ประมวลภาพอุทกภัยชายแดนใต้...รอยยิ้มและน้ำใจยังหาได้ในยามยาก
อุทกภัยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แม้น้ำจะลดระดับลงอย่างรวดเร็วจนสถานการณ์เกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในขณะนี้ แต่ความเสียหายจากพายุฝนและคลื่นลมแรงก็ทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้ไม่น้อย
สำนักงานจังหวัดปัตตานี รายงานว่า ทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วม โดยมีน้ำหลากและน้ำขังในพื้นที่ 97 ตำบล 405 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1 แสนคน 3 หมื่นกว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรมเสียหายกว่า 5 หมื่นไร่ สัตว์เลี้ยงล้มตายจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิต 1 ราย หายสาบสูญ 3 ราย
ความเสียหายของปัตตานี ส่วนมากเกิดจากพายุฝนและคลื่นลมแรง มีต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านและขวางถนนจำนวนมาก เสาไฟฟ้าเอนเกือบล้ม บ้านเรือนราษฎรหลังคาเปิด หลายหลังถึงขั้นพัง โดยเฉพาะหมู่บ้านติดชายทะเลในท้องที่ อ.เมือง (แหลมนก) อ.ยะหริ่ง (แหลมตาชี หรือแหลมโพธิ์) อ.สายบุรี และ อ.หนองจิก ถนนเลียบชายฝั่งทะเลที่ ต.แหลมโพธิ์ และ ต.ดาโต๊ะ ถูกน้ำทะเลพัดขาดเป็นช่วงๆ ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ อุปกรณ์จับปลาและปลาที่เลี้ยงในกระชังได้รับความเสียหาย เบื้องต้นความช่วยเหลือเข้าถึงเกือบครบทุกพื้นที่แล้ว
จ.ยะลา ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยวาตภัยและดินถล่ม สรุปพื้นที่ประสบภัยของ จ.ยะลา ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 7 อำเภอจาก 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.ธารโต อ.รามัน อ.กาบัง และ อ.กรงปินัง ราษฏรได้รับความเดือดร้อน 37,594 คน 10,762 ครัวเรือน อพยพราษฏรจำนวน 5,877 คน 3,873 ครัวเรือน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจำนวน 24 หลัง บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 597 หลัง ปศุสัตว์เสียหาย 2,157 ตัว สัตว์ปีก 6,273 ตัว บ่อปลา 639 บ่อ พื้นที่เกษตรกรรม 4,325 ไร่ ถนนเสียหาย 224 สาย สะพาน 35 แห่ง โรงเรียน 15 โรง วัดและมัสยิดจำนวน 10 แห่ง
ที่บ้านตาแป หมู่ 1 และ หมู่ 6 ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา ห่างจากถนนสายยะลา-บ้านเนียง ประมาณ 2 กิโลเมตร นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ฝ่ายความมั่นคง) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยพัฒนาสันติ 47-9 กรมทหารพรานที่ 47 เข้าไปมอบข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรคให้กับชาวบ้าน
ส่วนที่ชุมชนโรงเรียนเทศบาล 5 ชุมชนวัดยะลาธรรมาราม และชุมชนจารุพัฒนา ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา พ.อ.สุทัศน์ จารุมณี รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา พร้อมกำลังทหาร ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์จำนวน 300 ชุดมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีประชาชนจำนวนมากทั้งไทยพุทธและมุสลิมรอรับความช่วยเหลือ ขณะที่กำลังพลจากสำนักงานภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ร่วมกับอำเภอยะหา ได้เข้าแจกสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านหมู่ ต.ละแอ อ.ยะหา ด้วย
จ.นราธิวาส ยังคงมีน้ำท่วมขังครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างทั้ง 13 อำเภอของจังหวัด ทั้งบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหาย ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 60-150 เซ็นติเมตร โดยเฉพาะที่ชุมชนหัวสะพาน ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโก-ลกล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วม นอกจากนั้นยังมีน้ำป่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.สุคิริน ทะลักเข้าท่วมหลายอำเภอด้วย
สถานการณ์น้ำท่วมทำให้โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขต ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนรวมแล้วกว่า 100 โรง เนื่องจากสถานศึกษาถูกน้ำท่วม และบ้านเรือนของนักเรียนก็เจอกับปัญหาอุทกภัย การศึกษาของน้องๆ หนูๆ ในพื้นที่จึงต้องหยุดชะงักลงอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ต้องสะดุดบ่อยๆ อยู่แล้วจากสถานการณ์ความรุนแรง
ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้จะอยู่นอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดน แต่ "ทีมข่าวอิศรา" ก็ลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์และรายงานสถานการณ์ด้วยเช่นกัน ล่าสุดเมื่อเย็นวันพุธที่ 3 พ.ย. วิกฤติเริ่มคลี่คลาย หลายพื้นที่ระดับน้ำลดต่ำถึงขั้นแห้ง มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่ยังมีน้ำขัง แต่ก็สูงไม่เกินเข่า
สาเหตุสำคัญที่หาดใหญ่สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ก็เพราะโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้ขุดคลองระบายน้ำเอาไว้หลายสาย ปริมาณน้ำที่ว่ากันว่าสูงกว่าน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2543 หรือเมื่อ 10 ปีก่อนจึงเหือดแห้งไปอย่างรวดเร็ว ทั้งประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทุกหน่วยต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระอัจฉริยภาพเป็นล้นพ้น
อุทกภัยเที่ยวนี้...โดยเฉพาะในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน แม้จะเรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างทุกข์ให้กับชาวบ้านอย่างถ้วนหน้าโดยไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนา หรือยากดีมีจน แต่ในวิกฤติก็ยังมีรอยยิ้มของพี่น้องทั้งไทยพุทธ มุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีนซึ่งไม่ย่อท้อต่อภัยธรรมชาติ ทั้งยังทำให้เห็นน้ำใจของผู้คนร่วมชาติ การช่วยเหลือแบ่งปัน และไมตรีที่หยิบยื่นให้กัน โดยเฉพาะพี่น้องทหารหาญที่ระดมสรรพกำลังเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย
ในวิบัติย่อมมีโอกาสฉันใด สันติสุขและสันติภาพก็ย่อมเกิดขึ้นได้เพราะเพื่อนร่วมชาติได้แบ่งเบาความทุกข์เพื่อกันและกัน...
------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
- ภาพลีด ชาวบ้านจาก จ.ยะลา ยังยิ้มได้แม้ต้องหนีน้ำขึ้นไปอยู่บนหลังคาและชั้น 2 ของบ้าน
- 3 ภาพบน สภาพความเสียหายหลังพายุฝนและลมแรงที่ปัตตานี (ภาพโดย ปรัชญา โต๊ะอิแต)
- 3 ภาพกลาง การให้ความช่วยเหลือของทางจังหวัดและหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
- 3 ภาพล่าง วิกฤติคลี่คลายที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังนิ)