"สมคิด บุญถนอม"แถลงสละเก้าอี้ ปลดชนวนขัดแย้งไทย-ซาอุฯ มุสลิมใต้ยุติเคลื่อนไหว
พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (ผบช.ภ.5) เปิดแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้น 2 บช.ภ.5 อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อบ่ายวันพุธที่ 22 ก.ย.2553 ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วยผบ.ตร.) ตามที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติแต่งตั้ง เพื่อปลดล็อคปัญหาไทย-ซาอุฯ และฝากขออภัยพี่น้องมุสลิมทั่วทั้งประเทศ
"ตามที่ปรากฏข่าวว่า นายนาบิล ฮุสเซน อัชรี อุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย แสดงความไม่พอใจการแต่งตั้งผมให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยกล่าวหาว่าอยู่ระหว่างต้องคดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญานั้น
จากความไม่พอใจข้างต้น อาจจะกระทบต่อพี่น้องมุสลิมจำนวน 13,000 คนที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบียในเดือน ต.ค.ปีนี้ ขณะเดียวกันมีข้อเรียกร้องให้ผมแสดงความเสียสละ ไม่รับตำแหน่งสูงขึ้น เพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบกับพี่น้องมุสลิมที่จะเดินทางไปร่วมประกอบพิธีทำฮัจญ์ดังกล่าว
ผมขอถือโอกาสแสดงความเคารพต่อความศรัทธาอันแรงกล้าของพี่น้องมุสลิมในโอกาสไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ ปฏิบัติศาสนกิจเพื่อแสวงบุญอันยิ่งใหญ่ที่นครเมกกะ และขออภัยต่อเหตุการณ์ของผมที่ถูกเชื่อมโยงไปเป็นเงื่อนไขอันอาจส่งผลกระทบต่อการขอวีซ่าเพื่อเดินทางในครั้งนี้
ดังนั้น ผมขอแสดงเจตจำนงที่แน่วแน่ด้วยการสละสิทธิ์ไม่รับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อสนับสนุนพี่น้องมุสลิมให้ได้มีโอกาสไปแสวงบุญ ซึ่งก็เป็นสิริมงคลกับผมด้วย และเป็นการป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่ปรารถนาดีนำพี่น้องมุสลิมผู้บริสุทธิ์ไปขยายผลสู่ประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา และเกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับคดีการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯนั้น เรื่องนี้ในส่วนกระบวนการสอบสวนของดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) นั้นมีพิรุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง (อดีตอธิบดีดีเอสไอ) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย (อดีตรองอธิบดีดีเอสไอ) และ พ.ต.ท.เบญจพล จันทวรรณ พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ได้ร่วมกันไปจับกุมตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก จำเลยที่หลบหนีหมายจับของศาลมีนบุรี แล้วนำกลับมาเป็นพยานในการดำเนินคดีผมอีกครั้ง และเป็นผู้ที่กลับคำให้การในชั้นศาล
เดิม พ.ต.ท.สุวิชชัย เคยให้การว่าไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ครั้งนี้เปลี่ยนใหม่เป็นเห็นเหตุการณ์ และ พ.ต.ท.สุวิชชัย ยังเป็นผู้นำวัตถุพยานเป็นแหวนของกลาง อ้างว่าเป็นของนักธุรกิจซาอุฯผู้ตาย ซึ่งอยู่ที่ พ.ต.ท.สุวิชชัย และ พ.ต.ท.สุวิชชัย อ้างว่าเก็บไว้ มามอบให้พนักงานสอบสวน แต่หลังจากนั้นดีเอสไอได้ปล่อยตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย จำเลยคดีฆ่าคนตายให้หลบหนีไป ซึ่งเรื่องนี้ผมได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลอาญาไว้ในคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตไว้แล้วส่วนหนึ่ง
