เปิดอาชีพคนเร่ร่อน ‘รับจ้างติดคุก’ เล่นพนัน-ขายซีดีโป๊
เปิดใจคนเร่ร่อน ‘รับจ้างติดคุก’ แทนคนขายซีดีโป๊-เล่นพนัน ค่าจ้าง 500-3,000 บ. ตำรวจอาจมีเอี่ยว เอ็นจีโอชี้เป็นเหยื่อสังคมเพราะความเหลื่อมล้ำ สน.เจ้าของพื้นที่ปัดไม่เคยรู้เรื่อง
สำนักข่าวอิศรา ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพปัญหาคนใช้ชีวิตในที่สาธารณะ(คนเร่ร่อน)บริเวณคลองหลอด กทม. และได้พบว่าหนึ่งในบรรดาปัญหาต่างๆ ได้แก่ การประกอบอาชีพรับจ้างติดคุกแทนผู้ที่กระทำความผิดในข้อหาจำหน่ายสื่อลามกอนาจาร(ซีดีโป๊) และการพนัน ทั้งพนันฟุตบอล ไพ่ ไฮโล
นายเอ (นามสมมุติ) เล่าว่าเคยประกอบอาชีพรับจ้างติดคุก แทนผู้กระทำความผิดหลายครั้ง โดยจะมีนายหน้าที่ได้รับว่าจ้างจากผู้กระทำความผิดให้มาหาคนไปถูกดำเนินคดีแทน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐอาจจะมีส่วนรู้เห็น เพราะจากประสบการณ์ที่เขาเคยถูกจับกรณีการพนัน พอไปยังสถานที่จับกุมพบว่ามีอุปกรณ์ที่ใช้เล่นถูกจัดเตรียมไว้ เขามีหน้าที่เพียงแสดงชื่อนามสกุลจริงแก่เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น
“ค่าจ้างครั้งละ500-3,000บาท มีคนขี่มอไซด์มาเรียก ซีดีๆไปไหม คือไปรับจ้างติดคุกแทนคนขายซีดีโป๊ บางทีก็แกล้งไปถือถุงซีดีวิ่ง หรือจัดหลักฐานซีดีเอาไว้แล้ว มีหน้าที่ขึ้นรถไปหน่วยงานรัฐ เพื่อสอบพยานหลักฐาน ถึงเวลานายจ้างจะมาประกันตัวและให้ค่าจ้างหน้าศาล บางทีให้เอาที่ร้าน”
นายนที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน ซึ่งทำงานกับผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ กล่าวว่าการรับจ้างติดคุกถือเป็นหนทางหนึ่งของคนใช้ชีวิตในที่สาธารณะในการเลี้ยงชีพให้อยู่รอด ซึ่งแบ่งได้เป็น 1.รับจ้างเข้าไปอยู่ในคุกโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นตัวเงิน แต่แลกกับการอยู่ในพื้นที่ที่มีอาหารมีเสื้อผ้าให้ 2.ได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน อย่างกรณีเจ้าของร้านขายสื่อลากมกอนาจารมาจ้างติดคุกแทน
“คนเร่ร่อนเป็นตัวเลือกแรกๆที่ถูกจ้างให้ไปติดคุก เพราะต้นทุนทางสังคมต่ำ ไม่มีความน่าเชื่อถือในสังคมพูดอะไรไปคนมักไม่ค่อยเชื่อ ล่าสุดมี2-3คนไปรับจ้างคดีบ่อน คดีพนัน ได้คนละ3200บาท”
นายนที กล่าวอีกว่าความเสี่ยงต่อการรับจ้างติดคุก คือถ้าคนเหล่านี้อยากประกอบอาชีพสุจริตก็มีประวัติเสีย หรือคนจ้างอาจไม่ไปประกันตัว และกรณีหนีคดีก็อาจถูกแบลคลิสต์ถ้าไปก่อคดีหรือโดนจับในคดีอื่นก็จะโดนข้อหาเป็นทบต้นเท่า ซึ่งคนเร่ร่อนไม่รู้แน่นอนว่าหลังถูกประกันตัวนั้นคดียังไม่สิ้นสุด
นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคอมพิวเตอร์ กล่าวว่าการจ้างให้รับผิดแทนผู้กระทำความผิดนั้น คนที่ร่วมมือทั้งผู้จ้าง ผู้รับจ้าง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนมีความผิดหลายข้อหา ทั้งการเปิดความเท็จใช้เอกสารเท็จในชั้นศาล ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหลบหนี
กรณีขายสื่อลามกอนาจารถ้าโดนจับตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ อาจจะหลุดคดีง่ายกว่าเพราะสามารถยอมความได้หรือการเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐานสะดวกกว่า แต่หากผิดกฎหมายอาญาและถูกประกันตัวออกมาระหว่างรออัยการส่งเรื่องขึ้นชั้นศาล เมื่อศาลนัดแล้วไม่มา สามารถสอบพยานฝ่ายเดียว ถ้าตัดสินว่าผิดจริงก็ออกหมายจับได้
“การจะยื่นฟ้องได้จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนโดยตำรวจก่อน เพราะฉะนั้นต้องดูว่ากระบวนการสอบสวนทางกฏหมายถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องกรณีจับผิดคนเป็นไปได้ค่อยข้างน้อย หรือหากพบว่าเจ้าหน้าที่มีส่วนร่วมกระทำความผิดจริงก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย” นายไพบูลย์กล่าว
ด้าน พ.ต.ท.นพรุจ จิตมั่น สว.สส.สน.สำราญราษฎร์ พื้นที่เขตรับผิดชอบจากกรณีดังกล่าว กล่าวว่า ตนเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนธันวาคมยังไม่มีการจับซีดีแต่อย่างใด แต่มีจับการพนันบ้างเล็กน้อย และไม่เคยทราบถึงกรณีจ้างให้คนมารับผิดแทน .