นักไอทีเตือนภัยสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต ระวังแฮกเกอร์โอนเงินออนไลน์
นักไอทีเตือนภัยใช้สมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตระวังแฮกเกอร์เจาะโอนเงินออนไลน์ แนะวิธีป้องกัน 5 ภัยมืดยุคไซเบอร์

วันที่ 26 ธ.ค. 55 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุม ‘ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเทคโนโลยีสารสนเทศกับมิติทางวัฒนธรรม’ ต่อสถาบันการศึกษาภายในประเทศ เพื่อสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจ และหาวิธีแก้ไขเกี่ยวกับภัยคุกคามออนไลน์แก่เยาวชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการถูกล่อลวงผ่านช่องทางออนไลน์ ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสารสนเทศของไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ใช่โทรศัพท์แบบในสมัยก่อน แต่แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนในปัจจุบันคือคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพครบครัน และเข้าถึงได้ง่ายกว่าคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ทำให้ภัยมืด 5 ตัวเข้าใกล้ตัวได้ง่าย ได้แก่ 1.มิจฉาชีพที่เรียกว่า ‘แฮกเกอร์’ ใช้เจาะข้อมูลส่วนตัวในรูปแบบม้าโทรจันที่ฝังตัวตามหน้าเว็บไซต์ยอดนิยม เพื่อหลอกเงินใช้จากเจ้าของ โดยเฉพาะลูกค้าธนาคารที่ใช้วิธีฝาก ถอน โอน จ่าย ผ่านระบบออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน ตลอดจนลูกค้าบัตรเครดิตต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเตือนให้ระวังการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสาธารณะ โดยเฉพาะฟรีไวไฟตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เพราะจะเป็นเป้าหมายในการถูกเจาะข้อมูลส่วนตัวได้ง่าย ทั้งนี้ยังแนะนำให้ผู้ใช้ระบบอินเทอร์เน็ตอัพสถานะของ Internet Browser ให้เป็นเวอร์ชั่น 9 เพื่อป้องกันอีกทางหนึ่ง
2.รัฐบาลหลายประเทศกำลังใช้เทคโนโลยีในการทำสงครามด้านการทหาร ซึ่งสหรัฐอเมริกาและจีนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก โดยพัฒนาโปรแกรมเจาะระบบม้าโทรจันดึงข้อมูลรัฐบาลฝ่ายตรงข้าม รวมถึงตั้งระบบดักฟังประชาชนของตนเองด้วย เพื่อความมั่นคงของชาติ แต่ต้องแลกด้วยความเป็นส่วนตัวของประชาชนในประเทศ 3.เตือนให้คนที่ใช้อีเมลแอดเดรส และรหัสผ่าน เหมือนกันหมดในทุกโปรแกรม ทั้งGmail, Hotmail, Instagram ตลอดจน Backup เพื่อหวังจะจดจำง่าย ล้วนเสี่ยงต่อการถูกเจาะข้อมูลได้
4.การทุจริตจากภายในองค์กรเป็นภัยมืดที่กำลังเพิ่มขึ้นทั่วโลก จากสภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้หลายบริษัทต้องใช้บริการ Outsourcing และ Cloud Service กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ Loyalty ของพนักงานในองค์กรลดลง ตลอดจนพนักงานขององค์กรที่เราใช้บริการ Outsource ส่วนใหญ่ ความรับผิดชอบไม่สูงเท่ากับพนักงานประจำขององค์กรเอง ทำให้คณะทำงานร่างมาตรฐาน ISO SC27 ได้เพิ่มรายละเอียดเกี่ยวกับ มาตรฐาน ISO 27002 ฉบับใหม่ให้มีการกล่าวถึง Supplier หรือ Outsourcer มากขึ้น ตลอดจนออกข้อกำหนดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน Cloud Service ในเรื่องของข้อกฎหมาย Service Level Agreement (SLA) โดยต้องบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรก่อนการใช้บริการ และ5.หากองค์กรและบุคคลทั่วไปไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ กฎหมาย กฎข้อบังคับต่าง ๆ ที่กำลังทะยอยออกมาอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นมากขึ้น ทำให้อาจถูกปรับ เสียชื่อเสียง หรือ เสียเปรียบในชั้นศาล ตลอดจนสูญเสียการได้เปรียบทางการค้า
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการป้องกันที่ดีที่สุด คือ การสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชนและองค์กรให้ทราบถึงผลกระทบต่อภัยเหล่านี้ ที่สำคัญพยายามอย่าจดบันทึกข้อมูลส่วนตัวสำคัญ เช่น รหัสบัตรเครดิต หมายเลขโทรศัพท์ บัญชีธนาคาร ไว้ในอุปกรณ์สมาร์ทโฟน เพราะหากสูญหายอาจเสี่ยงต่อการเจาะข้อมูลได้เช่นกัน
นายไพฑูรย์ ปานประชา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า คำเตือนให้คนไทยรู้เท่าทันมีมานานตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี ที่มีพระราชดำรัสตามปรากฏหลังธนบัตรไทย 500 บาท ใจความว่า “การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว” ซึ่งสิ่งที่พระองค์ทรงคิดกำลังเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย เมื่อตะวันตกพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมากมายออกมาสร้างกระแสให้คนไทยเชื่อว่าหากได้ครอบครองจะเป็นคนทันสมัย จนกลายเป็นนักบริโภคผู้ซื่อสัตย์ แต่กลับทำให้ความสัมพันธ์ในสังคมของคนปัจจุบันเปลี่ยนไป เพราะแต่ละคนจดจ้องอยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟนจนลืมความเป็นไปของคนรอบข้าง
ซึ่งการสร้างกระแสของชาติตะวันตก คนไทยต้องระวังอย่าให้หลงไปในวังวนลัทธิบริโภคนิยม แต่จงใช้กระแสดังกล่าวอย่างรู้เท่าทันภายใต้กรอบวัฒนธรรมไทย นั่นคือ ความเอื้ออาทร เช่น กรณีสถานีวิทยุจส. 100 ที่ใช้ไอทีที่ทันสมัยทำงานควบคู่กับความเอื้ออาทรของคนไทย ทำให้เกิดการช่วยเหลือซึ่งกันและกันผ่านหน้าปัดวิทยุ จึงถือว่าหากรู้เขา รู้เรา รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ การขับเคลื่อนทางวัฒนธรรมจะดำเนินได้ท่ามกลางความเจริญของไอทีโลก
“วัฒนธรรมไทยขณะนี้เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ เราจงชื่นชมวัฒนธรรมไทยของเรา เพราะเราเป็นคนไทย มิเช่นนั้นจะไม่มีภาษาให้พูด อาหารให้กิน ไม่มีชีวิตความเป็นอยู่แบบคนไทยที่อบอุ่น เราอยู่กับมัน ใกล้ตัวกับมันเกินไปจึงไม่รู้สึก แต่ยามใดที่เราขาดเราจะรู้สึก เหมือนอากาศที่หายใจทุกวันไม่มีราคา แต่วันใดที่รู้สึกว่าอากาศขาดแคลนจะรู้สึกถึงคุณค่าของอากาศ วัฒนธรรมก็เช่นเดียวกัน” นักวิชาการอิสระ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลรายงานการวิจัยของสถาบันบัณฑิตบริหาร ธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ‘โครงการศึกษาพลวัตการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของโลกที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรม-สังคมไทย’ ระบุว่า ความสัมพันธ์ผ่านอินเทอร์เน็ตช่วงชิงการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว เกิดความแตกแยก และช่องว่างระหว่างวัย ประกอบกับเกิดการบริโภคเกินตัว การละทิ้งถิ่นฐานสู่ชุมชนเมืองและหลงลืมอัตลักษณ์ของชุมชนวิถีชีวิต ขาดปฏิสัมพันธ์ อันนำไปสู่ความอ่อนแรงในจิตสาธารณะและการมีส่วนร่วมชุมชน อย่างไรก็ตามหากใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทันจะสามารถพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งและเพิ่มโอกาสการค้าสู่ตลาดสากลผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้.
