‘ยุทธพงศ์’ยันไม่ยุติโครงการพยุงราคายาง – เผยรบ.ไทยเล็งร่วมมาเลฯตั้งนิคมอุตฯ ‘รับเบอร์ซิตี้’
‘ยุทธพงศ์’ แจงกรณีสื่อลงข่าวผิด ยันไม่ยุติโครงการแทรกแซงราคายาง-ดำเนินการต่อเนื่องถึง 31 มี.ค. 56 เผยนายกฯเตรียมหารือร่วมรบ.มาเลเซีย ตั้งนิคมอุตฯ ‘รับเบอร์ซิตี้’ ชายแดน จ.สงขลา
วันที่ 19 ก.พ. 56 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.กษ.) ชี้แจงกรณีสำนักข่าวแห่งหนึ่งนำเสนอข่าวผิดพลาด โดยระบุว่าตนจะยุติการรับซื้อยางในโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางและนำไปเชื่องโยงกับราคายางที่ตกต่ำลงเล็กน้อยในขณะนี้ เป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง โดยยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยโครงการฯยังรับซื้อยางจากเกษตรกรต่อเนื่องจนสิ้นสุดระยะเวลาโครงการในวันที่ 31 มี.ค. 2556 ทั้งนี้ตนไม่มีเหตุผลที่จะต้องระงับการดำเนินโครงการฯ เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพิ่งมีมติอนุมัติวงเงินรักษาเสถียรภาพราคายางพาราเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท (งวดที่ 3 จากวงเงิน 30,000 ล้านบาท) เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยเมื่อวานนี้ (18 ก.พ. 56) ตนยังได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง ระดับจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันการทุจริตและการสวมสิทธิด้วย ดังนั้นข่าวที่ออกมาจึงน่าจะเป็นปัญหาการสื่อสารที่ผิดพลาด
อย่าง ไรก็ดีเมื่อสิ้นสุดโครงการรักษาเสถียรภาพราคายางจะมีการพิจารณาสถานการณ์ ราคายางในตลาดอีกครั้งเพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินโครงการต่อหรือไม่ ขณะที่มาตรการร่วมระหว่าง 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซียในการงดส่งออกยางพารา 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะสิ้นสุดการดำเนินการในวันที่ 31 มี.ค. 56 เช่นเดียวกันนั้น จะต้องมีการหารือร่วมกันต่อไปว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆร่วมด้วย ทั้งนี้สำหรับภาพรวมของโครงการรักษาเสถียรภาพราคายาง มีการรับซื้อยางพาราในประเทศ 198,000 ตัน โดยยางที่อยู่ในสต๊อกของรัฐบาลทั้งหมดยังไม่มีแผนระบายออกสู่ตลาด
นายยุทธพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 28 ก.พ. 56 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และตน จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือความร่วมมือในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมยาง หรือ รับเบอร์ซิตี้ (Rubber City) ร่วมกันระหว่างรัฐบาลไทย-มาเลเซีย เนื่องจากมาเลเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางเป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งมีความต้องการวัตถุดิบน้ำยางข้น(ลาเท็กซ์)ในปริมาณมาก ซึ่งในส่วนนี้ไทยสามารถผลิตน้ำยางข้นตอบสนองได้ โดยมีความเป็นได้ว่านิคมดังกล่าวจะจัดตั้งในเขตพื้นที่อ.สะเดา จ.สงขลา เนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างไทย-มาเลเซีย และเป็นพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดการลงทุนได้ อย่างไรก็ดีจะต้องมีการหารือร่วมกันต่อไปในเรื่องขนาดของนิคมและงบลงทุน
ที่มาภาพ ::: http://www.dailynews.co.th/politics/5921