แกะรอยธุรกิจ“จักรภพ เพ็ญแข”โอนหุ้นให้“คนใกล้ชิด”- ยังไม่เลิกกิจการ
แกะรอยธุรกิจในเมืองไทย “จักรภพ เพ็ญแข” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยังไม่แจ้งเลิกกิจการ พบโอนหุ้นสื่อกลุ่ม “จตุพร-ณัฐวุฒิ” ให้คนใกล้ชิดหลายล้าน
แม้ว่านายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปอยู่ต่างประเทศ แต่ยังมีธุรกิจในเมืองไทยแม้ไม่ได้ประกอบการแล้วก็ตาม
นายจักรภพเป็นเจ้าของธุรกิจบริษัท มาลาการ จำกัด ผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์ สำนักข่าวอิศรา www.isranew.org ตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าวจดทะเบียนวันที่ 3 พฤษภาคม 2543 ทุน 2,100,000 บาท ที่ตั้งเลขที่ 96 ซอยพัฒนาการ 44 ถนนพัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2546 มีผู้ถือหุ้น 7 คน ได้แก่
นายจักรภพ เพ็ญแข จำนวน 10,995 หุ้น (52.35%) นายคล็อด แฮร์ริส สัญชาติอเมริกัน จำนวน 10,000 หุ้น (47.61%) เรืออากาศเอกจำนงค์ เพ็ญแข นางณัฐวรรณ ดวงอุดม นาย ธีระชัย รังสิกุล นายวิภาพ คัญทัพ นางวิยะดา กมลาศน์ ณ อยุธยา คนละ 1 หุ้น นายคล็อด แฮร์ริส เป็นกรรมการ
บริษัท มาลาการ จำกัดได้แจ้งผลประกอบการล่าสุดปี 2550 มีรายได้ 8,916,766 บาท กำไรสุทธิ 1,592,843 บาท สินทรัพย์ 3,648,544.96 บาท หนี้สิน 9,733,759.61 บาท ขาดทุนสะสม 8,185,214.65 บาท ปัจจุบันยังไม่แจ้งเลิกกิจการ
ในช่วงปี 2550 นายจักรภพ เป็นกรรมการ บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด และ บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด ร่วมกับ นายวีระ (วีระกานต์) มุสิกพงศ์ นายนิรันดร์ แก่นยะกูล และถือหุ้นบริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด มูลค่านับหลายล้านบาท โดยมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมถือหุ้นด้วย
ต่อมาได้โอนหุ้นให้ได้โอนหุ้นให้ นายสุชาติ ประเสริฐศรี ทั้งหมด
ทั้งนี้ นายสุชาติ ประเสริฐศรี เป็นเลขานุการส่วนตัวนายจักรภพในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 6 บ้านโคกสะอาด ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ปัจจุบันนายสุชาติถือหุ้น บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด จำนวน 10,000 หุ้น (20%ของทุนจดทะเบียน) มูลค่า 1 ล้าน บาท และ บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด จำนวน 180,000 หุ้น (20%ของทุนจดทะเบียน) มูลค่า 18 ล้านบาท
บริษัท พีทีวี ทีวีเพื่อประชาชน จำกัด จดทะเบียนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2550 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ที่ตั้ง 95/56 หมู่ที่ 8 ถนนนาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เมษายน 2555 นาย นิรันดร์ แก่นยะกูล ถือหุ้นใหญ่ 11,500 หุ้น (20%) นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายสุชาติ ประเสริฐศรี คนละ 10,000 หุ้น (20%) ผลประกอบการปี 2554 รายได้ 11,561,844 บาท กำไรสุทธิ 1,462,728 บาท สินทรัพย์ 5,263,005 บาท หนี้สิน 745,623 บาท ขาดทุนสะสม 482,618 บาท
บริษัท เพื่อนพ้อง น้องพี่ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 1 เมษายน 2545 ทุนปัจจุบัน 90 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 2539 อาคารอิมพีเรียล เวิลด์ลาดพร้าว ชั้น 6 ถนนลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 30 เมษายน 2555 นาย นิรันดร์ แก่นยะกูล ถือหุ้นใหญ่ 351,000 หุ้น (39%) มูลค่า 35.1 ล้านบาท ผลประกอบการปี 2554 รายได้ 5,768,819 บาท ขาดทุนสุทธิ 8,141,063 บาท สินทรัพย์ 41,520,383 บาท หนี้สิน 236,888 บาท ขาดทุนสะสม 48,716,505 บาท
นายจักรภพยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตอนรับตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 มีทรัพย์สิน 10,312,813.18 บาท ประกอบด้วย เงินสด 5,000,000 บาท เงินฝาก 355,693.18 บาท ที่ดิน 2 แปลงในเขตสายไหมและพระโขนง กรุงเทพฯ เนื้อที่รวม 1-0-17 ไร่ มูลค่า 5,000,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง มูลค่า 1,210,000 บาท รถยนต์ 1 คัน (โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์) 933,936 บาท ทรัพย์สินอื่น (อาทิ นาฬิกาโบราณ ถ้วยชามจีน ) มูลค่า 1,700,000 บาท หนี้สิน 1,850,562.67 บาท
รวมมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 8,462,250.51 บาท
น่าสังเกตว่าไม่มีหุ้นใน 3 บริษัทแต่อย่างใด
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา เว็บไซต์แมเนเจอร์ออนไลน์ รายงานว่า นายจักรภพได้เขียนเฟซบุ๊ค กล่าวถึงการชุมนุมขับไล่ตุลาการรัฐธรรมนูญว่า เป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดของคนเสื้อแดงนับตั้งแต่การรัฐประหารปี 2549 เนื่องจากปัจจุบันคนเสื้อแดงมองว่า ศาลเป็นเครื่องมือของระบอบอำนาจเก่าเท่านั้น ซึ่งตรงข้ามกับกลุ่มคนเสื้อเหลืองที่มองว่าสถาบันตุลาการเป็นเครื่องมือชิ้นท้ายๆ ในการคานอำนาจกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และยังกล่าวด้วยว่า ตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาล และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันหลายคนก็ไม่เคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน