เรื่องของ “เจ้าตูม” ยังไม่จบ
สุเมธ ปานเพชร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
เรื่องราวจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงหลายปีมานี้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อยที่สามารถเรียกรอยยิ้มจากผู้คนได้ แต่หนึ่งในนั้นคือเรื่องของ “เจ้าตูม” หมาไทยใจกล้าที่เห่าไล่คนร้ายขณะใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มจุดตรวจของ ชรบ.จนตัวเองต้องเสียขาไปหนึ่งข้าง กระทั่งทางจังหวัดปัตตานีตัดสินใจจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลให้
เรียกว่าพูดถึงทีไร คนที่ได้ฟังเป็นต้องอมยิ้มกันทุกคน...
หลังจาก พ.ต.อ.วัลลพ จำนงค์อาสา รักษาราชการแทนผู้กำกับการ สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นผู้รับมอบเงินเยียวยาของ “เจ้าตูม” จำนวน 6,418 บาทจากทางจังหวัดไปเรียบร้อยแล้ว เนื่องจาก พ.ต.อ.วัลลพ เป็นผู้ที่นำเจ้าตูมไปรักษาจนหาย สมัยยังดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี แต่ดูเหมือนหลายคนจะยังสนอกสนใจเจ้าสุนัขสามขาพันธุ์ไทยแท้ตัวนี้
“ทีมข่าวอิศรา” เดินทางไปที่ร้ายก๋วยเตี๋ยว “เจ๊เอี่ยน” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านปากน้ำ ในเขตเทศบาลตำบลตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยได้ข้อมูลจาก พ.ต.อ.วัลลพ ว่า หลังจากรักษา “เจ้าตูม” จนหายดีแล้ว ก็ได้ขอร้องให้ชาวบ้านช่วยกันเลี้ยงไว้ และ “เจ๊เอี่ยน” กับชาวบ้านย่านนั้นก็คือผู้ที่อาสาดูแล “เจ้าตูม”
อย่างไรก็ดี ทั้ง “เจ๊เอี่ยน” และชาวบ้านปากน้ำเรียกขานสุนัขขนดำคอขาวเพศผู้ตัวนี้ว่า “เจ้าจิ๊ก” ไม่ได้เรียกชื่อ “เจ้าตูม” เหมือนกับที่ พ.ต.อ.วัลลพ เรียกแต่อย่างใด
“เจ้าจิ๊กมีขาอยู่เพียงสามขา เพราะขาหน้าด้านขวาของมันถูกตัดทิ้งเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงป้อม ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวชองฉันนี่เอง เมื่อค่ำๆ วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา” เจ๊เอี่ยน เริ่มเล่าถึงวีรกรรมเจ้าจิ๊ก
หากยังจำกันได้ วันที่ 7 ม.ค.2553 เป็นวันเดียวกับที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำพิธีเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 หรือถนนสายปัตตานี–ยะลาสายใหม่ ซึ่งในวันเดียวกันนั้น ที่ อ.สายบุรี มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
“ช่วงค่ำวันนั้นมีคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงถล่มป้อม ชรบ. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ ครูปราณี ปางวิภาค อายุ 51 ปี ครูโรงเรียนสายบุรีแจ้งประชาคาร ถูกกระสุนปืนของกลุ่มคนร้ายยิงเข้าที่ขาซ้าย” เจ๊เอี่ยน เล่าต่อ และว่า
“จริงๆ แล้วเจ้าจิ๊กเป็นหมาไม่มีเจ้าของ แต่อาศัยอยู่ในละแวกนี้กับหมาอีกหลายๆ ตัว ชาวบ้านก็สงสารจึงได้ให้เศษอาหารกินทุกวัน จนทำให้มันอาศัยอยู่บริเวณข้างร้านก๋วยเตี๋ยวใกล้กับป้อม ชรบ.ของชุมชนมาตลอด และมันจะช่วยเห่าเตือนเวลาคนแปลกหน้าผ่านมา เหมือนทำหน้าที่เป็นยามคอยเดือนชาวบ้านด้วย ทำให้ชาวบ้านชอบ และเอ็นดูมัน เพราะชุมชนแห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบมาแล้วหลายครั้ง ทั้งลอบยิงและวางระเบิด เมื่อมีหมาอยู่ก็อุ่นใจขึ้น กลางคืนไม่ต้องกลัวว่ากลุ่มคนร้ายจะเข้ามาก่อเหตุ เพราะเจ้าหมาพวกนี้มันจะเห่าไล่ให้ตลอด”
เจ๊เอี่ยน บอกอีกว่า ในวันเกิดเหตุ หลังจากคนร้ายกราดกระสุนใส่ป้อม ชรบ. จนครูปราณีได้รับบาดเจ็บแล้ว เจ้าจิ๊กก็พยายามเห่าไล่คนร้ายจนคนร้ายล่าถอยไป และตัวมันเองก็ได้รับบาดเจ็บด้วย
ขณะที่ นายสวัสดิ์ ปางวิภาค อายุ 59 ปี ชรบ.ชุมชนปากน้ำ สามีของครูปราณี เล่าเสริมว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ชรบ.ก็ออกมาเข้าเวรกันที่ป้อม และนั่งคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อย
“ตอนนั้นภรรยาของผมก็มาเดินออกกำลังกายอยู่ใกล้ๆ กับป้อม ชรบ. และได้คุยกับเพื่อนบ้านตามปกติ ส่วนเจ้าจิ๊กกับหมาตัวอื่นๆ ก็วนเวียนอยู่ใกล้ๆ ป้อม โดยป้อม ชรบ.ตั้งอยู่บริเวณสามแยกพอดี จังหวะนั้นเองมีรถมอเตอร์ไซค์ของคนร้ายมาจอดตรงสามแยก ห่างจากป้อมประมาณ 60 เมตร ตอนแรกพวกเราก็ไม่ได้มีใครสังเกต แต่เจ้าจิ๊กกับหมาตัวอื่นๆ ที่อยู่แถวๆ นั้นพากันเห่าขึ้น ทำให้เราเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว คนร้ายก็ใช้อาวุธสงครามยิงกราดเข้ามาในป้อม ทำให้กลุ่ม ชรบ.แตกกระจาย และพยายามยิงต่อสู้กลุ่มคนร้ายกระทั่งล่าถอยไป โดยเจ้าจิ๊กกับพวกก็ช่วยกันเห่าไล่คนร้ายด้วย”
นายสวัสดิ์ เล่าต่อว่า หลังจากเหตุการณ์สงบลง ก็พบว่าภรรยาได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงเข้าที่ขาซ้าย จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล โดยในตอนนั้นไม่มีใครทราบเลยว่าเจ้าจิ๊กได้รับบาดเจ็บด้วย ได้แต่คิดว่าเจ้าจิ๊กและสุนัขตัวอื่นๆ ตกใจเสียงปืนจนหนีหายไป
“ตอนเช้าอีกวันหนึ่งเจ้าจิ๊กจึงปรากฏตัว ทางเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเห็นมันนอนร้องอยู่ข้างๆ โต๊ะ ที่ขาด้านขวาบริเวณข้อเท้าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงได้พยายามช่วยเหลือใส่ยาให้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก จนกระทั่งผู้กำกับฯวัลลพ แวะมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเจ๊เอี่ยน เห็นเจ้าจิ๊กได้รับบาดเจ็บจึงสอบถามความเป็นมา และอาสาพามันไปรักษา โดยตอนแรกพาไปหาหมอทหาร แต่ก็ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีพอ สุดท้ายทางผู้กำกับฯวัลลพ จึงได้พาเจ้าจิ๊กไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสัตว์ในตัวเมืองปัตตานี โดยหมอต้องตัดขาข้างขวาทิ้ง เพราะกลัวว่าแผลจะติดเชื้อและลุกลามจนมันบาดเจ็ฐมากกว่าเดิม”
นายสวัสดิ์ เล่าอีกว่า หลังจากรักษาจนหาย ผู้กำกับฯวัลลพจึงพาเจ้าจิ๊กมาส่ง พวกเราชาวบ้านในละแวกนี้รู้สึกสงสารมัน และได้ช่วยดูแลให้อาหารมันตามปกติ เหมือนที่เคยทำ
“ช่วงแรกๆ ที่มันกลับมา มันค่อนข้างดุร้ายขึ้นกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะความหวาดระแวง และยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กับชาวบ้านในชุมชนมันไม่ทำร้ายใคร เพราะมันยังคงจำได้ เรียกชื่อมันมันก็มา”
“สำหรับเจ้าจิ๊กและหมาตัวอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกชุมชน เราถือว่ามันได้ช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากเหตุการณ์รุนแรงในวันนั้นมาได้ หากพวกมันไม่เห่า ชรบ.ทุกคนก็จะไม่เห็นคนร้ายก่อน อาจจะบาดเจ็บกันหลายคนกว่านี้ หรืออาจจะมีคนเสียชีวิตก็ได้ นอกจากนั้น หมาเหล่านี้ยังเคยช่วยเห่าไล่กลุ่มผู้ไม่หวังดีที่พยายามลอบนำระเบิดมาฝังเพื่อก่อเหตุด้วย” นายสวัสดิ์ กล่าว
จากการสอบถามชาวบ้านในชุมชนปากน้ำ ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเห็นด้วยที่ทางจังหวัดจ่ายเงินเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับ “เจ้าจิ๊ก” หรือ “เจ้าตูม” ที่ช่วยเหลือชาวบ้านจนกลายเป็นหมาสามขา แม้คนข้างนอกอาจจะมองว่าการจ่ายเงินเยียวยาให้สุนัขเป็นเรื่องตลก แต่สำหรับคนในชุมชนปากน้ำและเหล่า ชรบ.แล้ว...
หากไม่มี “เจ้าจิ๊ก” และพรรคพวกของมันในวันนั้น อาจไม่ได้มานั่งคุยหรือกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันอีกในวันนี้!
---------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : นายสวัสดิ์ ปางวิภาค ชรบ.บ้านปากน้ำ ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี กำลังเล่นกับ "เจ้าจิ๊ก" หรือ "เจ้าตูม" สุนัขแสนรู้ที่เห่าช่วยชีวิตเขาและเพื่อน ชรบ.
อ่านประกอบ :
- ปัตตานีทำฮือฮาจ่ายเงินเยียวยา "เจ้าตูม" หมาไทยใจกล้าช่วยครูถูกยิงจนตัวเองบาดเจ็บ