เตรียมชงกนป.ช่วยชาวสวนปาล์มหนุนกิโลละ 5 บาท 20 ธ.ค.นี้

เลขาสศก.เผยเตรียมเสนอกนป.แก้ราคาปาล์มตก-หนุนกิโลละ 5 บาท 20 ธ.ค.นี้  วอนเกษตรกรใจเย็น แนะกฟผ.ใช้น้ำมันปาล์มแทนน้ำมันเตาผลิตไฟฟ้า แก้สต็อกล้น

วันที่ 17 ธ.ค. 55 นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำตามข้อเรียกร้องของเกษตรกรว่า  จะนำข้อเสนอของชาวสวนปาล์มซึ่งต้องการให้รัฐบาลรับซื้อปาล์มน้ำมันในราคากิโลกรัมละ 5 บาท จากราคาที่ตกต่ำอยู่เพียงกิโลกรัมละ 2.8 บาท เสนอ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กนป. ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนองเป็นประธานในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ เพื่อหารือถึงมาตรการช่วยเหลือซึ่ง กนป.จะส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เพื่อให้พิจารณามาตรการจ่ายเงินอุดหนุนส่วนต่างราคาอีกครั้ง โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและขอให้เกษตรกรใจเย็นเพราะการให้ความช่วยเหลือต้องเป็นไปตามขั้นตอน

โดยเห็นว่าปริมาณปาล์มน้ำมันในสต็อกที่พอดีควรอยู่ที่ 2-2.1 แสนตัน แต่ขณะนี้มีปริมาณในสต็อกกว่า 3 แสนตัน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก อย่างไรก็ดีการบริหารจัดการสต็อก รัฐบาลมีเพียงตัวเลขเพราะผลผลิตจริงอยู่ที่เอกชน เช่น โรงกลั่น  การผลักดันเรื่องการส่งออกจึงเป็นไปได้ยากเพราะราคานอกประเทศสูงกว่าราคาในประเทศ ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องราคาในระยะยาวนั้น การนำปาล์มน้ำมันไปใช้ในภาคพลังงานเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาปาล์มน้ำมันล้นสต็อกได้  แต่การผลิตไบโอดีเซล B5 ขณะนี้เต็มปริมาณแล้ว จึงต้องมองต่อไปว่าจะสามารถนำไปผลิตไบโอดีเซล B7 หรือ B9 อีกได้หรือไม่

“สิ่งทีนำเสนอมาตลอดคือ การผลักดันให้ใช้น้ำมันปาล์มแทนน้ำมันเตาเพื่อการผลิตไฟฟ้า ราคาต้นทุนอาจจะแพงกว่าน้ำมันเตา แต่เงินต้นทุนนั้นจะหมุนเวียนอยู่ในประเทศ100 เปอร์เซ็นต์  ค่า ไฟอาจจะสูงขึ้นบ้างแต่ก็ไม่มากนัก เรื่องนี้เคยปรึกษาในที่ประชุม กปน.แล้ว ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เป็นห่วงเรื่องปริมาณปาล์มสดที่จะป้อนเพื่อการผลิตไฟฟ้า แต่เรื่องนี้มีทางแก้คือ ขอให้กฟผ.ใช้น้ำมันปาล์มแทนน้ำมันเตาแค่ในช่วงที่มีปาล์มออกสู่ตลาดมากเท่า นั้น ซึ่งหากเรื่องนี้เป็นจริงจะสามารถลดสต็อกปาล์มในเวลารวดเร็ว” นายอภิชาตกล่าว 

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าช่วงเดือนมกราคม 2556 ปริมาณผลผลิตปาล์มสดจะลดลงเหลือไม่ถึง 1 ล้านตัน โดยเวลานี้มีผลผลิตอยู่ที่ 1 ล้านตัน สามารถสกัดน้ำมันได้ร้อยละ 17  หรือ 1.4-1.3 แสนตัน เป็นน้ำมันเพื่อการบริโภค 8 หมื่นตัน และน้ำมันเพื่อผลิตไบโอดีเซล 5 หมื่นตัน

ที่มาภาพ ::: http://bit.ly/R2v5AE