เปิดตัวหุ้นใหญ่“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ไฉน!ไร้ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ”
เปิดผู้ถือหุ้นทีมหัวแถว“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”จากยุคก่อตั้งถึงยุคควบรวมทุน 55 ล้าน ยักย้ายถ่ายเทจากคนใกล้ชิด สู่ “ไชยชนก” ทายาท ไร้ชื่อ“เนวิน ชิดชอบ” ฟันรายได้เกือบ 200 ล้านแต่ยังขาดทุน
ปราสาทสายฟ้า“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” (BURIRAM UNITED) ทีมฟุตบอลชั้นนำของเมืองไทย แท้จริงผู้ถือหุ้นใหญ่มิใช่นายเนวิน หรือ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยา หากเป็นคนใกล้ชิด
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท สโมสร บุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด กับ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด แล้วจดทะเบียนชื่อ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด เมื่อปลายเดือนมีนาคม 2555
บริษัท สโมสร บุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด จดทะเบียนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552
ทุน 20 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 475 อาคารสิริภิญโญ ชั้น 14 ชั้น 14 ห้อง 1404/1 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายภัสสร เวียงเกตุ ถือ 60,000 หุ้น นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง 50,000 หุ้น ว่าที่ ร.ต.วินัย เกียรติกำจร 50,000 หุ้น นายกมล เรืองสุขศรี วงศ์ 20,000 หุ้น นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ 10,000 หุ้น นายวินิจ เลิศรัตนชัย 10,000 หุ้น
4 พ.ค.2553 นายบัญชา คำจินดา เข้ามาร่วมถือ 30,000 หุ้น (รับโอนจากนายภัสสร เวียงเกตุ)
5 เม.ย.2554 นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กลุ่มสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถอนหุ้นโอนให้นายวินิจ เลิศรัตนชัย เจ้าของบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด
17 ม.ค.2555 บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 155,000 หุ้น นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง 25,000 หุ้น นายวินิจ เลิศรัตนชัย 20,000 หุ้น จากจำนวนทั้งหมด 200,000 หุ้น
ขณะที่ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด (เดิม) จดทะเบียนวันที่ 16 สิงหาคม 2554 ทุน 35 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 475 อาคารสิริภิญโญ ชั้น 14 ชั้น 14 ห้อง 1405 ถนนศรีอยุธยา แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายโสฬส วรรณโกวิท ทนายความ ถือหุ้นใหญ่ 349,800 หุ้น นางสาวกิตติยาภรณ์ โลหะพันธกิจ และนางสาวไพลิน โหละพันธกิจ คนละ 100 หุ้น รวม 350,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
21 ต.ค. 2554 นายโสฬส วรรณโกวิท โอนหุ้นให้ นายไชยชนก ชิดชอบ จำนวน 340,000 หุ้น นายโสฬส วรรณโกวิท ลดสัดส่วนเหลือ 9,800 หุ้น นางสาวกิตติยาภรณ์ โลหะพันธกิจ และนางสาวไพลิน โหละพันธกิจ คนละ 100 หุ้น
17 ม.ค.2555 นายไชยกนก ถือ 324,900 หุ้น (92.82%) นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง เข้ามาถือหุ้น 25,000 หุ้น นายโสฬส วรรณโกวิท เหลือ 100 หุ้น นายไชยชนก และนายกนกศักดิ์ เป็นกรรมการ
ขณะที่บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด (ใหม่) หลังจากการควบรวม จดทะเบียนวันที่ 26 มีนาคม 2555 ทุน 55 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 2159/8 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร นายไชยชนก ชิดชอบ จำนวน 479,800 หุ้น นายกนกศักดิ์ 50,000 หุ้น นายวินิจ เลิศรัตนชัย 20,000 หุ้น และนาย โสฬส วรรณโกวิท 200 หุ้น รวมทั้งหมด 550,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท นายไชยชนก และนายกนกศักดิ์ นักธุรกิจใกล้ชิดนายเนวิน ชิดชอบ เป็นกรรมการ
ทั้งนี้ รายได้ก่อนควบรวมกิจการ บริษัท สโมสร บุรีรัมย์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำกัด แจ้งผลประกอบการมีรายได้ 190,073,135 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,968,969 บาท สินทรัพย์ 86,074,381 หนี้สินบาท 80,379,882 บาท
ขณะที่ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด (เดิม) มีรายได้ 3,072,652 บาท ขาดทุนสุทธิ 794,663 บาท สินทรัพย์ 67,324,336 บาท หนี้สิน 33,118,999 บาท
รวมรายได้ 2 บริษัท 193,145,787 บาท ขาดทุนสุทธิ 10,763,631 บาท
น่าสังเกตว่า นายไชยชนกเข้ามาถือหุ้นทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ฯครั้งแรก วันที่ 21 ต.ค.2554 และเป็นเจ้าของเรื่อยมา โดยไม่มีชื่อ“เนวิน”ตั้งแต่เริ่มแรก
ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของตัวจริง คือนายไชยชนก ชิดชอบ?
------
(อ่านประกอบ:คอนเนกชั่นธุรกิจ กิตติรัตน์ - เสี่ยวินิจ เลิศรัตนชัย - เนวิน ชิดชอบ http://www.isranews.org/ปกปิดบัญชีทรัพย์สิน.html?start=30)