อาลัย "หมอธาดา ยิบอินซอย" ผู้วางระบบสาธารณสุขชายแดนใต้กลางไฟความรุนแรง
การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย หรือที่บรรดาลูกศิษย์และคนใกล้ชิดเรียกกันติดปากว่า “อาจารย์หมอธาดา” ไม่เพียงเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการแพทย์ไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสูญเสียนายแพทย์ผู้วางระบบสาธารณสุขที่สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ศ.นพ.ธาดา เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา สิริรวมอายุได้ 76 ปี ท่ามกลางความอาลัยรักของคนในครอบครัว ญาติมิตร และลูกศิษย์ลูกหาที่ผูกพันกับ ศ.นพ.ธาดา ในฐานะ “ครูแพทย์” คนสำคัญ
ทั้งนี้ พิธีพระราชทานเพลิงศพจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 ม.ค. ที่วัดคลองเปล (วัดน้ำผุด) ถนนกาญจนวนิชย์ ตรงข้ามสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่
รู้จัก “อาจารย์หมอธาดา”
ศ.นพ.ธาดา จบการศึกษาด้านการแพทย์จากนครคาร์ดิฟ แคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร ก่อนจะกลับมาเป็นอาจารย์แพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช และเป็นหมอรักษาโรคหัวใจ
ต่อมา ศ.นพ.ธาดา ได้ไปศึกษาต่อจนสำเร็จปริญญาเอกอีกถึง 2 สาขา คือด้านสรีรวิทยาและคณิตศาสตร์ จากนั้นทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่สหรัฐอเมริกา กระทั่งเป็นศาสตราจารย์ด้านอายุรศาสตร์และสรีรวิทยา เมื่อกลับมาเมืองไทยช่วงปลายปี พ.ศ.2523 อาจารย์หมอธาดาได้เลือกไปทำงานที่โรงเรียนแพทย์แห่งใหม่ คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และได้เป็นรองคณบดีฝ่ายวิจัยในปี พ.ศ.2524 ก่อนจะก้าวขึ้นเป็นคณบดีในเวลาต่อมา มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย
ภาพของอาจารย์หมอธาดาที่ทุกคนจำได้ก็คือ ความเป็นครูที่ชอบแสวงหาความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ และมีความสุขกับการถ่ายทอดความรู้เหล่านั้นให้กับลูกศิษย์ รวมทั้งคอยสร้างแรงบันดาลใจให้นำหลักการ ตลอดจนแนวคิดดีๆ ไปปฏิบัติ เพื่อพัฒนาระบบงานให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ นอกจากนั้น ทุกคนที่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับอาจารย์หมอธาดา ยังประทับใจในความเรียบง่าย เป็นกันเอง ไม่มีพิธีรีตอง และไม่เคยรบกวนใคร มีแต่ให้ความช่วยเหลือคนอื่นในทุกๆ ด้าน ท่านจึงเป็นที่รักของทุกคน
ตำแหน่งสุดท้ายของ ศ.นพ.ธาดา คือประธานคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ หรือ มยส. และประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายด้านสุขภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
“หมอธาดา”กับการวางระบบสาธารณสุขใต้
ศ.นพ.ธาดา เป็นบุคคลที่มีส่วนอย่างมากในการผลักดันการพัฒนาและวางระบบสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการด้านสาธารณสุขของชุมชนและประชาชนอันเนื่องมาจากปัญหาความไม่สงบ ความกังวลเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ และปัญหาความแตกต่างด้านวิถีวัฒนธรรม โดยท่านได้รับแต่งตั้งจาก นพ.มงคล ณ สงขลา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ให้เป็นประธานคณะกรรมการศูนย์สุขภาพชายแดนใต้
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา หนึ่งในคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อการเยียวยาและสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ (มยส.) ซึ่งมีโอกาสได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับ ศ.นพ.ธาดา กล่าวว่า อาจารย์หมอธาดามีส่วนอย่างมากกับการวางระบบงานของภาคสาธารณสุขในพื้นที่ โดยเน้นเรื่องหลักๆ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ความปลอดภัยในสถานบริการ คือโรงพยาบาลและสถานีอนามัย 2.การจัดการฐานข้อมูลเหตุการณ์ความไม่สงบ และ 3.การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรง
“ความปลอดภัยในสถานบริการทั้งโรงพยาบาลและสถานีอนามัยนั้น ท่านเน้นมากว่าจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัย ห่างไกลจากสถานการณ์ความไม่สงบ ไม่ใช่แค่ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างเดียว แต่หลักๆ คือต้องมีสัมพันธภาพกับชุมชนและการเป็นหมอที่ดี”
ส่วนการผลักดันให้เกิดการจัดการฐานข้อมูลเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น นพ.สุภัทร กล่าวว่า บทบาทของอาจารย์หมอธาดาทำให้เกิดฐานข้อมูลที่เป็นรูปธรรมจากภาคสาธารณสุข ไม่ว่าจะโดนยิง โดนแทง หรือบาดเจ็บจากระเบิด จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกโรงพยาบาลที่รักษาผู้บาดเจ็บจากอาการเหล่านี้ แล้วนำมาวิเคราะห์แยกเป็นพื้นที่ เพื่อประโยชน์ในการติดตามเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทุกราย
ที่สำคัญอาจารย์หมอธาดายังร่วมผลักดันให้มีการนำหลักการทางศาสนาอิสลามเข้าไปใช้ในโรงพยาบาล เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ ด้วยหวังให้พี่น้องมุสลิมเข้าสู่ระบบโรงพยาบาลมากขึ้น ทั้งเรื่องฮาลาล การอนุญาตให้ผู้นำครอบครัวหรือผู้นำศาสนากล่าวเสียงต้อนรับ (อะซาน) เด็กแรกเกิด การให้ญาติอ่านพระคัมภีร์ (อัลกุรอาน) ก่อนผู้ป่วยเสียชีวิต
“จริงอยู่ที่งานเหล่านี้มีการริเริ่มโดยคนในพื้นที่มาก่อนแล้ว แต่ท่านอาจารย์หมอธาดาก็มีส่วนอย่างมากในการให้ความสำคัญ จนเกิดการขยายครอบคลุมในมิติของมุสลิม โครงการพัฒนาระบบสาธารณสุขของอาจารย์หมอธาดาถือว่าประสบผลสำเร็จในพื้นที่อย่างมาก เพราะสามารถทำให้บุคลากรทางการแพทย์เผชิญกับสถานการณ์ความไม่สงบได้ โดยที่ระบบบริการสาธารณสุขยังยืนอยู่ได้อย่างค่อนข้างมั่นคง และให้บริการประชาชนได้ตามปกติ โดยไม่หวั่นไหวกับความรุนแรง”
แพทย์ผู้ไม่เคยทิ้งคนไข้
นพ.สุภัทร ยังกล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อ ศ.นพ.ธาดา ด้วยว่า เป็นอาจารย์อาวุโสที่มีความคิดความอ่านทางสังคม มีอุดมการณ์แรงกล้า ช่วยเหลือสังคมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่เคยทิ้งการรักษาคนไข้ ซึ่งนับว่าหายากมาก ถ้าในภาษาแพทย์ก็เรียกว่า “คลินิกเคลื่อนที่” เพราะเป็นแพทย์ที่ยังทำงานดูแลผู้ป่วยอยู่แม้ตัวเองจะเกษียณอายุราชการแล้วก็ตาม ท่านเป็นตัวอย่างของแพทย์ที่ดีอย่างแท้จริง
ขณะที่ ศุภวรรณ พึ่งรัศมี จากศูนย์ประสานงานวิชาการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศวชต. กล่าวว่า การสูญเสีย ศ.นพ.ธาดา นับเป็นความสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ครั้งสำคัญ เพราะท่านเป็นแรงบันดาลใจของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะแพทย์ แต่รวมถึงผู้ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านด้วย
“ที่ผ่านมาถ้าไม่มีท่านคอยผลักดันให้ความช่วยเหลือ ศูนย์ประสานงานวิชาการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศวชต.ที่คนในพื้นที่รู้จักกันดีก็คงไม่เกิดขึ้น ดิฉันรู้สึกดีใจที่ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสร่วมงานกับท่านอาจารย์หมอธาดา” ศุภวรรณ กล่าว
แม้ ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ชื่อของท่านจะจารึกอยู่ในหัวใจของผู้คนอีกตราบนานเท่านาน...
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต