ก.ล.ต. เปรียบเทียบปรับผู้กระทำผิดกรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น STPI
ก.ล.ต. เปิดเผยกรณีคณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับนายชวลิต ลิ่มพานิชย์ นายยรรยง นิติสาโรจน์ และนายศิริวัฒน์ อนันต์คูศรี กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) (“STPI”) เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 28,472,689.29 บาท
ก.ล.ต. ได้รับแจ้งจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายชวลิตร่วมกับนายยรรยงและนายศิริวัฒน์ซื้อหุ้น STPI ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายศิริวัฒน์ ในประการที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบบุคคลภายนอก โดยอาศัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหุ้น STPI ที่ยังมิได้เปิดเผยต่อประชาชนเกี่ยวกับมูลค่าโครงการ Pluto LNG ซึ่งบริษัท STPI ได้เรียกเก็บจากคู่สัญญาเพิ่มเติมจากสัญญาหลักจำนวน 2,212 ล้านบาท ส่งผลให้การดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2553 ของ STPI มีกำไรสุทธิ 1,788.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 193.47 อันเป็นข้อมูลที่นายชวลิต ซึ่งเป็นผู้อำนวยการโครงการและรับผิดชอบโครงการ Pluto LNG ขณะนั้น ล่วงรู้มาจากการลงนามในสัญญาปิดโครงการดังกล่าว โดยปรากฎว่า นายยรรยงเป็นผู้จัดหาบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายศิริวัฒน์และมีการร่วมลงทุนตลอดจนแบ่งผลประโยชน์ตามสัดส่วนการลงทุนของบุคคลทั้งสามในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายศิริวัฒน์ดังกล่าว
การกระทำของนายชวลิตซึ่งเป็นบุคคลภายในบริษัท STPI เป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ และการกระทำของนายยรรยงและนายศิริวัฒน์ซึ่งมีส่วนร่วมในการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ต้องระวางโทษตามมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
โดยบุคคลทั้งสามรายยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบ คณะกรรมการเปรียบเทียบจึงได้เปรียบเทียบปรับนายชวลิต นายยรรยง และนายศิริวัฒน์ เป็นจำนวนเงิน 3,854,145 บาท 8,756,625 บาท และ 15,861,919.29 บาท ตามลำดับ โดยนำผลประโยชน์ที่บุคคลทั้งสามรายได้รับไว้หรือพึงจะได้รับมาประกอบการพิจารณาเปรียบเทียบ
