เปิดใจคุณแม่ ‘เอมเมอรัล’ งัดหลักฐานยันไม่มีเตี๊ยมกับรายการลวงคนดู
คุณแม่ ‘เอมเมอรัล’ เผยลูกชายยังมีจิตใจเข้มแข็ง ขอบคุณสังคมให้โอกาส งัดหลักฐานโชว์ยืนยันไม่มีการเตี๊ยมกับรายการลวงคนดู วอน ‘เวิร์คพ้อยท์’ เลิกคุกคาม-จบกันด้วยดี
เชื่อมั่นว่าตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คำว่า ‘สิทธัตถะ เอมเมอรัล’ คงถูกค้นหาในหน้ากูเกิลมากเป็นอันดับต้น ๆ ของไทย เพราะภายหลังเป็นผู้เข้าแข่งขันในรายการไทยแลนด์ก๊อตทาเลนท์ ซีซั่น 3 ออกอากาศเทปแรกทางช่อง 3 เมื่อ 2 มิ.ย. 56 นั้น ทำให้ผู้ชมต่างออกมาตำหนิถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ และบ้างก็ตำหนิถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของคณะกรรมการตัดสินเช่นกัน
ซึ่งบริษัท เวิร์คพ้อยท์ เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแสดงเจตนาว่าไม่ได้ดูหมิ่นหรือต้องการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของใคร พร้อมได้สอบถามคุณแม่ของ ‘เอมเมอรัล’ แล้ว ยืนยันว่าเป็นคนปกติ มิได้เป็นคนกลุ่มพิเศษตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
ล่าสุด (8 มิ.ย. 56) สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นัดเปิดใจคุณแม่ของ ‘เอมเมอรัล’ ณ ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 เพื่อชี้แจงข้อสงสัยที่ยังค้างคาใจคนไทยต่อกรณีดังกล่าวแบบคำต่อคำ ภายหลังเมื่อวานนี้ได้เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์แล้ว (อ่านเพิ่มเติม:คุณแม่ ‘เอมเมอรัล’ ตีแสกหน้า ‘เวิร์คพ้อยท์’ ยันลูกผิดปกติ-โดนทีมงานล็อบบี้ปิดปาก)
คุณแม่ กล่าวว่า รายการไทยแลนด์ก๊อตฯ เป็นรายการที่ดี เพราะเป็นเวทีที่ให้โอกาสคนมีความสามารถได้แสดงออก ซึ่งแม่และครอบครัวเริ่มติดตามตั้งแต่ซีซั่น 2 และเป็นจุดเริ่มต้นทำให้น้องอยากมาสมัคร เพื่อโชว์ความสามารถร้องเพลงในรายการ เมื่อแม่เห็นถึงความตั้งใจจึงพามา โดยไม่มีเจตนาจะทำร้ายรายการแต่อย่างใด
ซึ่งวันที่ออดิชั่นในโรงละครอักษรานั้น แม่พาน้องมาตอน 8 โมงเช้าตามเวลานัดหมาย โดยได้หมายเลขผู้เข้าแข่งขันเบอร์ 9 แต่เมื่ออัดเทปรายการนั้นแม่ก็สงสัยว่าทำไมถึงยังไม่ออกมาแสดงความสามารถสักที เมื่อน้องออกมาก็เล่าให้ฟังว่า เขาถูกย้ายให้แข่งขันลำดับหลังสุด ซึ่งน้องคิดว่าเครื่องเสียงอาจมีปัญหา แต่ความจริงแล้วทีมงานบอกว่ากรรมการเป็นคนสั่งไม่ให้ออกไป
พร้อมระบุอีกว่า เมื่อน้องโดนคณะกรรมการตำหนิถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่ให้ผ่านนั้น ขณะที่เดินออกจากเวที แม่ไม่มั่นใจว่าเป็นทีมงานหรือนักข่าวเข้ามากล่าวกับน้องว่า “ทำไมไม่ด่ากรรมการ” หากแต่น้องเฉย ๆ ไม่พูดอะไรตอบ ซึ่งก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องพูดกับน้องแบบนั้น
