ร้องอัยการสูงสุด “คำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีสังหาร‘เจริญ วัดอักษร’บกพร่อง”
กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ร้องอัยการสูงสุดทำฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เหตุ “เขียนคำพิพากษาคดีสังหาร‘เจริญ วัดอักษร’บกพร่อง”
วันที่ 9 พ.ค. 56 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด รัชดาภิเษก กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 50 คน นำโดยนางสาวกรณ์อุมา พงษ์น้อย ประธานกลุ่มฯ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดเกี่ยวกับคดีจ้างวานฆ่านายเจริญ วัดอักษร อดีตประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก ผู้นำขบวนการคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าบ่อนอก ที่ถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2547
นางสาวกรณ์อุมา กล่าวว่า คดีดังกล่าว อัยการคดีพิเศษ ได้ส่งฟ้องจำเลยรวมทั้งสิ้น 5 ราย (จำเลยที่ 1-2 เป็นมือปืน และจำเลยที่ 3-5 เป็นผู้จ้างวาน) และศาลอาญาได้พิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2551 ให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 (นายธนู หินแก้ว) และยกฟ้องจำเลยที่ 4-5 ส่วนจำเลยที่ 1 และ 2 ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงนายเจริญ วัดอักษรจนเสียชีวิต และซัดทอดจำเลยที่ 3-5 เป็นผู้ใช้จ้างวานนั้น ล้วนเสียชีวิตในระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเมื่อปี 2549 ทั้งสองคน
ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 2556 ที่ผ่านมา กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องนายธนู หินแก้ว โดยวินิจฉัยว่าคำให้การในชั้นสอบสวนของมือปืนทั้งสองคน ซึ่งไม่ได้มาเบิกความต่อศาลเพราะเสียชีวิตไปก่อนนั้น ถือเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่มีน้ำหนักน้อย จึงให้ยกฟ้องนายธนู หินแก้ว
จากกรณีดังกล่าว กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกและสมาคมนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ จึงได้จัดงานเสวนาเชิงวิชาการ เรื่อง “ชำแหละคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีสังหารเจริญ วัดอักษร” ขึ้นเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2556 โดยการเสวนาดังกล่าวได้มีการวิเคราะห์เชิงวิชาการเกี่ยวกับข้อบกพร่องของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้ ที่ไม่เป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงในคดี รวมทั้งไม่เป็นไปตามหลักในการเขียนคำพิพากษาที่กำหนดว่า จะต้องแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยทั้งปวงให้ชัดเจนด้วย
กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกจึงได้รวบรวมข้อมูลและข้อคิดเห็นจากการเสวนาดังกล่าว เป็นแผ่นซีดีการเสวนา และเอกสารคำพิพากษาศาลฎีกาโดยย่อในคดีอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกันที่ศาลฎีกาเคยตัดสินลงโทษจำเลยโดยอาศัยคำ “พยานบอกเล่า” และ “พยานซัดทอด” มาแล้ว และนำมายื่นต่ออัยการสูงสุด เพื่อใช้ในการจัดทำคำฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีนี้
“คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ออกมานี้ แม้กระทั่งนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายยังใช้คำว่า เป็นคำพิพากษาที่บกพร่อง พวกเราจึงอยากเผยแพร่เรื่องนี้ให้สังคมได้ร่วมรับรู้ โดยคลิปวีดีโองานเสวนาชำแหละคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่จัดไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา จะเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูปไว้เป็นบทเรียนแก่สังคมด้วย” ประธานกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนอัยการสูงสุดรับมอบหนังสือร้องเรียนดังกล่าว โดยกล่าวว่า “ท่านอัยการสูงสุดได้มีบัญชามาว่าให้ดำเนินคดีนี้อย่างเป็นธรรม ซึ่งขณะนี้อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพราะคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนสนใจ จะต้องมีการดำเนินการพิจารณาโดยละเอียด ผมอยากเรียนให้ความมั่นใจต่อชาวบ่อนอกทุกท่านว่า สำนักงานอัยการสูงสุดให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และจะดำเนินการอย่างรอบคอบ”