังก์ฟู้ด ลูกอย่ากินขนมเยอะนะมันไม่ดี ผมก็กินขนมมาเยอะทั้งของไทยและต่างประเทศ ผมก็อยากได้ขนมที่เป็นตัวแทนของไทย มีประโยชน์ อร่อย ที่สำคัญช่วยเหลือคน คือช่วยคนผลิตข้าว โดยให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ นอกจากซื้อข้าวเขาแล้วก็ให้เขามาช่วยผลิตแปรรูปในเบื้องต้น”เอกวิทย์ บอกถึงความตั้งใจจริง ที่จะช่วยชาวบ้านชาวนา ให้ได้องค์ความรู้ที่จะพัฒนาชีวิต เลี้ยงตัวเองได้ มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างพอดี
สำหรับโครงการไทยแลนด์ฟู้ดวัลเลย์ เขามองว่า เป็นการทำงานระหว่างนักวิชาการกับคนที่มีความฝันทำงานร่วมกัน
“อย่าลืมว่า คนส่วนใหญ่มีความรู้จำกัดทางเทคโนโลยีบางอย่างเราไม่สามารถหาได้ เราต้องพึ่งนักวิชาการ ในแง่นักวิชาการก็มีความสุขที่ได้ใช้ความรู้ให้เกิดประโยชน์ ข้อด้อยที่มองเห็นของโครงการนี้ คือผลที่เป็นรูปธรรมยังน้อยไป ในแง่ของการประชาสัมพันธ์ค่อนข้างดี ผู้ผลิตหรือบริษัทที่เข้ามาร่วม แต่ไม่รู้ว่าจะได้รับการสนับสนุนระยะยาวหรือไม่ เนื่องจากเป็นโครงการที่ใหม่มาก นี่คือสิ่งที่ผมกังวล” เอกวิทย์ ให้ความเห็น
ขณะที่เพจเฟชบุ๊กของบริษัทฟาร์เมอรส์มาร์เก็ตฯ พบว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กและสุภาพสตรีผู้รักสุขภาพ ด้วยเป็นขนมทีใช้วิธีการอบ ไม่ได้ทอด กินแล้วไม่อ้วน ซึ่งขนมคริสปี้ ป๊อป Crispy POP เป็นข้าวกล้องอบกรอบ ที่มาในรูปแบบขนมกรุบกรอบสไตล์ใหม่ของคนไทยผลิตจากเมล็ดข้าวกล้องโฮลเกรน (Whole Grain Rice) แท้ 100% มีทั้งหมด 3 รสด้วยกัน คือรสดั้งเดิม,รสช็อกโกแลต,รสสตรอเบอรี่
นอกจากอร่อยเบรคแตกแล้ว สรรพคุณยังเพียบ ได้ทั้งวิตามินบีรวม บำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร,วิตามินบี 1 ซึ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคเหน็บชาได้,วิตามินบี 2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก,ฟอสฟอรัส ช่วยในการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน,แคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง,ทองแดง สร้างเมล็ดโลหิต และเฮโมโกลบิน,ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง,โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอ,ไนอะซิน ช่วยระบบผิวหนังและเส้นประสาท และกากอาหาร ข้าวกล้องมีกากอาหารมาก ซึ่งจะทำให้ท้องไม่ผูก และช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้อีกด้วย
เห็นมุมคิดการผลิตสินค้าเชิงนวัตกรรม นำไปต่อยอด แปรรูปจากข้าวไปเป็นขนม เชื่อว่า อนาคตข้าวไทยวันนี้ ยังพอมีหวัง....