8 ชีวิตครอบครัว "เจ๊ะเลาะ" โชเฟอร์รองผู้ว่าฯ... วันนี้ยังตั้งตารอปาฏิหาริย์
ร่างของชายวัยกลางคนที่มีสายน้ำเกลือ ท่อให้เลือด และเครื่องช่วยหายใจระโยงระยาง นอนอยู่บนเตียงคนไข้เตียงแรกในห้องไอซียูของโรงพยาบาลศูนย์ยะลาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส คือ นายสตอปา เจ๊ะเลาะ โชเฟอร์กระดูกเหล็กที่รอดชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.2556
สตอปา วัย 48 ปี คือคนขับรถของ นายอิศรา ทองธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่คนร้ายจุดชนวนบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ช่วง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะที่เขานั่งอยู่หลังพวงมาลัย เหยียบคันเร่งพารองผู้ว่าฯอิศรา และ นายเชาวลิตร ไชยฤกษ์ ปลัดป้องกันจังหวัดยะลา ไปให้ทันเปิดงานเทศกาลไก่เบตงที่อำเภอใต้สุดแดนสยาม
แรงอัดจากดินระเบิดหลายสิบกิโลกรัมที่คนร้ายซุกไว้ในท่อน้ำใต้ถนน ทำให้รถประจำตำแหน่งยี่ห้อดังพังเสียหาย นายเชาวลิตรเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่รองผู้ว่าฯอิศราทนพิษบาดแผลไม่ไหว ไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล
สตอปาคือหนึ่งเดียวในรถที่รอดชีวิตจากระเบิดสังหารในวันนั้น...
แต่อาการของเขาก็สาหัสเอาการ มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองและกะโหลกศีรษะแตก นอกจากนั้นยังพบเลือดไหลในตับและไต กระดูกไหปลาร้าขวาหัก แพทย์ต้องรีบผ่าตัดใส่ท่อระบายลมและของเหลวในปอดข้างขวา
อาการล่าสุดของเขาคือรู้สึกตัว แต่ไม่สามารถพูดคุยออกเสียงได้ ขยับแขนขาได้เล็กน้อย แพทย์ยังคงให้เลือดและใส่เครื่องช่วยหายใจ
เหตุระเบิดครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลให้สตอปาบาดเจ็บสาหัสเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่คนในครอบครัวของเขาอีกถึง 8 ชีวิตก็ต้องมาพลอยบาดเจ็บในหัวใจไปด้วย เนื่องจากสตอปาคือเสาหลักของครอบครัว...
สมาชิกของครอบครัวเจ๊ะเลาะมีด้วยกัน 8 ชีวิต คือ แมะเสาะ เจ๊ะเลาะ วัย 46 ปี ภรรยา และลูกสาวกับลูกชายอีก 7 คน
มุสรอ เจ๊ะเลาะ อายุ 23 ปี ลูกสาวคนที่ 3 ของสตอปา เล่าว่า ทุกคนในบ้านตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อทราบข่าวร้ายที่เกิดกับพ่อ ครอบครัวของเรามีพ่อเป็นเสาหลักของบ้าน ถ้าขาดพ่อไป เราทุกคนก็ไม่รู้จะอยู่กันอย่างไร
"ตอนนี้ทุกคนเป็นห่วงอาการของพ่อมาก แม้อาการของพ่อจะเริ่มดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ หมอบอกว่าต้องให้รักษาตัวในห้องไอซียูเพื่อดูอาการไปก่อน"
มุสรอ เล่าว่า ตั้งแต่เธอเกิดมาก็เห็นพ่อทำงานขับรถให้กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน และทำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อดูแลแม่และลูกๆ
"หนูเกิดมาก็เห็นพ่อทำงานแบบนี้แล้ว พ่อขับรถให้เจ้านายหลายคน เมื่อก่อนพ่อเป็นลูกจ้าง แต่ปัจจุบันพ่อได้บรรจุเป็นข้าราชการ พ่อเป็นคนดีมาก พ่อรักครอบครัว เวลาไปทำงานทุกครั้งที่มีเวลาว่าง พ่อจะโทรกลับบ้านมาหาแม่และลูกๆ พ่อจะคอยบอกว่าตอนนี้พ่อกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน พ่อจะทำแบบนี้ตลอด วันเกิดเหตุพ่อก็โทรมาตามปกติ ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับพ่อ"
มุสรอ บอกอีกว่า ครอบครัวของเธอมีพ่อทำงานเป็นหลักเพียงคนเดียว เธอเป็นลูกคนที่ 3 ส่วนพี่สาว 2 คนก็มีครอบครัวของตัวเองไปแล้ว ตัวเธอเพิ่งเรียนจบ น้องสาว 2 คนและน้องชายอีก 2 คนก็ยังเรียนหนังสืออยู่ ภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดพ่อเป็นคนดูแล นอกจากเงินเดือนของพ่อแล้วยังมีที่นาที่เป็นสมบัติของครอบครัว และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง
"หากเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ ทุกคนในครอบครัวจะทำอย่างไร น้องๆ ที่เรียนอยู่จะทำอย่างไร หนูเองก็ยังไม่มีงานทำ แม่ก็ไม่มีรายได้ หากรัฐบาลจะช่วยเหลือก็อยากให้ช่วยเรื่องการเรียนของน้องๆ และเรื่องหางานให้กับหนู จะได้มีรายได้ดูแลแม่และน้องๆ ต่อไป"
มุสรอ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกคนยังมีความหวังและเฝ้ารอว่าอีกไม่นานอาการของพ่อจะดีขึ้น กระทั่งหายเป็นปกติ กลับมาอยู่กับครอบครัวได้เหมือนเดิม...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สมาชิกในครอบครัวเจ๊ะเลาะกำลังเฝ้าดูอาการของสตอปาด้วยความเป็นห่วง (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)