ห้าม "ประชาชน" เล่นสงกรานต์ หลัง "รถกระบะ" - "นักการเมือง" ก็ห้ามหาเสียงด้วย?
คนในโลกออนไลน์ กำลัง โดนใจ แนวคิด “สหายเดียร์” ที่เสนอห้าม “นักการเมือง” นำเครื่องขยายเสียงขึ้นหลังรถกระบะ-ปิดป้ายประกาศหาเสียงตามเสาไฟ ประชดกฎเหล็กเล่นน้ำช่วงสงกรานต์

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ขณะนี้คนในโลกออนไลน์กำลังมีการส่งต่อคลิปวีดีโอ บทสัมภาษณ์ชายหนุ่ม ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยและฝากข้อคิดถึงรัฐบาล เกี่ยวกับข้อห้ามการเล่นสงกรานต์ปี 2556 ตามนโยบายการลดอุบัติเหตุของรัฐบาลที่ประกาศออกมา โดยเฉพาะข้อห้ามเล่นน้ำบนหลังรถกระบะ และห้ามเล่นประแป้ง กันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในวีดีโอคลิปดังกล่าว ระบุชื่อผู้ให้สัมภาษณ์ คือ “สหายเดียร์” แสดงความเห็นถึงข้อห้ามการเล่นสงกรานต์ ที่กำลังถูกเผยแพร่ต่อทางโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ว่า ไม่เห็นด้วยกับกฎที่ออกมา โดยเฉพาะข้อห้ามเล่นน้ำบนหลังรถกระบะ ห้ามเล่นประแป้ง
พร้อมประชดประชันในทำนองที่ว่า ถ้าจะห้ามไม่ให้มีการเล่นสงกรานต์บนรถกระบะ และประแป้ง ต่อไปนี้ก็ควรออกกฎเหมือนกันว่า เวลานักการเมืองหาเสียง จะต้องไม่นำเครื่องขยายเสียงขึ้นหลังรถกระบะ และห้ามปิดป้ายประกาศหาเสียงตามเสาไฟฟ้า เช่นกัน
“...สงกรานต์นี้มันเป็นงานประเพณีมีปีละครั้ง หัดอะลุ่มอล่วยกันบ้าง ออกกฏอะไรให้มันอะลุ่มอล่วยกันหน่อย ให้มันตามสถานการณ์ ...อะไรกันหนักหนาประเทศไทย” สหายเดียร์ระบุ
(ฟัง สหายเดียร์ ฝากข้อคิดเรื่องข้อห้ามสงกรานต์ http://www.youtube.com/watch?v=NWICd9xEabM)
ข้อห้ามสงกรานต์ 2556 นั้น มีรายละเอียด ดังนี้
1. ห้ามซื้อ และขายสินค้าบนไหล่ทาง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
2. ห้ามเปิดเครื่องเสียง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
3. ห้ามให้รถกระบะบรรทุกถังน้ำสาดตามท้องถนน หากฝ่าฝืน มีความผิดฐานสร้างความเดือดร้อน แต่หากมีการฝ่าฝืนข้อห้าม และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดดังต่อไปนี้
- ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
- ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้เสียชีวิต : ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
- ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตด้วย : ผู้ฝ่าฝืน มีความผิดฐานประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และถึงแก่ความตาย
4. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ โดยในกรณีนี้ ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ที่ดื่มแอลกอฮอล์ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
5. ห้ามเล่นปืนฉีดน้ำแรงดันสูง หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
6. ห้ามนำน้ำแข็งปาใส่กัน หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที
7. ห้ามทำลามกอนาจารหญิงสาว หากผู้ใดฝ่าฝืน ถูกจับทันที โดยมีความผิดฐานกระทำการอนาจาร ต่อเด็กหญิง หรือสตรี
8. ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่เล่นน้ำสาธารณะ หากเป็นการขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือขายให้ผู้ที่เมาอยู่แล้ว มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี
9. ห้ามนั่งหรือยืนบนหลังกระบะเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์
10. ห้ามเล่นแป้ง หากพบ จะมีการตักเตือน แต่สำหรับผู้จำหน่ายแป้ง มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
11. ห้ามเมาแล้วขับรถ หากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกําหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือ บก.จร. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ช่วงสงกรานต์ ที่รัฐบาลออกกฎเหล็ก ห้ามรถกระบะบรรทุกถังน้ำและสาดตามท้องถนน เนื่องจากการเกิดอันตรายนั้น
ทางกองบังคับการตำรวจจราจร จะตั้งจุดตรวจสกัดรถที่เข้ามาจากนอกเมืองเป็นระยะ ซึ่งจะใช้มาตรการเด็ดขาด คือ จับนำส่งตำรวจพื้นที่ทันที เนื่องจากเป็นนโยบายของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีการเตือนมาแล้วก่อนหน้านี้หลายปี โดยมีโทษปรับไม่เกิน 2 พันบาท
หากสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ก็จะปรับเพิ่มอีก 500 บาท
