ครม.ไฟเขียวเพิ่มอัตรากำลังพยาบาลในปี 2556 กว่า 7 พันอัตรา
เรื่อง แนวทางการจัดอัตรากำลังและการบริหารจัดการในภารกิจบริการด้านสุขภาพ
วันที่ 11 ธันวาคม คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ประธานคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เสนอ โดยเห็นชอบอัตรากำลังในปี 2556 ให้เพิ่มอัตราพยาบาล บุคลากรสาธารณสุข 5,499 อัตรา และบรรจุอัตราว่างและนักเรียนทุน 2,947 อัตรา (เป็นอัตราพยาบาล 7,547 อัตรา)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบให้ทุกหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ คปร. (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงกลาโหม, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรอิสระ) ส่งข้อมูลอัตรากำลังให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา) ในฐานะประธาน คปร. ภายใน 15 มกราคม 2556 เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดสรรงบประมาณ โดยมีเลขาธิการ ก.พ. เป็นเลขานุการ และกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ร่วมในฝ่ายเลขานุการ เพื่อดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเสนอให้นายกรัฐมนตรีต่อไป
ด้านนายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ได้มีมติอนุมัติแนวทางการจัดอัตรากำลังคนและการบริหารจัดการในภารกิจบริการด้านสุขภาพ โดยได้อนุมัติตำแหน่งข้าราชการให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อบรรจุลูกจ้างชั่วคราว 21 วิชาชีพ รวม 30,188 อัตรา ภายในระยะ 3 ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556-2558 ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ หรือ คปร. และกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกันดำเนินการ ซึ่งเป็นมาตรการเร่งด่วน โดยจะเฉลี่ยบรรจุปีละ 7,547 อัตรา ในปีงบประมาณ 2556 จะบรรจุทั้งหมด 8,446 อัตรา ซึ่งรวมทั้งนักเรียนทุน 3 สายวิชาชีพ คือแพทย์ ทันตแพทย์ และเภสัชกรที่จะจบการศึกษาในปี 2556 ด้วย
ในปีงบประมาณ 2557 -2558 คปร.ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการใน 3 เรื่องก่อนที่จะบรรจุให้อีกปีละ 7,547 อัตรา ได้แก่
1.ให้จัดทำฐานข้อมูลกำลังคนให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนเป็นปัจจุบัน เชื่อมโยงกับข้อมูลของ ก.พ. ภายในปีงบประมาณ 2556
2.ให้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับมาตรการเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว ทั้งการจัดระบบบริการสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ ระบบบริหารกำลังคนด้านสุขภาพ และระบบบริหารงบประมาณค่าใช้จ่ายกำลังคนด้านสุขภาพ บรรลุตัวชี้วัดคนไทยสุขภาพดี อายุยืน 80 ปี ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2556 ควบคู่กับการจ้างงานในรูปแบบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องเพิ่มอัตราข้าราชการอีก คปร. และครม. อาจพิจารณากำหนดเพิ่มให้ตามภาระงานและความขาดแคลนที่เกิดขึ้นตามเหตุผลความจำเป็นเป็นกรณีไป
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า ในการบรรจุลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุขจะพิจารณาตามภาระงานและความขาดแคลนกำลังคนของสถานบริการสุขภาพในเครือข่ายบริการ 12 เครือข่ายตามหลักเกณฑ์ 6 ข้อ ได้แก่
1.โรงพยาบาล(รพ.)ส่งเสริมสุขภาพตำบลและรพ.ชุมชน
2.รพ.ทั่วไปในถิ่นทุรกันดาร 3.รพ.ชุมชนเปิดใหม่
4.รพ.ชุมชนที่ขาดสภาพคล่อง
5.รพ.ทั่วไปที่มีภาระงานหนัก
และ6.หน่วยงานที่มีภารกิจพิเศษ เช่น ด้านพัฒนาการเด็กและการให้คำแนะนำปรึกษาด้านต่างๆ โดยยึดหลักคุณธรรมและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขที่ก.พ.กำหนด โดยมีเงื่อนไขให้ตรึงตำแหน่งไว้ในเครือข่ายบริการสุขภาพที่ได้รับการจัดสรรตำแหน่ง ซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดูแลเรื่องการบริหารกำลังคนของกระทรวงสาธารณสุขทั้งระบบ รวมถึงการผลิตบุคลากรแต่ละวิชาชีพของสถาบันต่างๆด้วย
ด้านนายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการพิจารณาบรรจุลูกจ้างชั่วคราวสายวิชาชีพเป็นข้าราชการ กระทรวงสาธารณสุขจะเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ ตัวแทนของ 21 วิชาชีพ สภาวิชาชีพ สมาคมวิชาชีพ สำนักการพยาบาล ตัวแทนหน่วยบริการ ชมรมแพทย์ชนบท ชมรมผู้อำนวยการรพ.ชุมชน รพ.ศูนย์และรพ.ทั่วไป ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด มาร่วมวางหลักเกณฑ์และแนวทางในรูปของคณะกรรมการให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อให้ทันการบรรจุตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึง 30 กันยายน 2556 สำหรับลูกจ้างชั่วคราวสายงานอื่นๆ ในรพ.ต่างๆ นั้น กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการเพื่อปรับเปลี่ยนสถานะเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุขในลำดับต่อไป เมื่อประกาศใช้ระเบียบว่าด้วยพนักงานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว