ก.อุตฯ อนุญาตตั้งรง.ผลิตไฟฟ้าเซลล์แสงอาทิตย์
คณะกรรมการกลั่นกรองฯ อนุญาตตั้งโรงงานใหญ่ 9 แห่ง มูลค่าการลงทุนร่วม 4,525 ล้านบาท จ้างแรงงานเพิ่ม 1,267 คน โดยเป็นโรงผลิตพลังงานไฟฟ้า กำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 39.5 เมกะวัตต์
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาการอนุญาตโรงงานบางประเภทที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า การประชุมเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นครั้งที่ 9 ของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ชุดใหม่ โดยมีเรื่องการอนุญาตประกอบกิจการโรงงานที่ผ่านการพิจารณาของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เสนอมาที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จำนวน 12 ราย ซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ได้พิจารณาอนุญาตทั้งสิ้น 9 ราย และคืนเรื่องให้ กรอ. พิจารณาทบทวนจำนวน 3 ราย จึงทำให้ปัจจุบันไม่มีเรื่องค้างการพิจารณาที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯ แต่อย่างใด
“โรงงานผลิตไฟฟ้าที่ผ่านการพิจารณา สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกปี ที่สำคัญคือไม่มีปัญหาการต่อต้านจากชุมชนในพื้นที่แต่อย่างใด โดย 5 แห่งเป็นโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ เพราะถือเป็นพลังงานสะอาดที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดยาวนานกว่าพื้นที่อื่นในประเทศ จึงมีความคุ้มค่าในการลงทุน ส่วนอีกหนึ่งแห่งเป็นโรงงานผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ซึ่งนำวัตถุเหลือทิ้งจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบมาใช้ให้เป็นประโยชน์” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ทั้งนี้โรงงานที่ได้รับการอนุญาตในการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ มี 9 ราย ดังนี้
1. บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (สกลนคร 2) จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 11 ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร ประกอบกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ เงินทุน 560 ล้านบาท แรงงาน 15 คน
2. บริษัท สยามโซลาร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด ตั้งอยู่ที่ ต.หัวทะเล อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ (โครงการ 8 และ 9) ประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ เงินทุน 735 ล้านบาท แรงงาน 12 คน
3. บริษัท อีเอสพีพี จำกัด (โครงการ1) ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเมืองศรีไค อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ เงินทุน 590 ล้านบาท แรงงาน 10 คน
4. บริษัท อีเอสพีพี จำกัด (โครงการ 2) ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลสระสมิง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีประกอบโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ เงินทุน 588 ล้านบาท แรงงาน 10 คน
5. บริษัท อีเอสพีพี จำกัด (โครงการ 3) ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลสระสมิง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ เงินทุน 590 ล้านบาท แรงงาน 10 คน
6. บริษัท ท่าฉางสวนปาล์มน้ำมันอุตสาหกรรม จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 ต.เสวียด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบกิจการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล กำลังการผลิต 10 เมกะวัตต์ เงินทุน 550 ล้านบาท แรงงาน 34 คน
7. บริษัท ซีพีแรม จำกัด ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบกิจการผลิตขนมปัง ขนมเค้ก เงินทุน 224 ล้านบาท แรงงาน 320 คน
8. บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 602 ถ.สุขาภิบาล 8 หมู่ที่ 11 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ประกอบกิจการผลิตผงซักฟอก เงินทุน 300 ล้านบาท แรงงาน 682 คน
9. บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 4796 ถ.สุวินทวงศ์ หมู่ที่ 11 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ประกอบกิจการโรงงานห้องเย็น เงินทุน 388.5 ล้านบาท แรงงาน 174 คน
ส่วนโรงงานที่คณะกรรมการกลั่นกรองฯมีมติคืนเรื่อง มี 3 ราย ประกอบด้วย 1. บริษัท บางจาก โซล่าร์เอ็นเนอร์ยี (ชัยภูมิ 1) จำกัด ให้ กรอ. ตรวจสอบการติดประกาศรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าเป็นตามระเบียบของกระทรวงอุตสาหกรรมหรือไม่ 2. บริษัท สงขลาไบโอ แมส จำกัด ให้ กรอ. พิจารณาทบทวนแผนผังบริเวณโรงงานที่ชัดเจนและแผนการใช้วัตถุดิบที่เป็นเชื้อเพลิง 3. บริษัท ศรีวัฒนา กรีน เพาเวอร์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ ให้ กรอ. พิจารณาทบทวนแผนผังบริเวณโรงงานที่ชัดเจนและแผนการใช้วัตถุดิบที่เป็นเชื้อเพลิง รวมถึงระบบการจัดการมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม