ผู้การปัตตานียัน 8 เดือนผลงานเพียบ แจงปม "ส่วย-อบายมุข" ที่อื่นหนักกว่าเยอะ!
แวลีเมาะ ปูซู
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุปาระเบิดที่หน้าโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี ตามด้วยคาร์บอมบ์ห่างจากโรงพักไม่ถึงร้อยเมตร จนมีตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บอีกกว่าครึ่งร้อย เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ในจังหวัดปัตตานีถูกเพ่งมองจากหลายฝ่ายมากเป็นพิเศษ
แม้หลังจากเกิดเหตุราว 1 สัปดาห์ จะมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต จากเก้าอี้ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี แต่นั่นดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ...
เพราะการทำงานของ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) ก็ถูกตั้งคำถามไม่น้อยเช่นกัน
“ทีมข่าวอิศรา” ได้มีโอกาสพูดคุยแบบยาวๆ กับ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ซึ่งเจ้าตัวได้นำข้อมูลอีกด้านหนึ่งมาเปิดเผยแจกแจง ซึ่งสวนทางกับเสียงวิจารณ์ต่างๆ อย่างสิ้นเชิง
บทสัมภาษณ์ที่สะท้อนตัวตนและผลงานของ “ผู้การปัตตานี” ชิ้นนี้ นับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผู้ที่เกาะติดสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!
O ประเมินผลงานในรอบ 8 เดือนของตัวเองเอาไว้อย่างไร?
ดีครับ เพราะเรามีนโยบายชัดเจนในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานมวลชน งานปราบปรามยาเสพติด งานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา การจับกุมคดีค้างเก่า และงานการป้องกันปราบปราม ทั้งหมดที่เราทำในเชิงรุกเพื่อให้ชาวบ้านอยู่ได้ ที่ผ่านมาสถิติคดีอาญา คดีความความมั่นคง เหตุระเบิด เหตุยิง และยาเสพติด ตัวเลขลดลงชัดเจน
ผมมีโครงการที่ทำมาตลอดในพื้นที่ คือเราจะให้ สภ. (โรงพัก) ในพื้นที่เป็นผู้ทำงานไตรมาสต่อไตรมาสอยู่ 4 ด้านด้วยกัน โดยผมกำหนดเป้าหมายเอาไว้อย่างชัดเจน คือ งานมวลชน งานปราบปรามยาเสพติด งานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา และงานป้องกันปราบปราม ทั้ง 4 ด้านนี้ทางผู้กำกับการทุกโรงพักจะต้องไปปฏิบัติ และต้องรายงานกลับมาทุก 7 วัน งานมวลชนได้เข้าไปหามวลชนกับใครอย่างไร ซึ่งผมเน้นไปทำมวลชนกับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ อาจจะเป็น อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือกำนันผู้ใหญ่บ้าน
ทั้ง 4 ด้านที่กำหนดมาตรการให้เขาทำนั้น ผมเน้นงานมวลชนเป็นงานหลัก เพราะเราตระหนักดีว่าถ้าอยากให้ประชาชนเข้าใจ ไว้วาง งานมวลชนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้แต่บทบาทหน้าที่ในการสืบสวน ถ้าหากว่างานมวลชนเข้าไม่ถึง เราก็ไม่สามารถรู้ข้อมูลได้ ประชาชนก็จะไม่ให้ความร่วมมือกับเรา ก็จะไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้
ฉะนั้นงานมวลชนต้องทำทุกรูปแบบ ต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ ผู้กำกับต้องไปคลุกงานมวลชน แล้วก็มีรูปถ่ายปรากฏมาว่าได้ทำอะไรบ้าง สิ่งนี้ต้องมารายงานให้ผมทราบทุกๆ 7 วัน จากนั้นก็จะนำมาวิเคราะห์ถึงอุปสรรคปัญหา และกำหนดแนวทางแก้ไขต่อไป
O สถิติคดีอาญาและคดีความมั่นคงเปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังจากที่ท่านมารับตำแหน่ง ยืนยันว่าลดลง?
สถิติคดีอาญาของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (บก.ภ.จว.ปัตตานี) พบว่าคดีอาญาทั้งหมดเมื่อเดือน มี.ค.-ก.ย.2552 เกิดทั้งหมด 300 คดี ทั้งคดีทั่วไปและคดีฆ่ากันตาย แต่ว่าเดือน ต.ค.2552 ถึง เม.ย.2553 (ช่วงที่ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ดำรงตำแหน่ง) เกิดขึ้น 250 คดี ลดลง 50 คดี คิดเป็น 16.67%
คดีความมั่นคง ช่วงเดือน มี.ค.-ก.ย.2552 มีทั้งหมด 189 คดี แต่ช่วงเดือน ต.ค.2552 ถึง เม.ย.2553 ลดลงเหลือ 149 คดี หรือลดลง 40 คดี คิดเป็น 21.16% ส่วนคดีอาญาที่เหลืออีกประมาณ 101 คดี (จากยอดรวม 250 คดี) เมื่อแยกเป็นคดีความมั่นคง 149 คดีแล้ว จะเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น คดียาเสพติดและเรื่องส่วนตัว
เหตุระเบิด ช่วงเดือน มี.ค.-ก.ย.2552 มีทั้งหมด 37 คดี ส่วนช่วงเดือน ต.ค.2552 ถึง เม.ย.2553 มี 31 คดี ลดลง 6 คดี เหตุยิง ช่วงเดือน มี.ค.-ก.ย.2552 มีทั้งหมด 128 คดี แต่ช่วงเดือน ต.ค.2552 ถึง เม.ย.2553 เหลือ 104 คดี ลดลง 24 คดี
หมายจับ ป.วิอาญา (ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) ช่วงหลังเราออกหมายจับเยอะ ออกหมายไป 85 ราย จับได้ 48 ราย มอบตัว 9 ราย หมายจับ พ.ร.ก. (ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548) ออกหมาย 38 ราย จับได้ 29 ราย
ส่วนการวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายมี 9 รายด้วยกัน แยกเป็นพื้นที่ สภ.แม่ลาน 1 ราย สภ.โคกโพธิ์ 6 ราย สภ.สายบุรี 1 ราย และ สภ.ทุ่งยางแดง 1 ราย เมื่อเปรียบเทียบกับห้วงเดือน มี.ค.-ก.ย.2552 (ช่วงก่อนที่ พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จะเข้ามารับตำแหน่ง) วิสามัญฯไปแค่ 2 ราย แต่ช่วงเดือน ต.ค.2552 ถึง เม.ย.2553 วิสามัญฯไป 9 คน กลายเป็นว่าทำให้คนร้ายจ้องมองปัตตานีเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อรุกเขามาก เขาก็ต้องรุกเราเหมือนกัน แล้วบวกกับเราไปจับยาเขามาก (หมายถึงยาเสพติด) ผมเชื่อว่าปัญหาส่วนหนึ่งของพื้นที่นี้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย
O แล้วผลงานด้านการปราบปรามยาเสพติด มีผลการจับกุมมากน้อยขนาดไหน?
สถิติการจับกุมช่วง 6 เดือนก่อนที่ผมมาอยู่ จับได้ 864 ราย ผู้ต้องหา 994 คน 6 เดือนหลังที่ผมมาอยู่เราจับได้ 890 ราย ผู้ต้องหา 1,032 คน เพิ่มขึ้น 26 ราย
ประเภทของยาเสพติด 3 อันดับแรกที่จับได้มากที่สุด คือ 1.พืชกระท่อม จับได้ 389 ราย ผู้ต้องหา 482 คน 2.กัญชา จับได้ 175 ราย ผู้ต้องหา 191 คน และ 3.ยาบ้า จับได้ 182 ราย ผู้ต้องหา 203 คน
การดำเนินงานของ ศตส.จว.ปัตตานี (ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด จ.ปัตตานี) ตั้งเป้าการจับนักค้ารายสำคัญ เป้าหมาย 5 ราย แต่จับได้ 9 ราย นักค้ารายย่อย เป้าหมาย 88 ราย จับได้ 180 ราย นักค้าตามหมายจับ เป้าหมาย 6 ราย จับกุมได้ 12 ราย นักค้าตรวจสอบทรัพย์สิน เป้าหมาย 6 ราย จับกุม 10 ราย
จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่ที่อยู่ในเครือข่ายการระบาดมองว่าตำรวจลุยหนัก เพราะเราจับกุมรายใหญ่ได้ 15 ราย ได้ของกลางมากที่สุด 28,000 เม็ดจากรายเดียว ส่วนที่เหลือประมาณ 1,000 - 2,000 เม็ด
เรื่องปืน เราจับได้ 72 กระบอก เป็นอาวุธปืนสงคราม 14 กระบอก และปืนพกธรรมดา 58 กระบอก ทุกอย่างเกินเป้าหมด ก็มากถ้าเปรียบเทียบกัน จังหวัดอื่นผมไม่ทราบว่าเท่าไหร่ เขาจับได้ขนาดนี้ไหม เพราะฉะนั้นเป้าหมายปัตตานีแน่นอนครับ เหมือนกับเรารู้เขา เขาต้องทำลายเราให้ได้ ทำลายตรงไหนก็ได้ที่สามารถขายความเป็นปัตตานีได้
O พื้นที่แพร่ระบาดของยาเสพติดมีอำเภอไหนบ้าง?
ก็มี 4 อำเภอด้วยกัน คือ อำเภอเมือง มายอ ยะรัง และโคกโพธิ์ ที่หนักมากสุดคือการระบาดของพืชกระท่อม ซึ่งสร้างปัญหากับชาวบ้านทุกพื้นที่
O พอใจกับผลงานมากน้อยแค่ไหน?
เทียบกับสถิติที่ลดลง ผลการจับกุม และกิจกรรมที่ลงไปคลุกคลีงานมวลชนต่างๆ ก่อนหน้านี้กับปัจจุบันที่ผมทำหน้าที่แล้ว ผมพอใจนะ อย่างงานมวลชนเราทุ่มเททำลงไปในพื้นที่กว่า 1,000 กิจกรรม เยี่ยมเยียนประชาชน 1,160 ครั้ง ผมมองว่าเมื่องานมวลชนถึง งานสืบสวน งานป้องกันยาเสพติดก็จะต้องตามมา เพราะว่างานยาเสพติดต้องเข้ามวลชนก่อน ถึงจะได้ข่าวยาเสพติดเข้ามา ทำให้ช่วงหลังๆ เราจับได้มาก จับทั้งเครือข่าย รถยนต์ และเงิน ยึดไปพอสมควร
เฉพาะปัตตานีอย่างเดียว ยอมรับว่าเครือข่ายมีเต็มพื้นที่ มาพักแล้วไปขายที่อื่นต่อ แต่เราก็พยายามทำงานเต็มที่ นอกจากจะจับผู้ต้องหาได้แล้ว กิจกรรมปลีกย่อยที่ทำก็มีการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปและในโรงเรียนต่างๆ 200 กว่าครั้ง แล้วก็ตรวจปัสสาวะ 83 ครั้ง
งานมวลชนที่ลงไปในพื้นที่ไม่มีปัญหา ชาวบ้านร่วมมือดี พองานมวลชนออกมาปั๊บ ผลการจับกุมก็มากขึ้น ส่วนงานด้านการสืบสวนสอบสวน ผมเน้นและให้ความสำคัญมากที่จะให้เกิดความเป็นธรรมกับประชาชน พนักงานสอบสวนจะต้องให้ความเป็นธรรมในการสอบสวน เราสามารถสืบสวนคดีสำคัญๆ และจับกุมคดีค้างเก่า เฉพาะคดีค้างเก่าเราจับกุมทั้งหมด 193 คดี
การทำงานผมไม่ได้ทำคนเดียว ผมมีที่ปรึกษา ผมตั้งไว้ 3 ชุด คือ 1.ชุดพ่อค้าคหบดี 2.กลุ่มอาจารย์ 3.กลุ่มประธานชุมชนท้องถิ่น กำนันแต่ละอำเภอและเจ้าของโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม จะมาประชุมกันเพื่อร่วมคิดแก้ปัญหาของปัตตานี
O ภาพที่ออกมาดูเหมือนสถานการณ์ความไม่สงบในภาพรวมของปัตตานี หลังๆ คนรู้สึกหนักกว่านราธิวาสกับยะลา เป็นเพราะอะไร?
ผมคิดว่าคนร้ายต้องการขายความเป็นปัตตานี เพราะปัตตานีเป็นจังหวัดที่โด่งดัง มีวัฒนธรรม อารยธรรมเก่าแก่ ชื่อเสียงของปัตตานีมากกว่าที่อื่น เหตุการณ์เกิดปัตตานีสักครั้ง รับรองดังไปทั่วโลก เพราะปัตตานีคือ "ฟาฏอนี" อาณาจักรลังกาสุกะอันยิ่งใหญ่ในอดีต
กลับกันที่ จ.ยะลา กี่ครั้งแล้วที่ระเบิดในตลาดสด ส่วนนราธิวาสระเบิดธนาคาร แม้กระทั่งระเบิดที่หน้าโรงพักสุไหงโก-ลก แต่ผู้คนก็ไม่ค่อยสนใจนัก ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ระเบิดที่ จ.ยะลากับนราธิวาสมากกว่าปัตตานีด้วยซ้ำ แต่กลับสนใจแต่ปัตตานี เพราะฟาฏอนีเป็นเมืองดั้งเดิม อารยธรรมดั้งเดิมของปักษ์ใต้เลย ฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามจึงพยายามทำให้เกิดที่ปัตตานีให้ได้ เช่นเดียวกับเหตุระเบิดที่หน้าโรงพัก สภ.เมืองปัตตานี เมื่อเดือน เม.ย. เพราะผลงานของเรามีมากในช่วงที่ผ่านมา
O เมื่อวิเคราะห์ว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะขายความเป็นปัตตานี แล้วทางตำรวจจะรับมืออย่างไร?
นโยบาย 4 ด้านของผมจะปรับให้เข้มขึ้น คือ ผมประเมินทุกๆ 3 เดือน จากนั้นก็ต้องปรับให้เข้มขึ้นต่อไป จากการที่เคยจับจาก 20% ต้องเพิ่มขึ้นเป็น 30% ให้จับคดีค้างเก่าไม่ต่ำกว่า 20% ของที่มีหมายจับ ต่อไปก็ต้องเพิ่มขึ้นอีก
O ปัญหาอื่นๆ ที่วิจารณ์กันมาก ทั้งแรงงานต่างด้าว ขบวนการค้ามนุษย์ สินค้าเถื่อน โต๊ะพนันฟุตบอล ได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง?
แรงงานต่างด้าวเขาก็ทำบัตรทุกปี ไปตรวจสอบได้เลยที่แพปลา เขามีบัตรทุกคนเลย ถ้าต่างด้าวไม่อยู่ปัตตานี แพปลาปัตตานีอยู่ได้ไหม รับรองเจ๊ง เมื่อมีแรงงานต่างด้าวก็ต้องมีคาราโอเกะ เป็นสถานบริการเฉพาะกลุ่มพวกเขา แต่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องการถูกข่มขืน ยิงกัน คดีใหญ่ๆ ฆ่าแล้วข่มขืน...ปัตตานีไม่มี
เรื่องผลประโยชน์ต่างๆ หรือของเถื่อน จะบอกว่าปัตตานีค้าของเถื่อนเยอะ ถามว่าน้ำมัน ผู้ที่รับผิดชอบชายฝั่งคือตำรวจน้ำ ศุลกากร แล้วมันเข้ามาได้อย่างไร เขามาทางเรือ มีเรือประมงเข้ามา เขาก็มีน้ำมันอยู่แล้ว เพราะเอาไว้ขับเอง คนอื่นจะไปทำอะไรได้ ทางเราถ้ารู้ว่ามีก็จะเข้าไปจับครับ แต่มันไม่เคยมี
ผมเชื่อว่าที่นี่ไม่มีบ่อนการพนัน พวกอบายมุข คาราโอเกะก็เรื่องธรรมดา แพปลาต้องมีแน่นอน เพราะคนออกทะเล ต้องมานั่งฟังเพลง ร้องเพลง อย่างโต๊ะบอลก็มีประปราย เด็กมันเล่น เพราะเราก็จับอยู่เรื่อยๆ แต่ที่อื่นมีไหมครับ ผมเชื่อว่ามีมากกว่าปัตตานีอีก
การที่สื่อบางแขนงออกมาระบุถึงปัตตานีลักษณะนั้น เขามองด้านเดียว ผมอยากให้ดู จ.ยะลา กับนราธิวาส หรือ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก็ได้ ปัญหาที่ว่ามีเยอะกว่าปัตตานีด้วยซ้ำ ต่างจากปัตตานีเยอะเลย
ผมถามว่าจังหวัดอื่นมีส่วยมากกว่านี้ไหม ย้อนไปดูนราธิวาสกับยะลาจะพบว่าปัตตานีมีความต่างกับสองจังหวัดนี้เยอะ นราธิวาสมีร้านค้าของเถื่อนเท่าไหร่ ฝั่ง อ.สุไหงโก-ลก มีอะไร จ.ยะลามีสถานบริการมากไหม แล้วปัตตานีมีอะไร ที่นี่ไม่มีอะไร มีแต่สังคมทั่วไป ก็ต้องมีแหล่งบ้าง คือเขามองด้านเดียว จะเขียนอะไรผมว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับปัตตานีบ้าง
ถ้าเปรียบเทียบผลการทำงานเรามีมากกว่าเพื่อน เราต้องรุก...รุกเพื่อให้ชาวบ้านเขายืนอยู่ได้ ต้องจับให้มาก โดยเฉพาะยาเสพติดและพวกคดีที่ออกหมายจับ ต้องจับให้มากที่สุดครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ในอิริยาบถต่างๆ ระหว่างให้สัมภาษณ์ "ทีมข่าวอิศรา"
อ่านประกอบ :
- รวบผู้ต้องสงสัยบึ้มข้างโรงพักปัตตานี กับปฏิบัติการไล่บี้ของ "บิ๊กสีกากี" และฝ่ายปกครอง
- ผ่าปมบึ้มปัตตานี-เด้งผู้กำกับ...ความไร้เอกภาพในเมืองมากผลประโยชน์
- วิเคราะห์บอมบ์ปัตตานี จุดระเบิด 2 ระบบ-หวังฆ่าหมู่เจ้าหน้าที่
- เด้ง ผกก.เมืองปัตตานีเซ่นระเบิด จับอาวุธล็อตใหญ่จ่อป่วน 6 ปีกรือเซะ
- วันโลกถล่มของตำรวจปัตตานี บึ้มหน้าโรงพัก-คาร์บอมบ์ซ้ำดับ 1 เจ็บกว่าครึ่งร้อย