เมื่อถามถึงเหตุผลที่บุตรชายเลือกร้องเพลงเปาบุ้นจิ้น คุณแม่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า น้องเป็นคนชอบดูหนังเรื่องนี้ และจำเนื้อมาร้องเพลง นอกจากนี้ยังชอบร้องเพลงเกาหลีด้วย ซึ่งน้องไม่เคยแสดงความสามารถที่อื่นเลย จึงถือว่าเวทีไทยแลนด์ก๊อตเป็นแห่งแรกที่เปิดโอกาสให้
แต่เมื่อมีการถ่ายทำเพื่ออัดเทปรายการขึ้น ทันทีที่น้องถูกหนึ่งในคณะกรรมการตำหนิ แม่ก็รู้สึกว่าตำหนิน้องมากเกินไป โดยเฉพาะช่วงที่คุณภิญโญส่งน้ำให้น้อง คุณเบ็นซ์ พรชิตากลับบอกว่าส่งน้ำให้แล้วยังไม่ขอบคุณ หรือการกดไม่ให้ผ่านทั้งที่ยังไม่แสดง ย่อมส่งผลกระทบให้น้องใจเสียได้ ขนาดแม่ยังใจเสียแทน ถ้าหากคณะกรรมการไม่พอใจก็ควรอดทน แล้วกดไม่ผ่าน ปัญหาทุกอย่างก็จบ
“เราสอนลูกประจำก่อนขึ้นเวทีจะต้องสวัสดีทั้งกรรมการ คนชม แม่ก็สอนเขา แต่เขาไม่ได้ทำ แล้วจะมาหาว่าแม่ไม่ได้สอนได้อย่างไร อย่างลูกชายคนเล็กเราก็สอนว่าไปบ้านเพื่อนต้องไหว้พ่อแม่เพื่อนนะ แล้วจะมาว่าอย่างนี้ไม่ถูก ในเมื่อลูกเราเป็นแบบนี้จะมาตำหนิได้อย่างไร”
และว่า...แม่คิดเหมือนกันทำไมรายการถึงไม่ตัดเทปของน้องออก เพราะการแสดงไม่ดี รายการไม่กลัวเสียชื่อเสียงหรือ?? ที่สำคัญเทปนี้อัดตั้งแต่ 20 มี.ค. 56 ถือเป็นเวลา 2 เดือนที่จะต้องมีการตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหารายการ แต่สรุปว่าเทปของน้องได้ออกอากาศ จึงไม่ทราบข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่ถูกตำหนิจากสังคมว่าพาลูกซึ่งเป็นเด็กพิเศษไปออกรายการนี้ คุณแม่แจงว่า แม้น้องจะมีพฤติกรรมผิดปกติ แต่แม่ก็ไม่กล้าตัดสินใจห้ามไม่ให้ไปออกรายการ เพราะยังไม่เคยพาไปพบจิตแพทย์ เนื่องจากน้องไม่ยอมไป และแม่ก็คิดว่าการไปพบจิตแพทย์ต้องเกิดจากความสมัครใจเท่านั้น
“เวลาน้องอยู่กับครอบครัวก็ยิ้มแย้มบ้าง แต่พอออกไปข้างนอกจะเคร่งขรึม ซึ่งส่วนมากจะไปไหนมาไหนกับแม่ เพราะน้องจะไม่ชอบเข้าสังคม เช่นเดียวกับสมัยเรียนพอโรงเรียนเลิกก็กลับบ้านเลย”
ส่วนกรณีถูกกล่าวหาว่าน้องต้องการชื่อเสียงนั้น คุณแม่กล่าวว่า ไม่มีทางสร้างชื่อเสียง เพราะเรายังคิดว่าน้องร้องเพลงไม่ดี ทำไมคณะกรรมการให้ผ่านเข้ารอบ หากจะนำการแสดงโชว์ที่แย่ไปออกอากาศจริง ควรจะเลือกเทปการแสดงที่ไม่ละเมิดศักดิ์ศรีคนเช่นนี้
นอกจากนี้ยังยืนยันต่อข้อเท็จจริงที่ ‘ตุ๊กกี้ ชิงร้อย’ ระบุผ่านสื่อว่า ช่วงที่อัดเทปรายการตอน ‘เอมเมอรัล’ นั้น ไม่ได้อยู่ในรายการ โดยภาพที่เห็นว่ามีการแสดงท่าทีส่อดูหมิ่นนั้นถ่ายทำทีหลัง อาจเป็นความจริง เพราะแม่กับน้องไม่เห็นตุ๊กกี้กับน้าเน็กวันนั้นเลย จึงเป็นไปได้ที่จะมาตัดต่อเพิ่มใส่ในรายการ
