"บีอาร์เอ็น"ขอยุติธรรมแลกลดเหตุรุนแรง ใต้ป่วนหนักบึ้มเจาะไอร้องทหารดับ 3
การพูดคุยสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นทางการนัดแรก ระหว่างคณะผู้แทนรัฐบาลไทย นำโดย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับคณะผู้เห็นต่างจากรัฐ นำโดย นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น ใช้เวลาทั้งสิ้นเกือบ 12 ชั่วโมง ตลอดวันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.2556
การพูดคุยระหว่างทั้งสองฝ่ายมีขึ้น ณ สถานที่ปิดลับแห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยคณะพูดคุยฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่ใช่โรงเรียนฝึกตำรวจที่เคยใช้เป็นสถานที่พูดคุยเมื่อวันที่ 28 ก.พ.
เปิดเอกสารแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
ภายหลังการประชุมได้มีเอกสารแถลงข่าวร่วมอย่างเป็นทางการ ระบุว่า ดาโต๊ะ สรี อาห์มัด ซัมซามิน ฮาสฮิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองมาเลเซีย ได้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย โดย พล.ท.ภราดร ได้มีโอกาสเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคณะภายใต้การนำของขบวนการบีอาร์เอ็นจำนวน 6 คน นำโดย นายฮัสซัน ตอยิบ และได้มีผลข้อตกลงในกรอบความตกลงว่าด้วยการพูดคุย หรือ TOR for Peace Dialogue
นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลทัศนคติที่เป็นประเด็นปัญหาของความไม่สงบอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา พร้อมทั้งหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเหตุรุนแรง การอำนวยความสะดวกในการแก้ไขปัญหา และความเป็นธรรม ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะนำข้อมูล ความเห็นกลับไปรายงานต่อผู้บังคับบัญชาหรือหน่วยเหนือ เพื่อการตกลงใจ และตกลงจะประชุมในครั้งต่อไปในวันที่ 29 เม.ย.2556
ขอความเป็นธรรมแลกลดเหตุรุนแรง
พล.ท.ภราดร ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออต กรุงกัวลาลัมเปอร์ ว่า การพูดคุยมี 2 ประเด็นหลักๆ คือ
1.กระบวนการดำเนินงานในลำดับต่อไป ซึ่งได้จัดทำทีโออาร์ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว สาระสำคัญคือ คณะพูดคุยจะมีฝ่ายละไม่เกิน 15 คน มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก และทั้งสองฝ่ายจะสื่อสารกันผ่านทางการมาเลเซีย
2.ข้อตกลงในเบื้องต้นระหว่าง 2 ฝ่าย คือลดความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นพ้องกัน เพราะทั้งสองฝ่ายต่างต้องการสันติสุข จึงตกลงร่วมกันได้
อย่างไรก็ดี ต่างฝ่ายต่างมีข้อเรียกร้องแก่กัน คือ ฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐขอให้รัฐบาลไทยอำนวยความยุติธรรมอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนฝ่ายรัฐบาลไทยขอให้ลดเหตุรุนแรงในพื้นที่ แต่ในรายละเอียดทั้งสองฝ่ายได้ขอนำกลับไปหารือกันในฝ่ายของตน ก่อนจะนัดพบกันอีกครั้งในวันที่ 29 เม.ย.2556
"เรื่องการลดเหตุรุนแรงในพื้นที่ เราไม่ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายหรือกรอบเวลา เพราะจริงๆ เราต้องการให้ลดความรุนแรงในทุกพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนข้อเรียกร้องของฝ่ายบีอาร์เอ็นคืออยากเห็นความชัดเจนเรื่องความเป็นธรรม"
แจงเกี่ยวพันหลายหน่วยงาน-ปัดข่าวปลดบัญชีดำ
ต่อข้อถามถึงกรณีที่มีข่าวฝ่ายบีอาร์เอ็นขอให้ปลดแบล็คลิสต์ หรือบัญชีดำบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 หมื่นคน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น
"ประเด็นนี้ได้ตกลงกันว่ายังไม่ขอพูดในรายละเอียด เราก็เห็นด้วยเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เกี่ยวพันกับหลายหน่วยงาน และเกี่ยวข้องทางกฎหมาย เนื่องจากเรื่องความเป็นธรรมพัวพันไปทั้งหมด ทั้งเรื่องคดี การบังคับใช้กฎหมาย และอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงขอกลับไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน เช่นเดียวกับฝ่ายบีอาร์เอ็น การลดเหตุรุนแรงก็ต้องไปสื่อสารกับกลุ่มต่างๆ ของเขา ซึ่งต้องใช้เวลาเช่นกัน"
ชี้ "บีอาร์เอ็น" ทุกกลุ่มรวมกันเป็นหนึ่ง
สำหรับการพูดคุยสันติภาพในวันที่ 28 มี.ค.ซึ่งใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงนั้น พล.ท.ภราดร กล่าวว่า คณะพูดคุยที่ขึ้นโต๊ะเปิดตัวของฝ่ายบีอาร์เอ็นมี 6 คน ฝ่ายรัฐบาลไทยจึงจัดคน 6 คนเท่าๆ กัน ส่วนที่เหลือเป็นฝ่ายสนับสนุนข้อมูล ทั้งนี้ฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐนอกจากกลุ่มบีอาร์เอ็นแล้ว ยังมีผู้แทนจากองค์การพูโลด้วย
เลขาธิการ สมช.ยังตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายบีอาร์เอ็นได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกภาพ เพราะมากันครบทุกกลุ่ม ได้แก่ บีอาร์เอ็นคองเกรส และบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต ทั้งยังขอให้ใช้คำว่า "ภายใต้การนำของบีอาร์เอ็น"แสดงว่าบีอาร์เอ็นทุกกลุ่มรวมกันหมดแล้ว เช่นเดียวกับพูโลที่แม้จะมีแถลงการณ์ของ นายกัสตูรี มาห์โกตา ประธานองค์การพูโล ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการพูดคุยสันติภาพ แต่จากการพูดคุยวันที่ 28 มี.ค.ซึ่งมีผู้แทนองค์การพูโลร่วมด้วย ก็แสดงให้เห็นว่าแกนนำขององค์กรนี้ยังฟังเสียงกันอยู่
"ยืนยันว่าเขาเป็นเอกภาพทั้งฝ่ายการเมืองและกองกำลัง" เลขาธิการ สมช.ระบุ
เปิดตัวแกนนำฝ่ายกองกำลัง-มีหมายจับ
แหล่งข่าวซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนรัฐบาลไทย กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากการพูดคุยครั้งนี้คือ นายฮัสซัน ตอยิบ เป็นตัวจริงและเอาอยู่
"เราอยากเห็นใครสักคนที่เป็นแกนนำฝ่ายปฏิบัติการ เป็นฝ่ายกองกำลัง วันนี้ก็ได้เห็นแล้ว ฮัสซันพามา คนคนนี้มีหมายจับ และมีท่าทีแข็งกร้าวมากตลอดการพูดคุย" เขากล่าว แต่ปฏิเสธที่จะระบุชื่อแกนนำฝ่ายกองกำลังผู้นี้
เขาบอกด้วยว่า นายฮัสซันมีศักยภาพคุมได้ทั้งปีกการทหารและต่างประเทศ เห็นได้ชัดว่าตลอดการพูดคุย ฮัสซันจะนั่งนิ่ง ส่วน 5 คนที่เหลือจะเป็นคนพูด แต่เมื่อฮัสซันสั่งให้หยุด คนเหล่านั้นก็หยุดทันที
ใต้ป่วนหนักบึ้ม-ยิงซ้ำทหารดับ 3
ด้านสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดวันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.2556 ซึ่งมีการพูดคุยสันติภาพระหว่างคณะผู้แทนรัฐบาลไทยกับคณะผู้เห็นต่างจากรัฐในประเทศมาเลเซียนั้น ปรากฏว่ามีการก่อเหตุรุนแรงหลายเหตุการณ์ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ
เวลา 07.10 น. พ.ต.อ.สุชาติ สอิด ผู้กำกับการ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดและใช้อาวุธปืนสงครามยิงโจมตีทหารพรานชุดลาดตระเวนเดินเท้า สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 เหตุเกิดที่บ้านเจาะเกราะ หมู่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 นาย ได้แก่
1)อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ธีรฉัตร สีน้ำเงิน
2) อส.ทพ.พรชัย โกมล
3) อส.ทพ.สังคม เมืองลุง
นอกจากนั้นยังมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บอีก 5 นาย เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ประกอบด้วย อส.ทพ.สุบิน ศรีสุข อส.ทพ.กิตติ โกมาน อส.ทพ.บูรพา เนินทราย อส.ทพ.กุ้ง วงใหญ่ และ อส.ทพ.ธวัชชัย คำเหนียว
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนจนทราบว่า ขณะที่กำลังทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 จำนวน 12 นาย ออกปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเดินเท้าบริเวณริมถนนบ้านเจาะเกราะ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง ระหว่างทางคนร้ายได้จุดชนวนระเบิดและใช้อาวุธปืนสงครามยิงโจมตีซ้ำ เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ยิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป แต่ผลจากการถูกโจมตีทำให้ทหารพรานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 นาย และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 นาย ที่เหลืออีก 5 นายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
สำหรับบ้านเจาะเกราะ ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง ที่คนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดทหารพรานในครั้งนี้ เป็นบ้านของ นายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบคนสำคัญที่มีหมายจับในคดีปล้นปืน
ยิงฐาน ตชด.สะบ้าย้อย-เอ็ม 79 ถล่มค่ายรือเสาะ
เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผู้กำกับการ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนมีรถจี๊ปยี่ห้อคาริเบียน สีเขียว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4312 (ร้อย ตชด.4312) ตั้งอยู่ที่บ้านมุนี หมู่ 4 ต.จะแหน อ.สะบ้าย้อย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สกัดจับผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นชาวบ้านบาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา
ช่วงเย็นวันเดียวกัน คนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงระเบิดถล่มฐานปฏิบัติการทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4909 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งตั้งฐานอยู่ที่วัดบากง หมู่ 6 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส แต่ไม่มีรายงานความสูญเสีย
ทั้งนี้ ตลอดทั้งวันมีการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ปั่นป่วน อีกหลายจุด เช่น โปรยตะปูเรือ ตัดต้นไม้ขวางถนน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
ยิงผู้เฒ่าสองพี่น้องที่ตากใบ – รวบผู้ต้องสงสัยที่ยะหริ่ง
ส่วนที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส คนร้ายใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาด ยิง นายลิน แดงนา อายุ 70 ปี และ นางยิ แดงนา อายุ 75 ปี ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน อาศัยอยู่ที่บ้านโคกยาง หมู่ 5 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไปเลี้ยงวัว เหตุเกิดบนทางหลวงหมายเลข 4057 บ้านปศุสัตว์ ต.โฆษิต อ.ตากใบ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี กำลังผสมตำรวจ ทหาร และทหารพราน ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมบุคคลเป้าหมายเป็นผู้ต้องหาตามหมาย ฉฉ. ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ที่บ้านหลังหนึ่งในท้องที่บ้านดาโต๊ะ หมู่ 4 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง และสามารถควบคุมตัวบุคคลตามหมายได้ เป็นผู้ต้องสงสัยวัย 27 ปี คาดว่าเกี่ยวพันกับการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และอาจร่วมก่อเหตุเผารถยนต์ของบริษัทฮอนด้า เมื่อวันที่ 22 ส.ค.2555 ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่ตรวจจุดเกิดเหตุระเบิดที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่ทำให้ทหารพรานต้องพลีชีพถึง 3 นาย