เปิดกรุคดีฉาว “นายไปรษณีย์” 8 ปี ป.ป.ช.ฟันไม่เลี้ยง 24 เรื่อง 28 ราย
เปิดกรุคดีฉาว “นายไปรษณีย์” 8 ปี ป.ป.ช. ฟันไม่เลี้ยง 24 เรื่อง 28 ราย พบสารพัดกลโกง “ไม่นำส่งค่าธรรมเนียม- รายได้ แถมปลอมแปลงลายมือ-เอกสาร “แกะซองจดหมาย" ขโมยของ ยักยอกเงินธนาณัติ!!
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า จากการตรวจสอบสำนวนคดีการสอบสวนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว นับตั้งแต่เป็น 2540 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ของนายไปรษณีย์ เป็นจำนวนมาก ถึง 24 คดี แยกเป็น
1.เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2544 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นางวรีย์ รักษ์ตระกูล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 4 ได้รับมอบหมาย ให้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานผู้รับฝากไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS ระหว่างประเทศ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า รับฝากไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ระหว่างประเทศ จำนวน 11 ฉบับ พร้อมเงินค่าธรรมเนียม เป็นจำนวนเงิน 15,890 บาท แล้วไม่นำเงินค่าธรรมเนียมส่งเข้าบัญชีให้การสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็นเหตุให้การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้รับความเสียหาย
2.เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2544 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายคณิศร วงศ์เหรียญไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 3 ประจำที่ทำการไปรษณีย์ ศรีนครินทรวิโรฒ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า รับเงินค่าฝากส่งไปรษณียภัณฑ์ที่ชำระค่าบริการเป็นเงินสดตามหน้าที่แล้วไม่นำส่งเข้าเป็นรายได้ของการสื่อสารแห่งประเทศไทยตามระเบียบฯ กลับนำไปใช้เป็นประโยชน์แก่ตนเองโดยมิชอบ
3.เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2545 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายร่วมเกียรติ พลเยี่ยม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 5 ที่ทำการไปรษณีย์ จังหวัดเชียงราย สำนักงานการสื่อสารไปรษณีย์เขต 5 การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า กระทำการเปิดซองไปรษณีย์ด่วนพิเศษ แล้วนำตั๋วแลกเงินที่บรรจุอยู่ภายในไปโดยมิชอบ และเบียดบังเงินค่ารับฝากสิ่งของส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศ และเงินค่าจำหน่ายตราไปรษณียากรตามใบยืมที่อยู่ในความรับผิดชอบไปเป็นของตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต
4.เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2545 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายพัฒนา สายคำติ่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 5 การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า กระทำการทุจริตนำพัสดุไปรษณีย์ และเงินค่าธรรมเนียมฝากส่งพัสดุไปรษณีย์จำนวนสองครั้ง เป็นเงิน 6,060 บาท ไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว
5.เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2545 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายศักดิ์ชัย ศรีดาเพ็ง บุรุษไปรษณีย์ 3 การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า กระทำการเปิดไปรษณียภัณฑ์ที่ได้รับไปนำจ่ายแก่ผู้รับตามหน้าที่ แล้วลักทรัพย์ที่บรรจุอยู่ภายในไปเป็นประโยชน์ส่วนตนหรือผู้อื่นโดยทุจริต
6.เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2545 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 1.นายจรูญ หรือนสิษฐา แสงเพชร อดีตนายไปรษณีย์ 6 ประจำที่ทำการไปรษณีย์บ้านธิ จังหวัดลำพูน และ 2.ายพิทักษ์ เสนอุโมงค์ กรรมการเก็บรักษาเงินของที่ทำการ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า นำเงินสดประจำที่ทำการไปรษณีย์บ้านธิที่ตนเองมีหน้าที่เก็บรักษาไปใช้เป็นประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
7.เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2546 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายธัญพิสิษฐ์ ยองคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 3 ที่ทำการไปรษณีย์ป่าซาง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า ทุจริตเงินธนาณัติของผู้กล่าวหาทั้งสองราย พร้อมเงินค่าธรรมเนียม การส่งธนาณัติ จำนวน 44 บาท รวมเป็นเงิน 17,864 บาท
8.เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2546 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายวรพจน์ ถ่ำพิพัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 3 ที่ทำการไปรษณีย์บางโพ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า รับฝากส่งพัสดุไปรษณียภัณฑ์ระหว่างประเทศ และได้รับชำระเงินค่าฝากส่งพัสดุไปรษณีย์ ดังกล่าว จำนวน 27 ห่อ รวมเป็น เงิน 29,660 บาท ซึ่งจะต้องนำ เงินจำนวนดังกล่าวส่งเข้าบัญชี ตามระเบียบ แต่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหากลับนำเงินที่ได้ รับชำระไว้นั้น ไปเป็นของตน หรือผู้อื่นโดยทุจริต
9. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2546 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายเสกสันต์ จำเริญ อดีตนายไปรษณีย์ ระดับ 4 ประจำที่ทำการไปรษณีย์มักกะสัน การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า ไม่นำเงินค่าฝากส่งไปรษณีย์ธรรมดา ประเภทชำระค่าบริการ เป็นเงินสดส่งเข้าบัญชีตามระเบียบ กลับนำไปเป็นประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ
10.เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายพิศาล วีรวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายไปรษณีย์ 5 ที่ทำการไปรษณีย์นาโยง อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า รับชำระค่าพัสดุไปรษณีย์เก็บเงิน ในประเทศ (พกง.) จำนวน 59 ห่อ เป็นเงิน 115,126 บาท แล้วนำ เงินส่งให้แก่ผู้ฝากล่าช้า จำนวน 725 วัน เพื่อหมุนเงินค่าพัสดุ พกง. "ไปใช้เป็นประโยชน์สำหรับตนหรือ " ผู้อื่นโดยทุจริต
11.เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2546 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายสุพัฒน์ บินโน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง บุรุษไปรษณีย์ 2 ที่ทำการไปรษณีย์จรเข้บัว การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า เปิดซองไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ระหว่างประเทศ ต้นทางประเทศ สหรัฐอเมริกาแล้วลักเอาเงินสด จำนวน 150 ดอลล่าร์สหรัฐ ที่บรรจุอยู่ภายในซองไปเป็น ประโยชน์ส่วนตัว
12.เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2546 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นางสาวธัญนันท์ ทองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานธุรการ 5 รักษาการ ในตำแหน่งหัวหน้างานธุรการ สำนักปลัดเทศบาล เทศบาลนครนครศรีอยุธยา ,นายทวี สิทธิพัฒนกุล เจ้าหน้าที่ธุรการ 4 กองคลัง เทศบาลนครนครศรีอยุธยา , นางสาวเทวิกา บุตรทรัพย์ เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี 4 กองการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบพบว่า กระทำการทุจริตปลอมเอกสารใบนำส่งไปรษณียภัณฑ์ของที่ทำการไปรษณีย์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเทศบาลนครนครศรีอยุธยาได้ฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์แจ้งการประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารเรียนและอาคารประกอบโรงเรียนชุมชนป้อมเพชรไปยังหน่วยงานต่าง ๆ เป็นเหตุให้ เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
13.เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2547 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายโสภณ สุวรรณพืช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 6 ประจำที่ทำการไปรษณีย์ม่วงสามสิบ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี และ นายแสวง สิงสา หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ (หน.ปณ.) ม่วงสามสิบ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่าเบียดบังทรัพย์เงินค่าตราไปรษณียากรและเงินค่าพัสดุ ไปรษณีย์เก็บเงิน (พกง.) ไปใช้ประโยชน์แก่ตนเอง เมื่อตรวจพบจึงนำมาชดใช้คืนในภายหลัง
14. เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2547 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายรังสรรค์ เสลาหลัก เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่าเบียดบังเงินสดตราไปรษณียากรและสิ่งมีค่าแทนตัวเงิน ไปเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต
15.เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2547 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 1.นายวีรชัย ไกรสีทา หัวหน้าที่ทำการไปรษณีย์สว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร 2.นายจำนง สีลานาแก พนักงานบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินของบริษัทไปรษณีย์ ไทย จำกัด จำนวน 29,400,000 บาท ไปเป็นของตน
16.เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2547 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายประยุทธ เหมเชื้อ บุรุษไปรษณีย์ 3 ประจำที่ทำการไปรษณีย์บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี บริษัท กสท. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตรวจสอบพบว่า เปิดถุงไปรษณีย์ธรรมดา และนำสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายใน จดหมายธรรมดาต่างประเทศ ไปเป็นประโยชน์แก่ตนเองโดยมิชอบ
17.เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2549 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายคมกฤษณ์ วงศ์ษาสิงห์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 3 ประจำแผนกรับฝาก ที่ทำการไปรษณีย์ดุสิต การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินค่ารับฝากธนาณัติ ไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง
18.เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2549 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายจรูญภักดิ์ หอมระรื่น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 6 ที่ทำการไปรษณีย์บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินค่าจัดส่งธนาณัติ ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
19. เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2550 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายชำนาญ ดวงจิตร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง บุรุษไปรษณีย์ 6 ที่ทำการไปรษณีย์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า จัดทำใบโทรเลขธนาณัติเป็นเท็จ และยักยอกเงินธนาณัติไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
20.เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2551 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายอนันท์ ชนประชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายไปรษณีย์ 4 ที่ทำการไปรษณีย์หลานหลวง การสื่อสารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบพบว่า ยักยอกเงินธนาณัติไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเอง
21.เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2554 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายขจร หรือณรงค์กร สายนาคำ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง พนักงานปฏิบัติการทั่วไป 4 ประจำที่ทำการไปรษณีย์แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินธนาณัติและเงินรายได้จากการให้บริการไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
22.เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นายสมบัติ สิงห์คาม พนักงานไปรษณีย์ 4 ที่ทำการไปรษณีย์วาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินรายได้ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไปเป็นประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น
23.เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2555 ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด นางนันทนา หรือธนัญธร ระยะ ลูกจ้างปฏิบัติงานประจำ ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดสระบุรี สำนักงานไปรษณีย์เขต 1 ตรวจสอบพบว่า เบียดบังเงินค่าบริการไปรษณีย์ที่รับไว้ แล้วปลอมหมายเลขใบฝากเงินธนาณัติ หมายเลขใบเสร็จรับเงิน และเอกสารบัญชีควบคุมการจ่ายไปรษณีย์เก็บเงินในประเทศ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเชื่อว่ามีการส่งเงินแล้ว
24. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2555 ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายสมเดช จันทะแนน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ลูกจ้างนำจ่ายประจำที่ทำการไปรษณีย์บ้านโป่ง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ตรวจสอบพบว่า ปลอมลายมือชื่อผู้รับไปรษณียภัณฑ์ และกักเก็บไปรษณียภัณฑ์ดังกล่าว โดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้ หากนับจำนวนเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์และ ผู้เกี่ยวข้องที่ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดในคดีเหล่านี้ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 28 ราย โดยโทษส่วนใหญ่ที่ได้รับคือ ไล่ออก ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่บางรายอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี