‘เอฟเอโอ’เผยราคาอาหารโลกเดือนเม.ย.ลด 1% - ตั้งเป้าปี 58 ลดคนหิวโหยลงครึ่ง
‘เอฟเอโอ’เผยดัชนีราคาอาหารโลกเดือนเม.ย.ลด 1 % คาดปริมาณข้าวสต็อกโลก’56เพิ่ม 16 ล.ตัน เหยียบ 500 ล.ตัน ‘อินเดีย-อินโดฯ’เร่งผลิต ตั้งเป้าปี 58 ลดผู้หิวโหยเอเชียแปซิฟิก 50%
เร็วๆนี้ ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ นายฮิโรยูกิ โคนูมะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่และผู้แทนองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO-เอฟเอโอ)ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยถึงดัชนีราคาอาหารโลก ว่า ดัชนีราคาอาหารโลกเดือนเมษายน 2556 อยู่ที่ 216 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา และต่ำกว่าดัชนีราคาอาหารโลกในช่วงสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 อยู่ร้อยละ 9 ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาอาหารเดือนเมษายนเป็นผลมาจากราคาสินค้านมและผลิตภัณฑ์รวมทั้งเนื้อสัตว์ทั่วโลกที่แพงขึ้น ขณะที่สินค้าอาหารอื่นๆราคาถูกลง
สำหรับดัชนีราคาธัญพืชโลก ณ เดือน เมษายน 2556 อยู่ที่ 235 จุด ลดลง 10 จุดหรือ ลดลงร้อยละ 4.1 จากเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเกือบ 11 จุด หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ทั้งนี้เป็นผลมาจากราคาข้าวโพดที่ถูกลงตามการคาดการณ์ เนื่องจากความนิยมปลูกทำให้ปีนี้มีปริมาณผลผลิตในสต็อกมาก–และเป็นผลจากราคาข้าวที่ลดลงเล็กน้อย โดยข้าวสายพันธุ์อินดิกา(ปลูกในเขตร้อนของเอเชีย เช่น อินเดีย พม่า ไทย ลาว เวียดนาม)ราคาลดลง ขณะที่ข้าวสายพันธุ์จาโปนิกา หรือ ข้าวญี่ปุ่นโดยเฉพาะข้าวหอมราคาสูงขึ้น
โดยเอฟเอโอคาดการณ์ว่า ในปีนี้ผลผลิตธัญพืชโลกจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ในปี 2555 ที่ 2.3 พันล้านตัน โดยสิ้นฤดูกาลปีนี้ ปริมาณธัญพืชในสต็อกโลกจะอยู่ที่ 505 ล้านตัน สำหรับปริมาณข้าวในสต็อกโลกปีนี้จะมากกว่าปีที่ผ่านมา 16 ล้านตัน อยู่ที่ 497.7 ล้านตัน จากการคาดการณ์ปริมาณการผลิตข้าวที่จะเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดียและอินโดนีเซีย
สำหรับการค้าข้าวตลอดปี 2556 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 37.4 ล้านตันหรือมากกว่านั้น โดยระดับของการค้าข้าวในตลาดโลกจะเล็กลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับสถิติของปี 2555 เนื่องจากอินเดียและบราซิลลดปริมาณการส่งออกข้าวลง เช่นเดียวกับจีน อินโดนีเซีย ไนจีเรีย และเซเนกัล ที่ลดปริมาณการนำเข้าข้าวลงมากด้วย อย่างไรก็ดีคาดการณ์ว่าอินเดียยังคงครองแชมป์การส่งออกข้าวต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสถานการณ์ข้าวในประเทศไทย ก่อนหน้านี้เอฟเอโอรายงานว่า ในปี 2556 ไทยจะมีสต็อกข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 16.3 ล้านตัน โดยเป็นผลมาจากโครงการรับจำนำข้าว
นายฮิโรยูกิ ยังกล่าวถึง โครงการขจัดปัญหาความอดอยากหิวโหยให้หมดไปจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (the Asia-Pacific Launch of the Zero Hunger Challenge) ขององค์กรสหประชาชาติ ซึ่งมีการเปิดตัวโครงการในประเทศไทยเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 56 ว่า ทุกๆ 8 คนของประชากรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะมี 1 คน ที่ไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่สำคัญทีสุดคือ อาหารและโภชนาการที่จำเป็นต่อชีวิต โดย 2 ใน 3 ของผู้อดยากหิวโหยของโลกอาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทั้งนี้ภายในปี 2558 โครงการฯมีเป้าหมายลดจำนวนผู้หิวโหยให้ได้ครึ่งหนึ่ง และตั้งเป้าขจัดปัญหาความหิวโหยให้หมดสิ้นไปในช่วงชีวิตของมนุษย์ยุคนี้ อย่างไรก็ดีการดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและทุกประเทศในภูมิภาค
ทั้งนี้สำหรับโครงการขจัดปัญหาความอดอยากหิวโหยระดับโลก ซึ่งเสนอโดยนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ มีเป้าประสงค์ 5 ประการคือ 1. ผู้คนสามารถเข้าถึงอาหารได้ 100% 2.หยุดภาวะแคระแกร็นในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี 3.ระบบอาหารทั้งหมดมีความยั่งยืน 4.มีการเจริญเติบโตของรายได้และผลิตผลของเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้น 2 เท่า และ 5) ลดจำนวนการสูญเสียอาหารและการทิ้งอาหารให้เป็นศูนย์