ย้อนรอยคดีฆ่าสองสามีภรรยา 10 คู่ใน 4 เดือน สันติสุขรางเลือนที่ชายแดนใต้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์คนร้ายยิง นายประดิษฐ์ มณีพรหม อายุ 49 ปี และ นางจริยา มณีพรหม อายุ 47 ปี สองสามีภรรยาชาวบ้าน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาเขียงหมูในตลาดนัดริมถนน เป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนด้ามขวาน แต่ที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่านั้นก็คือ การก่อเหตุสังหารโหดคู่สามีภรรยาลักษณะนี้มีเหยื่อคมกระสุนมาแล้วถึง 10 คู่ในห้วงเวลาเพียงแค่ 4 เดือน
และเกือบทั้งหมดเกิดขึ้นใน จ.ปัตตานี ระหว่างเดือน ส.ค.ถึง ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า เหตุใดคนร้ายจึงต้องพุ่งเป้าสังหารคู่สามีภรรยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนสูงวัย นอกจากคำอธิบายที่ยังไม่ค่อยน่าพอใจนักว่า เพราะเป็น "เป้าหมายอ่อนแอ"
ทั้งๆ ที่หากลองย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละเหตุเรียงตามลำดับ จะพบปมที่เป็นข้อสังเกตหลายประการ...
25 ก.ย.2553 คนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิง นายดอเม็ง ยีวาแต อายุ 59 ปี และ นางกรือซง โต๊ะดา อายุ 53 ปี คู่สามีภรรยา เสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านคอลอกะปะ หมู่ 6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี โดยนายดอเม็งเป็นโต๊ะอิหม่าม อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.กะรุบี นั่นเอง
22 ก.ย.2553 คนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าซุ่มยิง นายเจะดอเลาะ เซะบิง อายุ 48 ปี และ นางคอลีเยาะ เจะอารี อายุ 44 ปี ภรรยาของนายเจะดอเลาะ อยู่บ้านเลขที่ 58/1 หมู่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บขณะขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยางพารา เหตุเกิดบริเวณปากทางเข้าสวนยาง หมู่ 2 ต.ลำใหม่
17 ก.ย.2553 คนร้ายลอบยิง นายพันธ์ ไชยศรี อายุ 46 ปี และ นางนงเยาว์ ไชยศรี อายุ 43 ปี คู่สามีภรรยาขณะเดินทางไปทำงานที่แพปลาในตัวเมืองปัตตานี ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 (ปัตตานี-หาดใหญ่) ท้องที่หมู่ 1 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
16 ก.ย. 2553 คนร้ายลอบยิง นายสถาพร ปี่แก้ว อายุ 38 ปี และนางศิรินารถ ปี่แก้ว อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน โดยทั้งสองคนเป็นลูกจ้างฝ่ายอาคารของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่ทั้งสองคนเดินทางออกจากบ้านใน อ.โคกโพธิ์ มุ่งหน้าไปทำงาน โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่หมู่ 2 ต.ตุยง อ.หนองจิก
7 ก.ย.2553 คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิง นายวิลาศ เพชรพรหม อายุ 54 ปี ครูโรงเรียนบ้านมะนังกาหยี และนางคมขำ เพชรพรหม อายุ 52 ปี ครูโรงเรียนบ้านทุ่งโต๊ะดัง ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์นำผักไปขายในตลาดตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านแกแม หมู่ 4 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ
29 ส.ค.2553 คนร้ายลอบยิง นายคุ้ม สาหมาน อายุ 50 ปี และ นางลิ้ม สาหมาน อายุ 50 ปี สองสามีภรรยาอายุเท่ากัน อยู่บ้านเลขที่ 76/3 หมู่ 2 อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิตขณะขับรถยนต์ยี่ห้อนิสสันสีน้ำตาลกลับจากตลาด อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณหมู่ 3 บ้านพ่อมิ่ง ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี
27 ส.ค.2553 คนร้ายประกบยิง นายวอง แก้วเทียบทอง อายุ 62 ปี และ นางจุ้ง แก้วเทียบทอง อายุ 51 ปี คู่สามีภรรยา ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่หมู่ 6 บ้านส้ม ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงเรียนบ้านตูปะ หมู่ 5 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์
18 ส.ค.2553 คนร้ายใช้อาวุธสงครามอาก้า เอ็ม 16 และปืนลูกซองลอบยิง นายสาคร มีทอง อายุ 42 ปี และนางสมพิศ มีทอง อายุ 41 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 1 บ้านบาแง ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่ขี่รถจักรยานยนต์ไปกรีดยาง จุดเกิดเหตุอยู่บนทางหลวงชนบทสายบ้านน้ำเย็น-บ้านสีคง หมู่ 2 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา
7 ส.ค.2553 คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายนิกร วงศ์ใหญ่ เจ้าของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ในท้องที่บ้านดอนรัก หมู่ 3 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตพร้อมกับ นางเบญจนีย์ ฝอยทอง อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นภรรยา
เหตุร้ายที่เกิดกับคู่สามีภรรยาส่วนใหญ่ คือจำนวน 8 คู่ เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปัตตานี หรือเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ จ.ปัตตานี และมี 4 คู่ที่มีภูมิลำเนาใน อ.โคกโพธิ์ ทั้งๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น "อำเภอสันติสุข" โดยเฉพาะกรณีของ นายวอง กับ นางจุ้ง แก้วเทียบทอง และ นายสาคร กับ นางสมพิศ มีทอง ซึ่งเป็นคนไทยพุทธ ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ ซึ่งมีชาวไทยพุทธจำนวนมากเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับไม่กล้าออกจากบ้านไปไหนมาไหนกันเลยทีเดียว ชาวบ้านบางส่วนยังได้รวมตัวกันเพื่อต่อต้านและเตรียมต่อสู้หากเผชิญกับคนร้ายซึ่งๆ หน้า
ที่น่าวิตกยิ่งกว่าก็คือ เหยื่อกระสุนไม่ได้มีเฉพาะชาวบ้านไทยพุทธ แต่ยังมีพี่น้องมุสลิมรวมอยู่ด้วย โดยเฉพาะคนระดับโต๊ะอิหม่าม
น.ส.รอมมือละห์ ยีวาแต วัย 29 ปี เผยความรู้สึกหลังต้องสูญเสียพ่อกับแม่ คือ นายดอเม็ง และนางกรือซง ซึ่งถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 25 ก.ย.ว่า ความเป็นอยู่หลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิตนั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก ญาติๆ ต้องมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะตัวเธอยังทำใจไม่ได้
"บ้านเราอยู่กันอย่างเรียบง่าย เป็นครอบครัวเล็กๆ หาเช้ากินค่ำ ตอนเช้าไปทำงาน พ่อแม่ออกไปกรีดยาง น้องชายเรียนหนังสือ ทุกเย็นเราจะมารวมตัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าที่บ้าน เพื่อกินข้าวร่วมกัน แต่ต้องนี้มันไม่ใช่แล้ว"
เธอเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนอันเลวร้ายที่ต้องสูญเสียพ่อกับแม่ไปพร้อมๆ กันว่า คืนนั้นกำลังทำงานอยู่หลังบ้าน ได้ยินเสียงดังเหมือนประทัดก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าพ่อกับแม่เป็นคนที่ชาวบ้านให้ความนับถือ และไม่มีศัตรูที่ไหนเลย
"หลังเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านวิ่งมาบอกว่าพ่อกับแม่ถูกยิงที่หน้าบ้าน ตอนแรกก็ไม่เชื่อ เลยวิ่งออกไปดู พอเห็นพ่อกับแม่นอนจมกองเลือดก็แทบล้มทั้งยืน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นความจริง จากนั้นเพื่อนบ้านได้ช่วยกันพาพ่อกับแม่ส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันถึงท่านก็เสียชีวิตระหว่างทาง ถึงวันนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าพ่อกับแม่ไปทำเรื่องอะไรไว้ถึงได้มีคนมาตามฆ่าทั้งสองคน บอกตรงๆ ว่าตอนนี้มีแต่ความสับสน หวาดระแวงไปหมด เราไม่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร โกรธอะไรนักหนาถึงได้มาทำขนาดนี้"
สำหรับ รอมมือละห์ เอง เธอเป็นครูพี่เลี้ยง สอนอยู่ที่โรงเรียนบาโงยีแบ ต.กะรุบี อ.กะพ้อ เคยรับค่าจ้างรายเดือนจากโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทของรัฐบาล แต่เมื่อสัญญาในส่วนของเธอสิ้นสุดลง ทางโรงเรียนได้ให้ความช่วยเหลือ โดยให้เธอสอนต่อไป แต่ลดเงินเดือนเหลือเพียงเดือนละ 3,000 บาท
"คงไม่ต้องถามว่าเงินเดือนที่ได้รับพอใช้หรือไม่ เพราะตอนที่รับ 4,500 ยังไม่พอเลย ตอนนี้อยากให้ทางจังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบหางานที่มั่นคงกว่านี้ให้ แม้จะเป็นโครงการจ้างงาน 4,500 บาทก็ตาม แต่อยากให้มีความมั่นคง ไม่ใช่จ้างปีต่อปี ยิ่งตอนนี้ครอบครัวของฉันไม่เหมือนเดิมแล้ว หากพ่อกับแม่ยังมีชีวิตอยู่คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ไม่มีท่านอยู่ ยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะอยู่อย่างไร น้องชายจะได้เรียนหนังสือต่อหรือเปล่า ก่อนตายพ่อหวังเอาไว้ว่าอยากให้น้องเรียนจบปริญญาตรี ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรให้ฝันของพ่อเป็นจริง" เธอบอกทั้งน้ำตา
นี่คือความจริงอันโหดร้ายอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ในยามที่ฝ่ายความมั่นคงยืนกรานว่าสถานการณ์ไฟใต้เริ่มดีขึ้น และบรรยากาศแห่งสันติสุขเริ่มปรากฏแล้ว!
------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พิธีรดน้ำศพครูสามีภรรยาที่ถูกลอบยิงเสียชีวิตเมื่อต้นเดือน ก.ย. ภาพลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้