ซึ่งภายหลังตกเป็นกระแสข่าว แม่ได้พูดให้กำลังใจน้องว่า ถึงจะร้องเพลงไม่เข้ารอบก็ไม่เป็นไร คนเราไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้อง ถ้าอยากร้องเพลงก็ร้องที่บ้านได้ โดยขณะนี้น้องยังมีจิตใจที่เข้มแข็งดีเช่นเดียวกับแม่
อย่างไรก็ตาม เรียกร้องให้คณะกรรมการแสดงความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าว พร้อมเปิดเผยต่อว่า มีผู้หญิง 3 คน อ้างว่าเป็นทีมงานจากเวิร์คพ้อยท์มาพบเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 56 เพื่อมาขอร้องให้ทุกฝ่ายคืนดีกันพร้อมให้ยืนยันว่าน้องปกติ และให้แม่ถ่ายรูปกับเขา โดยหนึ่งในทีมงานบอกว่า เก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งแม่ก็เผลอถ่ายไป พอมานั่งคิดอีกทีก็กังวลว่าหากรูปถ่ายเผยแพร่ออกไป คนจะเข้าใจว่ามีการเตี๊ยมกันอย่างที่เป็นข่าว
นอกจากนี้ทีมงานเวิร์คพ้อยท์ยังมาพบแม่อีกในวันที่ 6 มิ.ย. 56 แต่คราวนี้พ่อลงไปบอกว่าแม่ไม่อยากพบ ทำให้ทีมงานต้องกลับไป ซึ่งตอนนี้เมื่อมีเบอร์โทรศัพท์เข้ามาก็กังวลว่าจะเป็นเบอร์เวิร์คพ้อยท์ เพราะมักโทรมาช่วงบ่าย ๆ จึงอยากให้จบกันไป
ก่อนจากกัน คุณแม่ฝากขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการช่วยดูแลเรื่องทั้งหมดเพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด เพราะเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับผู้ปกครองที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ พร้อมวอนให้คนไทยเปิดพื้นที่ให้กลุ่มเด็กพิเศษได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคม โดยเฉพาะด้านการแสดงความสามารถที่ไม่ควรถูกปิดกลั้น
สุดท้าย คุณแม่ได้นำหลักฐานการเข้าออดิชั่นในรายการไทยแลนด์ก๊อตฯ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการเตี๊ยมหรือถูกชักชวนจากทางรายการแต่อย่างใด นั่นคือ ‘เอกสารผ่านเข้ารอบการแข่งขัน’ นั่นเอง .
เอกสารที่คุณเเม่ระบุว่า เวิร์คพ้อยท์ ส่งมาให้ที่บ้าน เพื่อประกาศว่า เอมเมอรัล ผ่านเข้ารอบออดิชั่นที่โรงละคร
อ่านประกอบ :
ครู ร.ร.วัดสุทธิฯ จี้ เวิร์คพอยท์ เปิดชื่อ-นามสกุลจริง “สิทธัตถะ เอมเมอรัล”
จดหมายเปิดผนึก ถึง “คุณปัญญา” ไทยแลนด์ก็อตฯ เมืองไทย (กำลัง) เสื่อมจนคนระอา...?
“เวิร์คพอยท์” การันตี “เอมเมอรัล” โชว์เพลง “เปาบุ้นจิ้น” ไม่มีเตี๊ยม -สมัครมาจริง
ย้อนรอยโชว์ ‘ไทยแลนด์ก๊อตฯ’ คู่เทียบ ‘เอมเมอรัล’
“ตุ๊กกี้” ปัดตอบปม“สิทธัตถะ เอมเมอรัล” อ้าง “เวิร์คพอยท์” สั่งห้ามพูด