กษ.สั่งทำแผน จว. ดันรายได้ขั้นต่ำเกษตรกรไทย 1.8 แสนบ./ปี

ก.เกษตรฯสั่ง กษ.จว.ทำแผนพัฒนาจังหวัดฯยึดข้อมูลรายพื้นที่ ชี้เป้ากษตรกรไทยมีรายได้ขั้นต่ำ 1.8 แสนบ./ปี เตรียมออกกฎกระทรวงโซนนิ่งพืช

วันที่ 29 ม.ค. 56 ที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ กรุงเทพฯ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สป.กษ.) จัดสัมมนา ‘การชี้แจงแนวทางการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด ‘  เพื่อให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัด (กษ.จว.) จัดทำแผนพัฒนาฯระดับจังหวัดที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายรัฐบาล และนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.)

โดยนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(รมว.กษ.)  บรรยายพิเศษถึงแนวทางหลักที่มอบให้กษ.จว.จัดทำแผนพัฒนาการเกษตรของจังหวัดว่า  แนวทางแรกซึ่งเป็นเป้าหมายของกษ.ขณะนี้คือ นโยบายการสร้าง ‘เกษตรกรปราดเปรื่อง’ หรือ ‘สมาร์ทฟาร์มเมอร์’  ซึ่งจำเป็นต้องมี ‘สมาร์ทออฟฟิตเซอร์’ หรือ ข้าราชการของกษ.ซึ่งเป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดที่คอยชี้แนะแนวทาง ดังนั้นกษ.จว.จึงต้องมีความเข้าใจในตัวเกษตรกรในพื้นที่ของตนก่อนเป็นอันดับแรก จึงจะนำไปสู่การพัฒนาให้เกิด ‘เกษตรกรปราดเปรื่อง’ ที่สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการวางแผนการเพาะปลูก การแปรรูป ตลอดจนหาช่องทางการตลาดได้  

นอกจากนี้แนวทางหลักที่ได้มอบนโยบายเพื่อให้กษ.จว.จัดทำแผนฯ ยังรวมถึงการที่แต่ละจังหวัดต้องจัดเขตเศรษฐกิจหรือโซนนิ่งให้ได้เพื่อให้สะดวกต่อการบริหารจัดการเรื่องผลผลิตล้นหรือขาดตลาด , การเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยอาหาร  ,การมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตเมล็ดพันธุ์พืช  ,การเป็นศูนย์กลางเครื่องจักรกลในอาเซียน และการจัดระบบการผลิตที่เป็นเกษตรสีเขียว(Green Economy) ซึ่งกำลังเป็นกระแสที่ผู้บริโภคในตลาดโลกต้องการ  

ทั้งนี้กษ.จว. จะต้องใช้ข้อมูลฐานด้านการเกษตรที่แต่ละกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มได้เสนอไปยังสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประกอบกับข้อมูลฐานด้านการเกษตรของแต่ละจังหวัดซึ่งได้เสนอมายังกษ.แล้ว อันประกอบด้วย ข้อมูลแหล่งผลิต ผู้รับซื้อสินค้า แหล่งกระจายสินค้าของแต่ละพื้นที่ เป็นข้อมูลฐานสำคัญประกอบการจัดทำแผนฯด้วย  โดยแต่ละจังหวัดจะต้องศึกษาข้อมูลในพื้นที่ตนและวางแผนว่าจะทำอย่างไรที่จะส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรที่มีรายได้ 180,000 บาท/ครัวเรือน/ปีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงจะทำอย่างไรให้กลุ่มเกษตรกรที่มีรายได้ต่ำกว่า 180,000 บาท/ครัวเรือน/ปี มีรายได้ขั้นต่ำต่อครัวเรือนปีละ180,000 บาท หรือ วันละ 300 บาทให้ได้ โดยอาจส่งเสริมอาชีพทั้งที่อยู่ในและนอกภาคการเกษตรตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่  

รมว.กษ. ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้านโยบายการจัดโซนนิ่งเกษตรว่า  เร็วนี้ๆกษ.จะออกประกาศกระทรวงเกี่ยวกับการจัดโซนนิ่งพืชโดยระบุพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกพืช 6 ชนิด ได้แก่  ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา อ้อย และข้าวโพด โดยเป็นข้อมูลที่ลงลึกถึงรายตำบล ซึ่งจะแบ่งพื้นที่เป็น 2 ระดับ คือ เหมาะสมมาก และเหมาะสมปานกลาง

“เช่น ในพื้นที่ที่เหมาะสมแก่การปลูกข้าวปานกลาง ซึ่งมีผลผลิตต่อไร่ 500กิโลกรัม จะทำอย่างไรให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นมาเป็น 700 กิโลกรัมต่อไร่  หรือหากเกษตรกรอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกเลย จะส่งเสริมอาชีพอะไรแทนด้านประมง หรือ ปศุสัตว์ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่เกษตรและสหกรณ์จังหวัดจะต้องไปวิเคราะห์และวางแผนร่วมกับเกษตรจังหวัดและหน่วยงานท้องถิ่น โดยยึดหลักทฤษฎีใหม่ที่เน้นการจัดระบบการใช้ที่ดินทำกินซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานไว้เป็นหัวใจของการพัฒนา”  นายยุคลกล่าว

ทั้งนี้สำหรับแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัดจะใช้เพื่อ 1) เป็นกรอบแนวทางในการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด 2) เป็นกรอบในการจัดทำคำของบประมาณของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 3)เป็น เครื่องมือในการติดตามแผนงาน/โครงการในการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด