A Chance for Change : “ขอเพียงโอกาส ชีวิตก็เปลี่ยน”
นี่คือชีวิตจริงของ “ดาวใจและอุไรรัตน์” เด็กสาวชาวเขาที่เข้าร่วม“โครงการพัฒนาเยาวชนในสายอาชีพ” ซึ่งยูนิเซฟจับมือกับโรงแรมชั้นนำ ธนาคาร โรงพยาบาล สร้างโอกาสแก่เด็กยากจนในภาวะเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์
กรุงเทพฯ มกราคม 2556 - ณ หอพักหญิงนิรมลในย่านรามคำแหง มีเด็กและเยาวชนจากครอบครัวที่ยากจนประมาณ 21 คนกำลังเข้าแถวรอจับฉลากว่าจะได้ไปฝึกงานกับโรงแรมชั้นนำโรงแรมใด ด้านหลังของห้อง มีพนักงานจากโรงแรมต่างๆรอต้อนรับเด็กฝึกงานคนใหม่อยู่ สำหรับดาวใจ แซ่ท่อ เด็กสาวกลุ่มชาติพันธุ์ม้งวัย 20 ปีจากหมู่บ้านทับเบิกในจังหวัดเพชรบูรณ์ การเข้าแถวรอจับฉลากถือเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น ดาวใจล้วงมือลงไปในซองและค่อยๆดึงกระดาษแผ่นเล็กๆออกมา“เจดับบลิว แมริออท” เธออ่าน หลังจากนั้นชีวิตใหม่ของดาวใจก็เริ่มขึ้น
ดาวใจเป็นเด็กสาวที่เงียบขรึมและขี้อาย เธอจะเริ่มพูดคุยมากขึ้นเมื่อเธอรู้จักคุ้นเคยแล้วเท่านั้น ดาวใจแต่งตัวเรียบง่าย ผมเผ้าเรียบร้อยไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก ไม่เหมือนเด็กสาวในเมืองที่ใส่ใจเรื่องแฟชั่น
“หนูมากรุงเทพฯ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองค่ะ” ดาวใจบอก “หนูมาถึงเมื่อวาน นั่งรถบัสมากับเพื่อน หนูตื่นเต้นมากเลย หนูอยากเรียนต่อมหาวิทยาลัยแต่พ่อแม่ไม่มีเงินส่ง หนูก็บอกไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูหาเงินเรียนเองก็ได้ ถ้าได้ทำงานในโรงแรมก็คงมีเงินส่งตัวเองเรียนได้”
โครงการพัฒนาเยาวชนในสายอาชีพ หรือ Youth Career Development Programme (YCDP) เป็นโครงการที่ยูนิเซฟริเริ่มร่วมกับโรงแรมแพนแปซิฟิคในปี 2533 โดยฝึกอบรมการโรงแรมให้แก่เด็กยากจนที่อยู่ในภาวะเสี่ยง เพื่อสร้างโอกาสในอาชีพและป้องกันเด็กๆ จากการถูกล่อลวงจากขบวนการค้ามนุษย์ หรือการแสวงประโยชน์ทางเพศ ซึ่งต่อมาโครงการได้ขยายยังโรงแรมอื่น ๆ ตลอดจนธนาคารและโรงพยาบาล
“โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจและองค์กรเช่นยูนิเซฟสามารถทำงานร่วมกันเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เด็ก ๆ และเยาวชนให้ดีขึ้นได้” นายแอนดรู มอริส รองผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยกล่าว “โครงการนี้ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนชีวิตของเด็กๆ และเยาวชนนับพันคนตลอดจนครอบครัวของพวกเขาด้วย”
ในช่วงปีแรก ๆ ของโครงการ ยูนิเซฟเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านเงินทุนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าฝึกอบรม ค่าเดินทางและค่าที่พัก ต่อมาในปี 2551 ยูนิเซฟได้ขอให้โรงแรมรับภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในด้านการฝึกอบรมพนักงาน และกิจกรรมเพื่อสังคม “ปัจจุบันโรงแรมต่าง ๆ เป็นผู้รับภาระด้านค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการ ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นความยั่งยืนของโครงการ” นายแอนดรูกล่าว
อบรมในครัว
หลายสัปดาห์ต่อมา ดาวใจทำงานอย่างคร่ำเคร่งในครัวของโรงแรมเจดับบลิว แมริออทที่ตั้งอยู่ในอาคารหรูหรา เพดานสูงลิ่วและผนังกรุไม้ บนถนนเพลินจิต ของกรุงเทพฯ ตามทางเดินแว่วเสียงกังวานของส้นรองเท้าที่กระทบกับพื้นหินอ่อนและเสียงช้อนกระทบจานกระเบื้อง ดาวใจสวมชุดเครื่องแบบสีขาวสะอาดของพนักงานในครัวและกำลังปรุงอาหารเพื่อเสริ์ฟเป็นอาหารค่ำ เธอเป็นลูกมือคอยช่วยเชฟหั่นผัก ผสมซอสเครื่องปรุงและยกถาดอาหารเข้าเตาไมโครเวฟขนาดใหญ่ เมื่อเสร็จงาน เธอต้องเช็ดล้างทำความสะอาดครัวและอุปกรณ์ทำครัวต่าง ๆ
“ดาวใจเป็นเด็กเงียบ ๆ แต่ก็มีความตั้งใจและทำงานครับ” เชฟธนัย จิตมโนวรรณพูดถึงดาวใจ “แค่เดือนที่ผ่านมานี้ผมก็เห็นพัฒนาการของแกแล้วครับ ดาวใจทำอาหารคล่องขึ้น ถ้าอยากเป็นเชฟ อีกซักห้าปีก็เป็นได้ครับ”
รจนา พงษ์ไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับหน้าที่โรงแรม ก็บอกว่าดาวใจเป็นนักเรียนที่มีอนาคตไกล “ไม่นานนี้โรงแรมมีงานแต่งงานหลายงาน จึงมีโอกาสให้ดาวใจได้เรียนรู้วิธีจัดดอกไม้” รจนาบอก “ดิฉันสอนดาวใจให้รู้ว่าดอกไม้สีใดเข้ากับห้องและงานแบบไหน สอนการทำความสะอาดแจกันและเตรียมดอกไม้ ดาวใจเป็นเด็กขยันและเรียนรู้อะไรได้เร็วค่ะ ดิฉันสอนเธอแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เธอก็ทำเป็นแล้ว บางทีดาวใจก็อยู่คอยช่วยหลังงานเลิกด้วย”
ชีวิตในกรุง
เมื่อเลิกงาน ดาวใจจะกลับมาที่หอพักย่านรามคำแหงซึ่งจัดไว้ให้สำหรับเด็กๆ ที่เข้าโครงการ ดาวใจอยู่ห้องเดียวกับดวงและเมย์ เพื่อนสาวกลุ่มชาติพันธุ์ม้งอีกสองคนที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน ในห้องเล็กๆมีเพียงเตียงสองชั้นและตู้เสื้อผ้าเพียงตู้เดียว เด็กสาวไม่มีทรัพย์สินติดตัวมากนัก มีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด และนิยายเรื่องสั้น แม้ห้องจะเล็กแต่ก็สว่างและสะอาด มีลมเย็นพัดโยชมาจากสวนเขียวครึ้มด้านนอก
“อาทิตย์แรกหนูคิดว่าคงคิดผิดแล้วที่ตัดสินใจมาที่นี่ค่ะ” ดาวใจกล่าวถึงช่วงเดือนแรกของโครงการ “ครูฝึกให้หนูทำงานหนักมาก มีครั้งหนึ่งส้วมตัน หนูต้องล้วงมือลงไปเพื่อเอาของที่อุดส้วมอยู่ออกค่ะ แต่หลังจากนั้นหนูคิดว่า “หนูต้องสู้” แล้วทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นค่ะ”
ดาวใจทำงานที่โรงแรมสัปดาห์ละหกวัน เวลาว่างที่เหลือก็จะอยู่กับดวงและเมย์ “เราจะทำอะไรก็ทำด้วยกันค่ะ” ดาวใจเล่า “ไปชอปปิ้ง กินข้าวและเม้าท์กันค่ะ ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ซื้อข้าวกินที่ร้านข้างถนน แต่ตอนนี้ไปที่บิ๊กซีค่ะเพราะถูกกว่า หนูได้ค่าแรงวันละ 120 บาท แต่หนูพยายามใช้วันละ 50 บาท บางทีก็ 100 บาทค่ะ”
เมื่อดาวใจเหงา เธอจะโทรกลับไปหาแม่ที่บ้าน “หนูไม่อยากร้องไห้ เลยพยายามเก็บอะไรไว้คนเดียว” ดาวใจว่า “แม่บอกให้หนูดูแลตัวเองและอย่าลืมพกร่มเวลาออกไปข้างนอก แม่บอกว่าถ้าหนูทนไม่ไหวก็กลับบ้านได้ แต่หนูอยากอยู่ให้จบค่ะ”
ใจอยู่กับบ้าน
เมื่อดำเนินมาถึงช่วงกลางของโครงการ ดาวใจเดินทางกลับบ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัวของเธอที่ภูทับเบิกในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนแนวสันเขา ชาวบ้านที่นี่มีอาชีพหลักคือการปลูกกะหล่ำปลี ในท้องไร่มีผู้หญิงมากมายสวมหน้ากากยืนพ่นยาฆ่าแมลง ชาวบ้านแบกกระสอบใส่กะหล่ำปลีขึ้นบ่าเดินออกไปจากไร่ อากาศที่นี่เย็นและสดชื่น มีเสียงไก่ขันเจื้อยแจ้วและจิ้งหรีดร้องระงมตามสุมทุมพุ่มไม้
บ้านของดาวใจเป็นบ้านไม้ตั้งอยู่บนเนินดินที่ถมอัดจนแน่น ในบ้านพื้นดินแดงไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเท่าไหร่นัก มีเพียงแต่เตียงตั้งอยู่ที่มุมห้อง และมีครัวอยู่อีกส่วนด้านนอก ครอบครัวนี้มีข้าวของเครื่องใช้ไม่มากนักซึ่งล้วนแขวนอยู่บนผนังไม้ สิ่งเดียวที่บ่งบอกถึงความทันสมัยในบ้านนี้คือโทรทัศน์ที่ติดอยู่กับจานดาวใจเทียมด้านนอก “หนูเกิดที่ภูทับเบิกค่ะ” ดาวใจว่า “ตอนแรกหนูอยู่กับพ่อแม่และตายาย แต่พอโตขึ้น ก็ไปอยู่ที่โรงเรียนประจำในเมืองเพชรบูรณ์”
ชีวิตในภูเขาค่อนข้างยากลำบากแต่ดาวใจก็มีความสุขที่ได้อยู่กับครอบครัว “พอหนูกลับบ้าน หนูตื่นตอนตีห้าและช่วยแม่ทำกับข้าวและซักผ้า” ดาวใจกล่าว บางทีหนูก็ออกไปช่วยพ่อทำไร่ทั้งวัน ตอนเย็นหนูช่วยแม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วหนูก็ไปนอน หนูคิดถึงแม่มากที่สุดเลยค่ะ อยู่ที่บ้านหนูได้เห็นหน้าแม่ทุกเช้าตอนตื่น”
เช้าถัดมาดาวใจร่ำลาพ่อแม่และตายาย ระหว่างทางกลับเธอแวะที่วัดแห่งหนึ่งเพื่อทำบุญ “หนูขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้หนูปลอดภัยในกรุงเทพและช่วยให้หนูเรียนจบค่ะ” ดาวใจกล่าว
ในช่วงเวลาหลายปีมานี้ โครงการพัฒนาเยาชนในสายอาชีพได้ช่วยให้เยาวชนกว่า 1,500 คนเช่นดาวใจได้มีโอกาสเข้าฝึกงานและได้มีงานทำ ปัจจุบันนี้มีโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40 แห่งทั่วประเทศไทย ปัจจุบันเด็กและเยาวชนที่ได้เข้าร่วมโครงการจำนวนมากได้เป็นพนักงานประจำของโรงแรม “ไม่นานนี้ผมอยู่ที่โรงแรม กำลังเช็คอินให้เพื่อน” แอนดรู มอริสกล่าว “พอพนักงานรู้ว่าผมทำงานที่ยูนิเซฟ เขาบอกผมว่า ‘ทางโรงแรมมีเด็กที่เคยฝึกงานกับโครงการ และตอนนี้เป็นพนักงานระดับอาวุโสของโรงแรม’”
ติดตาม “A Chance for Change” หนังสั้น 5 ตอนจบ เกี่ยวกับชีวิตจริงของดาวใจและอุไรรัตน์ ศรีสาระ เยาวชนส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาเยาวนในสายอาชีพ ได้ที่ www.youtube.com/unicefthailand โดยจะเริ่มออกตอนแรกในวันที่ 21 มกราคม 2556 .