ชงโค่นยางแก้ปัญหาราคายางตกเพิ่มเงินจูงใจเป็น 2.6 หมื่นบาท/ไร่
กษ.รับลูกครม.เตรียมชงบอร์ดกองทุนสงเคราะห์สวนยางเพิ่มเงินจูงใจโค่นยางจาก 16,000 เป็น 26,000 บาท-กระตุ้นการใช้ในประเทศ หวังแก้ราคายางฮวบ มั่นใจเกษตรกรยังไม่เดือดร้อน
วันที่ 2 พ.ค. 56 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางว่า สืบเนื่องจากที่ประชุมคณะทำงานกำกับนโยบายบริหารเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มีการหารือถึงปัญหาราคายางตกต่ำเหลือเพียง 71 บาท/ก.ก. ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากอยู่ในช่วงปิดฤดูกรีดยาง ประกอบกับสภาพค่าเงินบาทของไทยแข็งตัวขึ้น โดยหากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 33 บาท/เหรียญสหรัฐฯ แต่วันนี้อยู่ที่ 29 บาท/เหรียญสหรัฐฯ ถ้าราคาค่าเงินบาทแตะ 30 บาท/เหรียญสหรัฐฯ เมื่อใด รับรองว่าราคายางจะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน
“ สถานการณ์ราคายางพาราตอนนี้ถือว่าเกษตรกรยังไม่เดือดร้อนมากนัก วัดได้จากราคาที่เพิ่มขึ้นวันนี้อีก 20 สตางค์/ก.ก. เรียกว่าสวนกระแสตลาดโลก ทั้งที่ราคาทองคำและน้ำมันลดลง รวมถึงขณะนี้ปริมาณความต้องการยางพาราในตลาดโลกยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น”
รมช.กษ. กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพารา นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางกระตุ้นการใช้ในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบขนส่งทางรางรถไฟฟ้าความเร็วสูง ด้วยการนำยางพารามาทำวัสดุที่ใช้ประกอบระบบดังกล่าว ทั้งนี้ โครงการลงทุนนั้นมีงบประมาณมหาศาล ดังนั้นปริมาณยางในสต๊อกอาจไม่เพียงพอ จึงต้องซื้อใหม่มาเพิ่มด้วย โดยหลังจากนี้ ทุกหน่วยงานจะกลับไปประชุมเพื่อสรุปตัวเลขความต้องการใช้ยางพาราเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในอีก 2 สัปดาห์
ส่วนแนวทางลดปริมาณยางพาราในประเทศด้วยการโค่นยางพาราเก่าที่มีอายุเกิน 30 ปี และปลูกใหม่นั้น โดยให้วงเงินเกษตรกรเพิ่มจากเดิม 16,000 บาท/ไร่ เป็น 26,000 บาท/ไร่ จะนำหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ครั้งต่อไป เพื่อดูความเป็นไปได้ของการเพิ่มจำนวนเงินดังกล่าว.
ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://www.bangklam.go.th/modules/news/index.php?mode=detail1&id=22130