อยากรู้ไหมนักการเมืองคนไหน ใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วถูกจับได้ ?
อยากรู้ไหมนักการเมืองคนไหน ใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วถูกจับได้ ? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร? พี่ เก่ง-การุณ และ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ มีคำตอบ!!
ท่ามกลางธุรกิจการรับจ้างทำวุฒิการศึกษาเถื่อน ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น FACEBOOK ,YOUTUBE เพียงแค่คุณมีกำลังเงินเพียงพอ อยากได้วุฒิการศึกษาระดับไหน ตั้งแต่มัธยม ปวช.ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาโท หรือแม้กระทั่งปริญญาเอก มีผู้จัดการให้เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งเรียนในห้องเรียนให้เหนื่อยเหมือนคนปกติทั่วไป
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ในยุค คนชื่อ พงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่แสดงท่าทีอะไรชัดเจนออกมาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้?
(อ่านประกอบ : รับจ้างทำวุฒิเถื่อน โผล่ "ยูทูป" “มัธยม- ปวช.-ปวส.”จ่ายหลักหมื่น ป.ตรี 1.2 แสน)
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในอดีตเคยมีนักการเมืองรายหนึ่ง ที่ถูกตรวจสอบพบว่า ใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา แล้วถูกจับได้ ?
นักการเมืองรายที่ว่านั้น ก็คือ นายการุณ โหสกุล หรือ “เก่ง” อดีต ส.ส.ดอนเมือง พรรคเพื่อไทย
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ระบุว่า ในช่วงปี 2548 ศาลฎีกา เคยมีคำสั่งให้เพิกถอนการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของนายการุณ ด้วยเหตุผลว่า สถานภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชของนายการุณถูกถอน อันเนื่องจากวุฒิการศึกษาระดับ ปวส. ของนายการุณเป็นเท็จ ดังนั้นแม้จะมีวุฒิปริญญาโทแล้ว แต่ก็ถือว่าตกคุณสมบัติไปตามกัน
อย่างไรก็ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไม่กำหนดระดับการศึกษาขั้นต่ำของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้นายการุณยังคงมีคุณสมบัติเป็น ส.ส. ต่อไป
ทั้งนี้ นายการุณ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาหลายตำแหน่ง อาทิ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 สังกัดพรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง ได้พิพากษา ยกฟ้อง เก่ง-การุณ โหสกุล ส.ส.กทม.เพื่อไทย แพ้คดี ฟ้อง ม.สุโขทัยธรรมาธิราช สภามหาวิทยาลัย เพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา ยกเลิกปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์ หลังตรวจสอบใช้วุฒิ ปวส. ปลอม สมัครเป็นนักศึกษา
คดีดังกล่าว นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้อง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ( มสธ.) และสภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 เรื่องเป็นหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีที่สภามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีมติยกอุทธรณ์ นายการุณ ที่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ได้ถอนสภาพการเป็นผู้สำเร็จการศึกษา และยกเลิกปริญญารัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิตที่ออกให้นายการุณ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 43
เนื่องจากพบว่านายการุณใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการสมัครเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษา
โดยศาลพิเคราะห์ แล้วข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า วันที่ 30 มิถุนายน 2542 นายการุณ ผู้ฟ้องสมัครเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาตรี สาขาวิทยาการจัดการโดยใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาการบัญชี จากโรงเรียนเทคนิคธุรกิจบัณฑิต จ.นครศรีธรรมราชที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษาปี 2540 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 แล้วต่อมาปี 2543 ผู้ฟ้อง ได้ใช้หลักฐานระเบียนแสดงผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ( ปวส.) สาขาวิชาการตลาดจากโรงเรียนธนกิจพาณิชยการ กทม. ที่ระบุว่าผู้ฟ้องจบการศึกษาของปีการศึกษา 2529 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 31 มาสมัครเข้าศึกษาระดับปริญญาตรีอีกในสาขาวิชาการวิทยาการจัดการ แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ วิชาเอกรัฐประศาสนศาสตร์ โดยจบการศึกษาวันที่ 30 ตุลาคม 43
ต่อมาสำนักทะเบียนและวัดผลของ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ผู้ถูกฟ้องที่ 1 ตรวจสอบหลักฐานวุฒิการศึกษาของผู้ฟ้องแล้ว
พบว่า สถานศึกษาดังกล่าวแจ้งว่า ผู้ฟ้องไม่ได้เป็นนักเรียน และไม่ปรากฏรายชื่อเป็นผู้จบการศึกษาแต่อย่างใด ซึ่งหลักฐานเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาถูกจัดทำขึ้นในภายหลัง
จึงส่งผลให้ผู้ฟ้องขาดคุณสมบัติรับการศึกษาระดับปริญญาตรี ผู้ถูกฟ้องจึงสั่งเพิกถอนสภาพการเป็นนักศึกษา และยกเลิกปริญญาบัตร การที่ผู้ถูกฟ้องทั้งสองมีมติจึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง
ทั้งนี้ นอกจากกรณีของ นายการุณ แล้ว นักการเมืองอีกรายหนึ่ง ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาดให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีขาดคุณสมบัติในเรื่องวุฒิการศึกษา คือ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตส.ส.จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์
เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้น หลังจากที่ นายชาญชัย ถูกนายสุทิน ใจจิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จังหวัดนครนายก ทำหนังสือคัดค้านคุณสมบัติของนายชาญชัย ฯ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
โดยระบุว่า การสำเร็จปริญญาตรีของนายชาญชัย ฯ น่าจะเป็นโมฆะ เพราะนายชาญชัย ฯ ได้นำเอาวุฒิการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ชุดที่ 1554 เลขที่ สชก 012430 จากโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจเป็นหลักฐานที่มีปัญหา นำมาเทียบโอนหน่วยกิตและเรียนต่อในมหาวิทยาลัยศรีปทุมจนสำเร็จปริญญาตรี
เบื้องต้น ได้มีการร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาเอกชน องค์การค้าของคุรุสภา และกระทรวงศึกษาธิการ ตรวจสอบวุฒิการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) ดังกล่าว ของนายชาญชัย ฯ
ปรากฏผลการ ตรวจสอบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ของโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจ ซึ่งได้เลิกกิจการไปแล้วเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2537 และได้ส่ง หลักฐานเก็บไว้ที่สำนักงาน ฯ แล้ว ไม่ปรากฏชื่อนายชาญชัย ฯ ในหลักฐานของโรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์บริหารธุรกิจ ทั้งปีการศึกษา 2533 และปีการศึกษา 2534 แต่อย่างใด
ขณะที่องค์การค้าของคุรุสภาได้ตรวจสอบการจัดขายใบระเบียบแสดงผล การเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ เทคนิค (รบ. ปวท.) เลขที่ สชก 012430 ชุดที่ 1554 ซึ่งเป็นชุดเดียวกับใบ รบ. ปวท. ชุดที่ 1554 ที่องค์การค้าของคุรุสภาได้ขายให้กับโรงเรียนเกษมโปลีเทคนิค ไม่ใช่โรงเรียนเทคนิคมารดานุเคราะห์ บริหารธุรกิจและกระทรวงศึกษาธิการได้แจ้งผลการตรวจสอบต่อทบวงมหาวิทยาลัยว่า กระทรวงศึกษาธิการมีความเห็นว่า รบ. ปวท. ชุดที่ 1554 เลขที่ สชก 012430 ที่นายชาญชัย ฯ นำไปสมัครขอเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม น่าจะเป็นเอกสารปลอม การสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายชาญชัย ฯ ไม่น่าจะกระทำได้
ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงเหล่านี้ หากจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า นักการเมืองคนไหน ใช้วุฒิการศึกษาปลอมแล้วถูกจับได้?
เชื่อว่าชื่อของนายการุณ และนายชาญชัย น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่อยู่ในความทรงจำใครหลายคน ในเวลานี้!!