ผมจึงขอฝากปัญหาไปยังท่านอุปทูตซาอุดิอาระเบียด้วยว่า คดีที่ผมถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนักธุรกิจซาอุฯที่ดีเอสไอฟ้องร้องเอาผิดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาลอาญา ผมขอความกรุณาได้อดทนรอขั้นตอนการพิจารณาของศาลซึ่งจะมีการเรียกสอบพยานปากแรกในเดือน พ.ย.นี้แล้ว และขอวิงวอนให้ท่านอุปทูตได้กรุณาสอบถาม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึงผลการสอบสวนกรณีที่ผมได้ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องดังกล่าวที่พนักงานดีเอสไอปล่อยตัว พ.ต.ท.สุวิชชัย ซึ่งดีเอสไอนำกลับมาเป็นพยานฟ้องดำเนินคดีผม และถามถึงผู้รับผิดชอบ
สำหรับการจะรับตำแหน่ง ผบช.ภ.5 หรือตำแหน่งใดต่อไป อยู่ที่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา ยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้รับการบีบคั้นหรือได้รับความกดดันในภาวะวิกฤติจากใคร ไม่มีใครสามารถแทรกแซงการตัดสินใจของผมได้ แต่การปรึกษาหารือนั้นมีผู้บังคับบัญชาเป็นที่ปรึกษา
วันนี้การรับราชการตำรวจและหวังความก้าวหน้ามันเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เรารอคอย แต่หากจะมีสิ่งใดที่มาเป็นผลกระทบ การเป็นตำรวจจะหวังแต่ความก้าวหน้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ความเป็นพี่น้องในหมู่ข้าราชการเราต้องรักษาไว้ บางครั้งสิ่งที่ถูกต้องอาจสร้างความพอใจ ไม่พอใจ หรือไปมีผลกระทบ บางครั้งเราอาจจะเป็นผู้เสียสละให้น้องขึ้นไปก่อนก็ได้ ผมเป็นตำรวจไม่ว่าอยู่ตำแหน่งไหนก็ถือว่าสมกับเงินเดือนที่ประชาชนเสียภาษี เพราะฉะนั้นเป็นตำรวจแล้วไม่มีคำว่าเสียใจ"
มุสลิมใต้ชื่นชม-ประกาศยุติเคลื่อนไหว
การแถลงข่าวของ พล.ต.ท.สมคิด ทำให้องค์กรมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้คลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาการขออนุมัติวีซ่าเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งก่อนหน้านี้มีข้อขัดข้องติดขัดหลายประการ
ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา องค์กรมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จ.สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีทั้งอิหม่าม ผู้บริหารมัสยิด ผู้ประกอบการกิจการฮัจญ์ ผู้นำกลุ่มฮัจญ์ ผู้แสวงบุญ สมาคมมุสลิม และกลุ่มผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม จำนวนกว่า 500 คน รวมตัวแสดงพลังเพื่อเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทยกับซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ดี เมื่อทราบถึงการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.สมคิด เพื่อสละเก้าอี้ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทำให้ นายวิสุทธิ์ บิลลาเต๊ะ หัวหน้าฝ่ายวิชาการและการต่างประเทศ สำนักงานกิจการฮัจญ์ จ.สงขลา และหัวหน้าศูนย์ประสานงานสำนักจุฬาราชมนตรีภาคใต้ กล่าวว่า การประกาศไม่รับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ของ พล.ต.ท.สมคิด เป็นความเสียสละอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการแสดงออกที่หวังว่าจะนำสู่ไปสู่ความปรองดองระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบียได้ นับว่าเป็นเรื่องควรค่าแก่การชื่นชม
"ขอเรียกร้องให้รัฐบาลใช้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนในการสร้างความสงบร่มเย็น ความสมานฉันท์ปรองดอง ซึ่งจะต้องยืนอยู่บนความยุติธรรมและการเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ควรตระหนักว่าการปกครองที่ไร้ความยุติธรรมคือชนวนสำคัญที่ทำให้สังคมขาดความสมดุลและนำไปสู่เหตุการณ์รุนแรงได้" นายวิสุทธิ์ กล่าว และว่า องค์กรมุสลิมใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขอประกาศยุติการเคลื่อนไหวทุกอย่างหลังจากนี้ เพราะสถานการณ์คลี่คลายและจะไม่มีการละหมาดฮายัตตามที่กำหนดไว้ เพราะมองว่าพระเจ้าได้ประทานพรอันยิ่งใหญ่ให้กับชาวไทยมุสลิมแล้ว
---------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : สำนักข่าวเนชั่น เอื้อเฟื้อเนื้อหาข่าวและภาพ