ภูมิพล น้ำเหลือต่ำกว่าครึ่งอ่างฯแล้ว เตือนต้องงดทำนาปรังครั้งที่ 2 ลดเสี่ยงขาดน้ำ
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ ล่าสุด(12 ก.พ. 56) มีปริมาณน้ำรวมกัน จำนวน 44,167 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่รวมกันทั้งหมด ปริมาณน้ำน้อยกว่าปี 2555 จำนวน 9,676 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้การได้จำนวนทั้งสิ้น 20,668 ล้านลูกบาศก์เมตร
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุน ส่งไปสนับสนุนการใช้น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีดังนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 6,594 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,794 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 4,739 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,889 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 588 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 545 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 448 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 445 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนของพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ลงมา ได้กำหนดแผนการใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2555/2556 ดังที่กล่าวมาข้างต้น ตามมาตรการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน คิดเป็นปริมาณน้ำรวมทั้งสิ้น 9,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งนำมาจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ รวมกันจำนวน 6,800 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จำนวน 600 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อีกจำนวน 600 ล้านลูกบาศก์เมตร และผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองมาเสริมอีก 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(ณ 8 ก.พ. 56) พบว่ามีการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งไปแล้วกว่า 9.57 ล้านไร่ หรือเกือบเต็มพื้นที่ตามแผนที่ได้กำหนดไว้(แผน 9.60 ล้านไร่) แยกเป็นพื้นที่ทำนาปรัง 9.26 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 101 ของแผน(แผนกำหนดไว้ 9.17 ล้านไร่) และพืชไร่-พืชผัก 0.31 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 72 ของแผน(แผนกำหนดไว้ 0.43 ล้านไร่)
ผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2555/2556 เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(12 ก.พ. 56) มีการใช้น้ำไปแล้ว 5,660 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 63 ของแผนการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งทั้งหมดของลุ่มน้ำเจ้าพระยา คงเหลือปริมาณน้ำที่จะใช้ได้ตามแผนการจัดสรรน้ำอีก 3,340 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของแผนฯ
ทั้งนี้ จากกาติดตามสภาพการเพาะปลูกในเขตพื้นที่ชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่ามีการทำนาปรังเกินกว่าแผนที่ได้กำหนดไว้ และยังมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีก ซึ่งกรมชลประทาน ได้ประกาศแจ้งเตือนเกษตรกรให้งดทำนาปรังครั้งที่ 2 ไปแล้ว เนื่องจากจะกระทบต่อการใช้น้ำที่มีอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอให้เกษตรกรให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัดด้วย