วิวาทะ “โอ๊ค” vs“อดีตแอร์คาเธย์” ว่าด้วยเรื่อง “เอากระโปรงคลุมหัว” !!
สะเก็ดไฟอันเนื่องจาก “ปาฐกถามองโกเลีย” ของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังคงลามเลียทุ่งหญ้าแห่งความขัดแย้ง ที่เรียกว่า “สังคมไทย” ต่อไป
(พานทองแท้ ชินวัตร - ฮันนี่ โล่ชนะชัย ภาพจากเว็บไซต์ www.1009new.in.th)
เพราะนอกจาก กรณี “ชัย ราชวัตร” การ์ตูนนิสต์อาวุโสประจำ นสพ.ไทยรัฐ โพสต์ข้อความถึงการปาฐกถาดังกล่าว โดยใช้ถ้อยคำอย่าง “กระหรี่” กับ “ขายชาติ” กระทั่งผู้นำหญิงต้องส่งทนายความไปฟ้องดำเนินคดีกับเจ้าของคอลัมน์ “ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน” ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาท และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
“อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ยังออกมาขู่ว่า เว็บไซต์ใดที่โพสต์ข้อความด่าผู้นำหญิงจะใช้อำนาจสั่งปิดทันที เรียกเสียงวิจารณ์จากคนจำนวนไม่น้อยว่า เหตุใดจะวิจารณ์ นายกฯ ซึ่งเป็น “บุคคลสาธารณะ” ไม่ได้?
ล่าสุด ยังเกิดวิวาทะออนไลน์ ระหว่างแฟนเพจที่อ้างว่าเป็นของ “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” หลานชายของนายกฯปู กับ “ฮันนี่ โล่ชนะชัย” อดีตแอร์สายการบินคาเธย์แปซิฟิค ที่เคยเป็นข่าว กรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า อยากเอากาแฟราดหน้า “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” น้องสาวคนสุดท้ายของโอ๊ค บนเครื่องบิน
โดยไฟลามทุ่งกองใหม่ เกิดขึ้นเมื่อ แฟนเพจ Oak Panthongtae Shinawatra โพสต์ข้อความ เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา วิจารณ์ “ชัย ราชวัตร” กรณีเปรียบเทียบนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กับอาชีพ “โสเภณี” ว่าเป็นการดูถูกผู้หญิง ซึ่งสังคมไทยไม่ยอมรับ
พร้อมกับเขียนผลัก ว่า “ชัย” เป็นคนที่ชื่นชมพรรคประชาธิปัตย์ และไม่เคยเขียนการ์ตูนที่เป็นบวกกับพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ยังอยากให้ นสพ.ไทยรัฐ “ให้ความเป็นธรรมกับอาปูในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย และในฐานะที่อาปูเป็นลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ควรจะมีเกียรติและศักดิ์ศรี ไม่ควรจะให้ใครก็ตามในสังกัดไทยรัฐมากระทำการดูถูกเช่นนี้ได้"
ทั้งนี้ แฟนเพจดังกล่าว ยังพาดพิงไปถึงกรณีแอร์สายการบินหนึ่ง ที่ยอมลาออกจากอาชีพ หลังโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า
“คราวที่แล้วมีแอร์ของสายการบินหนึ่ง ได้แสดงความอคติเลือกข้างทางการเมือง และโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม เชื่อมโยงไปถึงสายการบิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสายการบิน และอาชีพแอร์โฮสเตจที่ต้องให้บริการผู้โดยสารทุกคนโดยทัดเทียมกัน ปรากฏว่าหลังจากที่เกิดกระแสสังคมกดดันมากๆ เข้า แอร์ผู้นั้นก็ได้ลาออกจากอาชีพซึ่งได้ทำมานับสิบปี ถึงแม้ความคิดทางการเมืองจะต่างกันสุดขั้ว แต่ผมก็ต้องยอมรับในความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และต่อองค์กรที่แอร์ผู้นั้นสังกัด นี่คือความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผู้ชายต้องยอมรับครับ
“มาครั้งนี้ ผู้ชายอกสามศอกแท้ๆ ดูถูกลูกผู้หญิงซึ่งกำลังทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ โดยการนำไปเปรียบเทียบกับอาชีพที่สังคมไม่ยอมรับ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย โดยใช้นามปากกาที่ตนใช้เขียนการ์ตูนในสื่อยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองไทย ซึ่งมีผู้อ่านทุกเพศทุกวัย สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการสื่อมวลชน และหนังสือพิมพ์ต้นสังกัดเป็นอย่างยิ่ง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชน และสร้างบรรทัดฐานเลวๆให้กับสังคม ควรจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เลือกได้ใน 2 ทางเท่านั้น"
แฟนเพจดังกล่าวจึงสรุปทางเลือกให้กับ “ชัย” ว่ามีทางออกอยู่แค่ 2 แบบ นั่นคือ “ยืดอกแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม หรือไปขอกระโปรงแอร์คาเธ่ย์มาคลุมหัวดีครับ ชัย ราชวัตร !!!”
ข้อความช่วงท้ายในโพสต์ดังกล่าว ทำให้อดีตแอร์สาวคาเธย์แปซิฟิค-ผู้ถูกพาดพิง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว Honey Lochanachai ตอบโต้ในอีก 1 วันถัดมา โดยใช้ชื่อข้อความ “อย่ามาแตะกระโปรงของฉัน” ใจความว่า
“การตัดสินใจลาออกจากสายการบินคาเธ่ย์ฯ นั้นเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อองค์กรที่ฉันทำงานมานาน 24 ปี และเพื่อลดแรงกดดันที่มาจากการใช้อำนาจเถื่อนทางการเมืองคุกคามการทำธุรกิจ ของสายการบิน เพียงเพื่อจะบีบบังคับคนที่แสดงความเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง ให้หมดทาง”
กรณี “ชัย” เธอขอให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า “การออกมาเรียกร้องให้คุณชัย ราชวัตร แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ฉันเห็นว่า พวกคุณควรจะไปเรียกร้องให้นักโทษชายที่ถูกตัดสินคดีมีโทษจำคุก และหนีคดีไปสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายให้กับประเทศชาติชาติอยู่ทุกวันนี้ ให้กลับมาแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองบ้างจะดีกว่านะคะ”
“อย่าเอากระโปรงแอร์คาเธ่ย์ฯ ไปแอบอ้างด้วยความเคยชินเลย กระโปรงของฉันไม่ได้มีไว้คลุมหัวใครทั้งนั้น แม้แต่ทรราชย์ขายชาติเลวทรามก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องกระโปรงอันมีเกียรติของพวกเรา ประเทศนี้ มีนักการเมืองเลวกำลังอาศัยเกาะชายกระโปรงของผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง หากิน โกงชาติ กอบโกยเอาผลประโยชน์ของชาติไปอย่างหน้าด้านๆ ทำให้ผู้หญิงโง่คนหนึ่งกลายเป็น 'หญิงชั่ว' ถูกสังคมตราหน้าว่า 'ขายชาติ' นี่ต่างหากที่เป็นการดูถูกเพศแม่”
กลายเป็นวิวาทะเรื่อง “เอากระโปรงคุมหัว” อัดเผ็ดร้อน และโด่งดังยิ่งในโลกออนไลน์ ประจำวันนี้ !!!