ภรรยาครูมาโนชถอดใจเตรียมย้ายพ้นพื้นที่ ลูกสาวครวญ "ทำไมต้องยิงพ่อหนูด้วย"
ภาพความโหดร้ายที่ชายแดนใต้ที่ยังไม่มีรัฐบาลชุดไหนหยุดมันได้เสียที ทำให้เกิดความสูญเสีย พลัดพรากนับครั้งไม่ถ้วน ดังเช่นเหตุการณ์สังหาร ครูมาโนช ชฎารัตน์ ครูโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล กลางเมืองปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ภรรยาและลูกๆ ต้องเสียเสาหลักของครอบครัวไป
ชนารัตน์ ชฎารัตน์ ครูโรงเรียนอนุบาลปัตตานีวัย 35 ปี ภรรยาคู่ชีวิตของครูมาโนช ย้อนเล่าถึงเวลานาทีก่อนที่เหตุร้ายจะเกิดกับสามีและครอบครัวว่า ตอนเช้าก่อนที่แฟนจะออกจากบ้านไปสอนพิเศษ แฟนเอาเสื้อผ้ามาใส่ให้ลูกคนเล็ก และพอดีลูกคนเล็กร้องไห้ แฟนก็พูดกับลูกว่า “เดี๋ยวพ่อมาลูก พ่อไปซื้อข้าว”
“ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร กะว่าพอเขาทำงานเสร็จ (สอนพิเศษให้กับนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนปัตตานี) ประมาณ 11 โมงกว่าก็จะซื้อข้าวกลับมา และตอนไปก็ไม่ได้ร่ำลาหรือมีคำพูดที่เป็นลางบอกว่าจะไม่กลับมาอีกแล้ว” ชนารัตน์ บอก
ครูสาวโรงเรียนอนุบาลปัตตานีซึ่งเพิ่งสูญเสียสามีไป กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาเกิดกับครอบครัวตัวเอง เพราะแฟนไม่เคยมีเรื่องกับใคร ทั้งยังเป็นคนที่รักครอบครัวมาก
“หลังจากเขาจากไปคงอยู่อย่างคนไม่มีแขน เพราะว่าทุกอย่างในครอบครัวเขาเป็นคนดูแลทั้งหมด ที่ผ่านมาเขาเคยไปอบรมแค่ 15 วัน เรายังรู้สึกว่าอยู่ไม่ได้เลย แต่นี่เขาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป”
“หลังจากที่แฟนถูกยิง แม่บอกกับฉันเลยว่าให้ทำเรื่องขอย้ายออกจากพื้นที่ หรือหากย้ายไม่ได้ก็ให้ลาออกจากข้าราชการครูไปเลย เพราะตอนนี้ในพื้นที่สามจังหวัดไม่มีใครอีกแล้ว ถ้าอยู่ต่อแม่กลัวว่าจะโดนแบบแฟน เชื่อว่าสามีจากไปเพราะเหตุการณ์ความไม่สงบ แต่ก็ยังดีใจที่รัฐบาลไม่ทอดทิ้ง ได้ข่าวว่านายกฯอภิสิทธิ์จะเดินทางมาร่วมงานศพด้วย” ชนารัตน์ กล่าว
ด.ญ.ปะวีนุช ชฎารัตน์ วัย 10 ขวบ ลูกคนที่ 2 ของครูมาโนช เผยความรู้สึกว่า อยากให้คนร้ายที่กระทำต่อพ่อถูกกระทำเช่นเดียวกัน
“วันครูทุกปีหนูจะไหว้พ่อก่อนออกจากบ้านตลอด แต่ปีนี้ต้องไหว้ศพพ่อแทน ไม่รู้ว่าพ่อหนูทำผิดอะไร ทำไมเขาต้องมายิงพ่อหนูด้วย” ด.ญ.ปะวีนุช ตั้งคำถาม
ด้าน นายธนู นูนน้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล กล่าวว่า ครูมาโนชเดิมเป็นคนปะนาเระ (อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี) เป็นอาจารย์สอนอยู่ระดับมัธยมของโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล มีภรรยาเป็นคน อ.ระโนด จ.สงขลา เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลปัตตานี ทั้งสองมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนโตเป็นผู้ชาย เรียนอยู่ชั้น ม. 1 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ กำลังทำเรื่องย้ายเข้าโรงเรียนเดชะปัตตนยานุกูล คนที่สองเป็นผู้หญิง กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนอนุบาลปัตตานี และคนที่สามเป็นผู้ชาย กำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 ที่โรงเรียนเจริญศรี
“อาจารย์มาโนชเป็นคนดี เรียบร้อย อยู่ในกรอบ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มาโดยตลอด เป็นที่รักของครูทุกคน อยู่ที่โรงเรียนอาจารย์มาโนชให้ความช่วยเหลืองานของโรงเรียนทุกเรื่อง แม้เขาจะสอนคณิตศาสตร์แต่เขาจะเก่งด้านไอทีมาก จึงเป็นอาจารย์ที่ สพฐ.ปัตตานี 1 (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานีเขต 1) มักขอตัวไปเป็นวิทยากรบ่อยๆ ก่อนเกิดเหตุแค่ 2 วัน อาจารย์มาโนชก็ได้ไปร่วมงานกับ สพฐ.ปัตตานี แม้อาจารย์มาโนชจะถูก สพฐ.เรียกตัวบ่อยครั้ง แต่งานของโรงเรียนที่อาจารย์รับผิดชอบก็ไม่เคยกระทบ”
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนเสียใจ ตอนแรกที่ได้ทราบข่าวแทบไม่เชื่อ จึงรีบไปดูจุดเกิดเหตุ พอไปถึงและเห็นภาพแล้วรู้สึกเศร้าใจมาก เป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย” นายธนู กล่าว
นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานีเขต 1 กล่าวว่า อาจารย์มาโนชเป็นอาจารย์ที่ดี เป็นคนที่ทุกคนรัก และมักเป็นอาจารย์ที่ทางเขตขอตัวมาช่วยงานบ่อยครั้ง นอกจากนั้นอาจารย์มาโนชยังเป็นที่รักและเคารพของเด็กนักเรียนทุกคน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เพราะอาจารย์มาโนชไม่เคยมีเรื่องกับใคร
นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเหตุเศร้าสลดสำหรับข้าราชการครูเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกิดในช่วงใกล้ๆ วันครู แต่ครูใต้กลับต้องสูญเสียบุคลากรไปอีกคนหนึ่ง ตอนนี้ถือว่าเราสูญเสียบุคลากรไปแล้วถึง 138 ราย
“มันเป็นอะไรที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็เกิดจนได้ ทั้งที่มีการวางมาตรการอย่างรัดกุมแล้ว เมื่อเกิดเหตุอีกเราก็ต้องมาหารือกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ทั้งปรับแผนหรือหาทางเพิ่มเติมเพื่ออุดช่องโหว่ช่องว่างที่มีอยู่” นายบุญสม กล่าว
คนดีๆ ต้องจากไปอีกคนด้วยผลของความรุนแรง เชื่อว่าทุกคนคงได้แต่ภาวนาให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย...
-------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ภรรยาและลูกชายของครูมาโนช (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังนิ)