โพลชี้ เด็กส่วนใหญ่ต้องการครูมีทักษะ ถ่ายทอดความรู้ได้ดี พร้อมปรับวิธีการสอนที่นอกเหนือจากการท่องจำ
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "เด็กและเยาวชนไทยคิดอย่างไร? กับครูไทย " ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9-11 มกราคม 2556 จากเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ จำนวน 1,232 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค เกี่ยวกับความเห็นของเด็กและเยาวชนที่มีต่อครู และเนื่องในวันครู ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี
จากการสำรวจพบว่า เด็กและเยาวชนร้อยละ 30.19 ต้องการครูที่มีทักษะในการสอน สามารถถ่ายทอดความรู้ได้ดี มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 24.76 ครูต้องเป็นคนดีมีคุณธรรม มีความเมตตากรุณา ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นแบบอย่างที่ดี ร้อยละ 23.78 ต้องมีความเอาใจใส่ในการสอนอย่างจริงจัง และร้อยละ 10.47 ครูต้องใจดี ไม่ดุ ไม่ลงโทษเด็ก
เด็กและเยาวชน ร้อยละ 27.92 ประทับใจในครูที่มีความตั้งใจและเอาใจใส่ในการถ่ายทอดความรู้ความสามารถให้แก่เด็กนักเรียนมากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 19.97 ครูที่คอยชี้แนะ ให้คำแนะนำ คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ ร้อยละ 19.56 ครูที่เป็นคนดี มีคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต เป็นแบบอย่างที่ดี และร้อยละ 15.56 ครูที่มีความเมตตากรุณา โอบอ้อมอารีต่อเด็ก
ท้ายสุด เมื่อถามเกี่ยวกับสิ่งที่ครูไทยต้องปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน พบว่า ร้อยละ 39.77 ครูต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเรียนการสอน นอกเหนือจากการท่องจำจากตำรา รองลงมา ร้อยละ 30.60 ครูต้องเพิ่มพูนทักษะ ความรู้ความสามารถของตนเองให้มากขึ้น เช่น การฝึกภาษา การเพิ่มพูนความรู้ การใช้อุปกรณ์ไอที และร้อยละ 23.94 การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความทันสมัยมาเป็นสื่อการเรียนการสอน เช่น การใช้แท็บเล็ต
อ.ดร.รัตติพร ถึงฝั่ง อาจารย์ประจำคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ได้ให้ทัศนะผลสำรวจในครั้งนี้ว่า “จากหลาย ๆ ผลการศึกษาที่ระบุว่าเด็กไทยมีผลการเรียนที่ต่ำกว่าเกณฑ์นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กของครู ซึ่งถ้าหากครูไม่มีทักษะในตรงนี้ ย่อมส่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก ดังนั้น ผลสำรวจจึงสะท้อนออกมาว่าเด็กต้องการให้ครูนั้นมีความตั้งใจในการสอน ในทักษะในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กได้เป็นอย่างดี สิ่งหนึ่งนอกเหนือจากความรู้ที่ครูให้กับเด็กก็คือ ความเอาใจใส่ในตัวเด็ก เข้าใจเด็ก สามารถช่วยเหลือหรือให้คำปรึกษาแก่เด็กนักเรียนได้ ไม่ใช่สอนในห้องแล้วก็จบไป”
ทั้งนี้ครูในยุคใหม่ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ก้าวทันต่อโลก เช่น การปรับเปลี่ยนระบบการเรียนการสอน หมั่นใช้คำศัพท์ทางเทคนิค คำศัพท์เฉพาะ หรือคำศัพท์ที่สอดคล้องกับเนื้อหาที่เรียน การเพิ่มพูนทักษะของตัวครู การเรียนรู้จิตวิทยาของเด็ก เพราะเด็กในแต่ละช่วงอายุมีทักษะและความสามารถในการเรียนรู้ได้ไม่เท่ากัน
