เปิดค่าตัว“สรยุทธ”เล่าข่าวครั้งแรกได้ 5,500 บาทปัจจุบันปีละ 500 ล้าน
เปิดข้อมูล อสมท.ค่าตัว“สรยุทธ”ก่อนคดีไร่ส้ม เล่าข่าวครั้งแรกได้ 5,500 บาท โปะเป็น 30,000 บาท ต่อมานาทีละ 200,000 บาท หันซบซ่อง 3 ล่าสุดปีเดียวทะลุ 500 ล้าน
นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดัง ได้รับค่าตอนแทนครั้งแรกปี 2546 ที่ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ครั้งละ 5,500 บาท (นายสรยุทธระบุว่า 5,000 บาท) และเพิ่มเป็นกว่า 500 ล้านบาทในปี 2554 เมื่อย้ายมาอยู่ช่อง 3
ทั้งนี้ ข้อมูลจากรายงานผลการสอบสวนของ อสมท.ชุด พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ระบุว่า วันที่ 2 มิถุนายน 2546 องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ตกลงว่าจ้างนายสรยุทธ เป็นพิธีกรในรายการ “ถึงลูกถึงคน” ออกอากาศทุกวันจันทร์ –วันศุกร์ เวลา 23.00 น.- 24.00 น. มีกำหนดเวลาว่าจ้าง 1 ตกลงค่าจ้างครั้งละ 5,500 บาท ชำระให้แก่พิธีกรเป็นรายเดือน (พิธีกรตกลงรับผิดชอบค่าภาษี ณ ที่จ่าย ตามที่กฎหมายกำหนด)
ต่อมา วันที่ 9 มกราคม 2547 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่ อ.ส.ม.ท.(ในขณะนั้น)ได้ว่าจ้างนายสรยุทธ เป็นพิธีกรในรายการเดิมโดยให้ยกเลิกสัญญาว่าจ้างดังกล่าวข้างต้น และตกลงทำสัญญาใหม่ ให้สัญญาเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2546
แต่คู่สัญญาสงวนสิทธิเรียกร้องที่มีก่อนวันทำหนังสือสัญญาและตกลงว่าจ้างนายสรยุทธเป็นพิธีกรในรายการเดิม ออกอากาศในเดือนธันวาคม 2546 ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 23.00 น.-24.00 น. และวันที่ 1 มกราคม 2547 – 31 ธันวาคม 2547 ออกอากาศทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 23.00 น.-00.30 น.ของวันรุ่งขึ้น โดย อ.ส.ม.ท. ตกลงจ่ายค่าตอบแทนในเดือนธันวาคม 2546 ครั้งละ 20,000 บาท ค่าตอบแทนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2547-31 ธันวาคม 2547 ครั้งละ 30,000 บาท การชำระเงินค่าตอบแทนให้ชำระเป็นรายเดือน
พิธีกรต้องจัดหาผู้ประสานงานรายการในการเตรียมงาน 3 คน เพื่อรวบรวมข่าวสาร จัดเตรียมข้อมูล นัดหมายผู้เข้าร่วมรายการ จัดเตรียมหัวข้อ หรือประเด็นต่างๆ ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง
โดย อ.ส.ม.ท. เหมาจ่ายค่าตอบแทนในการประสานงานเดือนละ 55,000 บาท ซึ่งวันที่ 17 สิงหาคม 2547 อ.ส.ม.ท. เปลี่ยนสภาพเป็น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สัญญาก็ยังคงมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2548
วันที่ 16 พฤษภาคม 2548 บมจ. อสมท ได้ว่าจ้าง บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด โดยนายสรยุทธ กรรมการผู้มีอำนาจ ให้เป็นผู้ดำเนินรายการ “ถึงลูกถึงคน”ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548-31 ธันวาคม 2548 ออกอากาศในวันและเวลาเดิม ตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้นายสรยุทธครั้งละ 30,000 บาท
ต่อมาวันที่ 19 ธันวาคม 2548 บมจ. อสมท ได้ว่าจ้างนายสรยุทธผ่านบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด เป็นผู้ดำเนินรายการ “ถึงลูกถึงคน” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549-31 ธันวาคม 2549 ออกอากาศในวันและเวลาเดิม
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2547 อ.ส.ม.ท.ได้ว่าจ้างผ่านบริษัท ไร่ส้ม จำกัด จำกัด เพื่อดำเนินรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2547-26 ธันวาคม 2547 ตกลงค่าโฆษณานาทีละ 200,000 บาท ต่อมาเมื่อ อ.ส.ม.ท. แปรรูปเป็น บมจ.อสมท ได้แก้ไขสัญญาเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง ในครั้งที่สอง อัตราค่าโฆษณานาทีละไม่ต่ำว่า 220,000 บาท
วันที่ 30 มกราคม 2549 บมจ.อสมท. กับ บริษัทไร่ส้ม จำกัด ทำสัญญาร่วมกันอีก 2 ฉบับ สัญญาอัตราค่าโฆษณานาทีละไม่ต่ำกว่า 240,000 บาท
ขณะที่นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. ว่า หลังลาออกจาก บริษัทเนชั่นฯ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ติดต่อให้มารับเป็นพิธีกรรายการใหม่ทางช่อง 9 อสมท รายการ “ถึงลูกถึงคน”ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 23.00 น.-00.30 น. ครั้งแรกวันที่ 3 มิถุนายน 2546 ได้รับค่าจ้างเป็นรายวันตอนละ 5,000 บาท (ขณะที่ข้อมูลจาก อสมท.ระบุว่าได้รับค่าตอบแทน 5,500 บาท)
ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2547 นายมิ่งขวัญ เสนอให้ทำเพิ่มอีกรายการหนึ่งในรูปแบบรายการ “คุยข่าว” คล้ายกับ “เรื่องเล่าเช้านี้”ทางช่อง 3 และเพื่อตอบแทนที่ได้ทำรายการ “ถึงลูกถึงคน”จนมีชื่อเสียงเป็นหน้าเป็นตาของช่อง 9 รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับสถานี บมจ. อสมทได้เสนอให้เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมผลิตรายการและแบ่งเวลาโฆษณาแบบ Time Sharing 50:50 พร้อมกันนั้นก็ได้ขึ้นค่าตอบแทนการเป็นพิธีกรรายการ “ถึงลูกถึงคน”เป็นตอนละ 30,000 บาท และนายสรุยทธได้จัดตั้งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพื่อทำรายการ “คุยคุ้ยข่าว”ในเวลาต่อมา
เมื่อบริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีปัญหาเรื่องเงินค่าโฆษณา 138 ล้าน นายสรยุทธย้ายไปอยู่ช่อง 3 ปรากฏว่ามีรายได้เพิ่มขึ้นทุกปี เฉพาะปี 2554 บริษัท ไร่ส้ม จำกัด มีรายได้ 455,383,699.19 บาท กำไรสุทธิ 159,431,585.71 บาท บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีรายได้ 69,729,311.44 บาท กำไรสุทธิ 24,707,537.12 บาท
รวม 2 บริษัท รายได้ 525,113,010.63 บาท กำไรสุทธิ 184,139,122.83 บาท
นี่คือพัฒนาการทางด้าน“ค่าตอบแทน”ของนายสรยุทธ