ธ.ก.ส.ขยายสินเชื่อพัฒนาภาคเกษตร 1.2 ล้านล้านบาท
ธ.ก.ส. เตรียมขยายสินเชื่อพัฒนาภาคการเกษตรและชนบท 1.2 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี เน้นวิสาหกิจชุมชน-สหกรณ์การเกษตร-ผู้ประกอบการรายใหม่ มั่นใจ ธ.ก.ส.ยังมั่นคงและเติบโตได้
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายเพดานทุนเรือนหุ้นจดทะเบียนตามกฎหมายของธ.ก.ส. จากเดิม 50,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอนั้น ถือเป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายสินเชื่อตามแผนการดำเนินงานปกติ ในช่วงระยะเวลา 5 ปี ของ ธ.ก.ส. คือตั้งแต่ปี 2555 – 2559 โดยการขยายเพดานทุนเรือนหุ้นจดทะเบียนตามกฎหมายของ ธ.ก.ส.ดังกล่าวเป็นอำนาจอนุมัติของคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส.
ทั้งนี้ในปีบัญชี 2555 ( 1 เม.ย.55- 31 มี.ค.56) กระทรวงการคลังได้จัดหาเงินทุนเพื่อซื้อหุ้น (ชำระค่าหุ้น) เพิ่มทุนธ.ก.ส. ทั้งสิ้น 2,592 ล้านบาท โดยใช้เงินปันผลที่ ธ.ก.ส.จ่ายให้กระทรวงการคลังตามผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ( ปีบัญชี 54) จำนวน 1,842 ล้านบาท และใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่ ธ.ก.ส.ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ 56 จำนวน 750 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับทุนเรือนหุ้นที่ชำระไว้แล้ว 49,243 ล้านบาท ทำให้ทุนเรือนหุ้นที่ชำระแล้วของ ธ.ก.ส. เพิ่มขึ้นเป็น 51,835 ล้านบาท และเมื่อรวมกับกำไรสะสม เงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินกองทุนอื่น ๆ อีกจำนวน 35,413 ล้านบาท จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นของ ธ.ก.ส.ในปีบัญชี 55 เพิ่มขึ้นเป็น 87,248 ล้านบาท
นายลักษณ์ กล่าวต่อว่า การเพิ่มทุนครั้งนี้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่าอยู่ในระดับที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการขยายสินเชื่อของ ธ.ก.ส.ในปีบัญชี 2555 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 795,479 ล้านบาท เป็น 884,377ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88,898 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11.2 โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 7,500 ล้านบาท และทำให้ ธ.ก.ส. มีสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับร้อยละ 10 ซึ่งถือว่ามีความแข็งแกร่งทางการเงินอยู่ในระดับความมั่นคงตามเกณฑ์ของกระทรวงการคลังคือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 และสูงกว่าระดับความมั่นคงตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8.50
นอกจากนี้คณะรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังศึกษาแนวทางการจัดหาเงินทุนซื้อหุ้น(ชำระค่าหุ้น) เพื่อเพิ่มทุนให้แก่ ธ.ก.ส.ในส่วนที่เหลืออีก 8,165 ล้านบาท เพื่อให้ครบจำนวนทุนเรือนหุ้นจดทะเบียนตามกฎหมายใหม่ 60,000 ล้านบาท โดยทยอยดำเนินการตามความเหมาะสมและจำเป็น เพื่อรองรับการขยายสินเชื่อของ ธ.ก.ส.ในช่วงปี 55 -59 ซึ่งจะขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 884,377 ล้านบาท เป็น 1,268,745 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 100,000 ล้านบาท
นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า การขยายสินเชื่อของ ธ.ก.ส.จะเน้นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้เพียงพอกับความต้องการใช้สินเชื่อของเกษตรกรตามภาวะราคาปัจจัยการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น การสนับสนุนสินเชื่อตามห่วงโซ่มูลค่าสินค้าเกษตรผ่านกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร และการสนับสนุนสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาล เช่น กองทุนหมู่บ้าน สถาบันการเงินชุมชน ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานของกองทุนตั้งตัวได้
ทั้งนี้ในส่วนของการอำนวยสินเชื่อเพื่อการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรตามนโยบายของรัฐบาล จะมีการแยกบัญชีการดำเนินงานออกจากบัญชีปกติของ ธ.ก.ส.โดยกระทรวงการคลังจะช่วยในการจัดหาเงินทุนให้ และรัฐบาลเป็นผู้รับภาระในการชดเชยต้นเงิน ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทั้งหมดให้แก่ ธ.ก.ส. ดังนั้นจึงไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อการดำเนินงานของ ธ.ก.ส.
ที่มาภาพ : http://www.tnnthailand.com/upload/news/M_7281.jpg