ปริศนา!“อนุสรณ์”ควักเงินซื้อหุ้น 40 ล้าน ก่อน“ยิ่งลักษณ์”นั่งนายกฯ
ปริศนา!“อนุสรณ์ อมรฉัตร”มีเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน บ.แอ็ด อินเด็กซ์ 40 ล้าน ทั้งที่มีรายได้ปีละ 2 ล้าน หนี้สินธุรกิจหลาย 369 ล้าน ก่อน“ยิ่งลักษณ์”เป็นนายกฯ
นายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามีนอกสมรส น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้เงินถึง 40 ล้านบาทในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนบริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด จำนวน 40 ล้านบาท (เพิ่มทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาทเป็น 45 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2554 ทั้งๆที่มีหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน 369.6 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่าวันที่ 27 ส.ค. 2553 บริษัท แอ็ดอินเด็กซ์ จำกัด ให้เช่าอพาร์ทเม้นท์ มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท นายอนุสรณ์ อมรฉัตร ถือหุ้นมูลค่า 100,000 บาท ( จำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 คน คือ น.ส.นัทธฤทัย คล่องคำนวณการ 163,333 หุ้น น.ส.สุมิตรา อิงคผาติ 163,332 หุ้น และ น.ส.สอางทิพย์ อมรฉัตร 163,332 หุ้น (ดูตาราง)
วันที่ 20 เม.ย.2554 บริษัท แอ็ดอินเด็กซ์ จำกัด ได้เพิ่มทุนจาก 5 ล้านบาทเป็น 45 ล้านบาท ทุนที่เพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท ปรากฏว่าเป็นเงินลงทุนจากนายอนุสรณ์ โดยถือหุ้นใหญ่ 4,010,000 หุ้น (89.11%) จากทั้งหมด 4,500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
น่าสังเกตว่าการเพิ่มทุนจำนวน 40 ล้านบาทดังกล่าวค่อนข้างสวนทางกับรายได้และผลประกอบการทางธุรกิจของนายอนุสรณ์ กล่าวคือ
1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตอนรับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 2 สิงหาคม 2554 ระบุว่า นายอนุสรณ์มีรายได้ต่อปี 1,441,666.67 บาท ประกอบด้วย
-เงินรายได้ประจำจาก บมจ.เอ็มลิงค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตั้งแต่เดือน มกราคม-มิถุนายน 2554 จำนวน 900,000 บาท (น.ส.ยิ่งลักษณ์หมายเหตุในรายได้ประจำว่า นายอนุสรณ์คู่สมรสได้ลาออกจาก บมจ.เอ็มลิงค์ มีผลวันที่ 30 มิถุนายน 2554)
-รายได้จากทรัพย์สิน ได้แก่ ค่าเช่า 425,000 บาท ดอกเบี้ย 50,000 บาท เงินปันผล 66,666.67 บาท
และยังระบุว่านายอนุสรณ์ มีรายจ่ายประจำรวม 820,000 บาท ได้แก่ ค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค จำนวน 600,000 บาท เบี้ยประกัน 160,000 บาท ค่าเช่า 60,000 บาท
2.รับตำแหน่ง ส.ส.วันที่ 2 สิงหาคม 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินระบุว่า นายอนุสรณ์ เงินสด 5,000,000 บาท เงินฝาก 5,454,464.58 บาท จากทรัพย์สินรวม 76,773,472.02 บาท (เงินลงทุน บริษัท เอ็ม-บิท จำกัด และบริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด มูลค่า45,098,000 บาท)
และตอนรับตำแหน่งนายกฯ วันที่ 10 สิงหาคม 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ แจ้งทรัพย์สินของนายอนุสรณ์ มีทรัพย์สิน 76,779,386.56 บาท ในจำนวนนี้เป็น เงินสด 5,000,000 บาท เงินฝาก 5,458,969.29 บาท
สรุปว่านายอนุสรณ์มีเงินสดและเงินฝากประมาณ 10 ล้านบาทเศษ
3.น.ส.ยิ่งลักษณ์ แสดงในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน 2 ครั้งระบุว่า นายอนุสรณ์เป็นหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน 369,658,334.40 บาท ปัจจุบัน (ขณะนั้น) ได้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (เฉพาะส่วน) เหลือ 7 ล้านบาทเศษ
4. บริษัท เอ็ม-บิท จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักร,เครื่องมือสื่อสาร ซึ่งเป็นธุรกิจอีกแห่งที่นายอนุสรณ์ถือหุ้น 499,800 หุ้น หุ้นละ 10 บาท หรือ 33.3% (ตามข้อมูลที่แจ้ง ป.ป.ช.) มีรายได้ ปี 2553 จำนวน 5,000,084 บาท กำไรสุทธิ 4,029,715 บาท สินทรัพย์ 73,285 บาท หนี้สิน 477,129,413 บาท (เป็นหนี้เงินกู้ยืมจากกรรมการ 476,922,031 บาท ) และมีผลประกอบการ ขาดทุนสะสมถึง 492,056,128 บาท
ทั้งนี้ น่าสังเกตว่า การที่นายอนุสรณ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40 ล้านบาท เกิดขึ้นหลังจาก บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด กู้เงินภรรยาตัวเอง 30 ล้านบาท ( น.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งว่าปล่อยกู้ วันที่ 6 ตุลาคม 2549 จำนวน 20 ล้านบาท วันที่ 9 มีนาคม 2550 จำนวน 5 ล้านบาท และวันที่ 13 มีนาคม 2550 จำนวน 5 ล้านบาท)
และน่าสังเกตอีกว่า การที่นายอนุสรณ์ใช้เงินซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40 ล้านบาท ในช่วงวันที่ 20 เมษายน 2554 แสดงว่าจะต้องมี “เงิน”มากกว่า 50 ล้านบาท เพราะอีก 3 เดือนถัดมานายอนุสรณ์มีเงินสดและเงินฝากรวม 10.4 ล้านบาท (ตามข้อมูลในบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช.)
อย่างไรก็ตาม ถ้าทรัพย์สินดังกล่าว นายอนุสรณ์ไม่ใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง และถ้าหากเป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือว่านายอนุสรณ์ถือครองทรัพย์สินแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่
เนื่องจาก กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหนงทางการเมือง มีหน้าที่ต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย (วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมปี 2554)