"โฟล์คนม"ชมพูใส...สีสันใหม่บนถนนสาย ม.อ.
ความคึกคักบนถนนเจริญประดิษฐ์ หรือ “ถนนสาย ม.อ.” ซึ่งก็คือถนนสายเศรษฐกิจของเมืองปัตตานี ที่พุ่งตรงเข้าสู่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) นั้น ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสกันได้ทุกเย็นย่ำไปจนถึงค่ำมืด
ร้านรวงริมถนนสายนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เกี่ยวกับอาหารการกิน ทั้งร้านน้ำชา กาแฟ ผลไม้ ไปจนถึงอาหารหนักทั้งพุทธ มุสลิม หรือแม้กระทั่งเบอร์เกอร์ เรียกว่าเปิดกันเต็มตลอดสองข้างทาง รถราติดขัดจนทำให้นึกถึงย่านสีลมกลางกรุงเทพฯกันเลยทีเดียว เสียแต่ว่าไม่มีรถไฟลอยฟ้าเท่านั้น
ถนนสายเศรษฐกิจสายนี้สวนทางกับสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่อย่างสิ้นเชิง เพราะนอกจากจะมีกำลังซื้อมากมายบรรยากาศน้องๆ ตลาดนัดแล้ว ยังมีร้านเปิดใหม่เป็นระยะให้ได้เลือกชิมเลือกช็อปกันอีกด้วย
ไม่นานมานี้มีรถโฟล์คตู้สีชมพู-ขาวแวะเวียนมาจอดโดดเด่นอยู่ทุกเย็นริมถนนสาย ม.อ. หลายคนสงสัยว่ามาจอดทำไม เมื่อเยี่ยมหน้าเข้าไปดูจึงรู้ว่ารถโฟล์คคันนี้ขายนม เพราะมีป้ายเขียนเอาไว้ว่า Love milk ร้านนมรถตู้ “รักการดื่มนมเท่ากับรักสุขภาพ”
“อยากให้คนปัตตานีรักสุขภาพ หันมาดื่มนมกันมากขึ้น” เป็นคำตอบของ สุนีย์ สะลีมิง เจ้าของร้าน เมื่อถามถึงเหตุผลในการเปิดร้านโฟล์คนมบนถนนสาย ม.อ.
สุนีย์เล่าว่าได้ไปทานนมกับขนมปังของ Love milk สาขาตะวันนา ที่กรุงเทพฯ แล้วติดใจในรสชาติทั้งนมกับขนมปังที่กรอบและนุ่มเข้ากัน เมื่อกลับปัตตานีจึงชักชวนน้องชายกับน้องสะใภ้ที่อยู่ภูเก็ตให้มาร่วมหุ้น จากนั้นได้ติดต่อแฟรนไชส์ของ Love milk และเดินทางขึ้นไปเรียนรู้สูตรเครื่องดื่มกับขนมปังพร้อมหอบสูตรมาทำต่อที่ปลายด้ามขวาน
ค่าแฟรนไชส์ของธุรกิจนี้ เธอเผยว่ารวมค่าขนส่งรถและอุปกรณ์ทุกอย่างเบ็ดเสร็จประมาณสามแสนห้า!
สองเดือนกว่าที่เปิดมา สุนีย์บอกว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า และคิดว่าตัดสินใจถูกต้องที่เลือกทำเลริมถนนสาย ม.อ. เพราะเป็นย่านที่มีผู้คนสัญจรไปมาหนาแน่นทุกวัน บวกกับจุดขายของ Love milk คือความแปลกใหม่ มีรถโฟล์คสีสันดึงดูดใจ ตอนนี้เธอเช่าหน้าร้านเพื่อจอดรถและวางโต๊ะ 5-6 ตัว
“ย่านนี้เป็นย่านธุรกิจ ไม่มีร้านว่างให้เช่าเลย ได้แต่เช่าหน้าร้าน เวลาฝนตกก็จะมีปัญหานิดหน่อย และบ้านเราฝนตกบ่อย แต่เท่าที่เปิดขายมาลูกค้าก็ตอบรับดี แม้จะยังไม่ค่อยแน่นอนนัก แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้น ไม่ว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไรก็ไม่กระทบกับยอดขาย เราก็เลยมีกำลังใจที่จะทำต่อไป”
เมนูเด่นๆ ของ Love milk คือ “นม” เป็นหลัก มีทั้งร้อน เย็น และปั่น ส่วนของขบเคี้ยวที่กินกับนมก็จะเป็นขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ สุนีย์บอกว่าใช้นมสดวันละประมาณ 6-10 ลิตร ต้มทุกวัน ส่วนขนมปังก็สั่งจากแฟรนไชส์ เนยกับส่วนผสมอื่นๆ เลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ แม้ราคาจะสูงกว่าร้านในย่านนี้แต่เธอบอกว่าคุ้มค่า
“ราคาของเราอาจสูงกว่าร้านอื่นเพราะเราคัดแต่ของมีคุณภาพ เมื่อลูกค้าทานจะรู้สึกได้แล้วกลับมาทานอีก สูตรผสมทั้งหมดเราทำตามสูตรของแฟรนไชส์ แล้วปรับตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน เน้นความสะอาด สดใหม่ทุกวัน อยากให้ทุกคนมาทาน ไม่จำกัดเฉพาะเด็กหรือวัยรุ่น แต่ผู้ใหญ่ก็ทานได้ เพราะการดื่มนมดีกับสุขภาพมากจริงๆ”
สุนีย์บอกด้วยว่ากำลังหาทำเลเพื่อขายเพิ่มในตอนเช้าด้วย จะได้เป็นการขยายฐานลูกค้า ซึ่งใน อ.เมืองปัตตานีขณะนี้มี "โฟล์คนม" เพียงสาขาเดียวคือของเธอ เพราะทางแฟรนไชส์จะไม่ให้เปิดในพื้นที่ซ้ำกัน ถ้าใครอยากชิมรสชาติของนมและขนมปังอร่อยๆ ที่เปิดขายบนรถโฟล์คสีชมพูสดใส ก็แวะเวียนไปชิมกันได้ที่เก่าเวลาเดิม...
นอกจากโฟล์คนมที่เปิดให้ “ลองของใหม่” กันแล้ว ถนนสาย ม.อ.ยังมีอาหารแปลกๆ มาให้เลือกทานกันเสมอ ตอนนี้มีมันฝรั่งเกลียวทอดและไอศกรีมเกล็ดหิมะที่กำลังมาแรง มีลูกค้าอุดหนุนกันไม่หยุด ทำให้พื้นที่ว่างทำเลดีมีมูลค่ายิ่งกว่าทอง ตึกแถวชั้นเดียวขนาดแค่ไม่กี่ตารางเมตรสนนราคาเกือบ 2 ล้านบาท พูดไปแทบไม่มีใครเชื่อว่าเป็นราคาที่ปัตตานี หนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
นี่แหละหนาเมืองไทย...อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ!
------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รถโฟล์คนมสีชมพูใสในบรรยากาศยามค่ำบนถนนสาย ม.อ.