พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม...อดีตขุนพลแดนใต้ กับฉากสุดท้ายที่สี่แยกคอกวัว
กิ่งอ้อ เล่าฮง*
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
“วันนี้หนัก อย่าเข้ามานะ อยู่รอบนอกไว้ ระวังตัวเองให้ดีด้วย” เสียงปลายสายของ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม หรือ “พี่เปา” รองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รอง เสธ.พล.ร.2 รอ.) บอกสั้นๆ ให้รับรู้ถึงสถานการณ์การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงกับทหารซึ่งเปิดปฏิบัติการ "ขอคืนพื้นที่" บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อเวลาประมาณ 19.05 น. วันเสาร์ที่ 10 เมษายน
ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.00 น.เป็นต้นมา ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีทหารและพลเรือนซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปะทะถูกส่งเข้ารับการรักษาเป็นระยะ จากปฏิบัติการที่เริ่มมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำเปลสนามมาทำเป็นเตียงเสริมรองรับจำนวนผู้บาดเจ็บที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"มีข่าวไม่ดี...พี่เปาโดนระเบิด ไม่รู้อยู่โรงพยาบาลศิริราชหรือพระมงกุฎฯ ช่วยเช็คให้หน่อย แล้วโทร.บอกด้วย“ เป็นน้ำเสียงร้อนรนของ พ.ท.วิรัตน์ คำวิลัย ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 9 (ผบ.ร 9 พัน 3) ซึ่งประจำการอยู่ที่พุทธมณฑลสาย 2 แจ้งมายังปลายสายเมื่อเวลา 21.43 น. ท่ามกลางความโกลาหลของแพทย์และพยาบาลที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากหลายรายที่เข้ามาเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
23.15 น. รถกู้ชีพของศูนย์นเรนทรวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าตึกอย่างรวดเร็ว โดยมีทีมช่วยชีวิตเข้าไปรอรับพร้อมเตียงเข็น บนเตียงคือร่างชายคนหนึ่งมีบุรุษพยาบาลร่างใหญ่ปั๊มหัวใจอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียงตะโกนขอทางและให้เปิดประตูลิฟท์ เขาเป็นชายรูปร่างสันทัด ตัดผมสั้นเกรียน บริเวณใบหน้า จมูก ปาก และศีรษะมีรอยเลือดเกรอะกรัง เครื่องแบบสนามถูกถอดออก เหลือเพียงกางเกงในสีขาว ท่อนขาซ้ายและขวาถูกพันด้วยผ้าสีขาวในลักษณะเหมือนผ่านการปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาแล้ว
จากใบหน้าที่เห็นทำให้รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของร่างที่เพิ่งถูกเข็นเข้าลิฟท์ขึ้นไปยังชั้น 2 คือ พ.อ.ร่มเกล้า หรือ "พี่เปา" ของน้องๆ นักข่าวหลายคนที่มีความคุ้นเคยกันมานานตั้งแต่ยังเป็นนายทหารยศพันตรีอยู่ในสังกัดกองกำลังบูรพาที่ จ.สระแก้ว ผู้ซึ่งทำงานได้ทั้งบู๊และบุ๋น ในสมัยที่แก๊งโจรกรรมรถยนต์กำลังฮึกเหิมด้านชายแดนกัมพูชารอยต่อเขต จ.สระแก้ว ปราจีนบุรี หรือการถมดินของประเทศเพื่อนบ้านรุกพื้นที่เข้ามายังฝั่งไทย หรือแม้แต่การต่อต้านการเปิดบ่อนตามแนวชายแดยไทย-กัมพูชา "พี่เปา" ก็พานักข่าวเข้าไปลุยมานับครั้งไม่ถ้วน
“ตอนนี้พี่กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ที่นิด้า ยากมากเลย”
“สถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรต่อไปเนี่ย”
“ตอนนี้พี่มาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมินะ มีอะไรก็โทร.มา”
“มีความเคลื่อนไหวอะไรแจ้งให้พี่ทราบด้วย แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน”
เหตุการณ์ชุมนุมเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว พ.ท.ร่มเกล้า (ยศในขณะนั้น) เพิ่งเดินทางกลับมาจากภาคใต้ หลังจากลงไปรับตำแหน่งผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 35 ดูแลพื้นที่ อ.แว้ง และ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เป็นเวลากว่า 1 ปี
ผลการปฏิบัติงานในครั้งนั้นเจ้าตัวเคยบอกเล่าด้วยความภูมิใจว่า ตั้งแต่เข้าไปอยู่ 2 อำเภอนี้ ไม่เคยมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นในพื้นที่เลย อีกทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข เนื่องจากทหารทุกนายใช้วิธีเดินเข้าหาประชาชนทุกคน ทุกตำบล ทุกหมู่บ้าน จนทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน ทำให้สัมพันธภาพระหว่างเจ้าหน้าที่และชาวบ้านดีขึ้นเป็นลำดับ
กับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงช่วงเมษาฯเลือดปีที่แล้ว "พี่เปา" ก็มีเรื่องเล่าเช่นกัน
"สลายม็อบตรงสามเหลี่ยมดินแดง ทหารพี่เองไม่มีเจ็บ ไม่มีตาย การทำงานมันต้องเด็ดขาด เวลารบกันพี่ไม่มีหรอกอยู่ข้างหลัง แล้วให้ลูกน้องออกหน้า" เป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจผ่านสายโทรศัพท์หลังจบสิ้นภารกิจในครั้งนั้น
เดือนเมษายนปีนี้ พ.อ.ร่มเกล้า กลับมากรุงเทพฯอีกครั้ง
“ปิดไทยคมวันแรก (สถานีดาวเทียมไทยคม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี) พี่นำกำลังไปเอง เสร็จแล้วก็ถอนกลับ คนเสื้อแดงเลยเข้าไปยึดได้อีก” เป็นคำตอบเมื่อถูกถามว่า เกิดอะไรขึ้นที่ไทยคม
"พี่นำกำลังเดินทางสมทบไปไม่ทัน เลยเกิดเหตุการณ์ (บุกยึดสถานีดาวเทียม) ซ้ำอีก ไม่เป็นไร ขอให้ประชาชนอดทนอีกนิด เดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้น" คือคำพูดเปรยๆ เมื่อถูกถามถึงการทำงานที่ไม่เข้าตาของเจ้าหน้าที่ เพราะถูกกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ายึดสถานีดาวเทียมไทยคมได้อีกรอบ
แต่ภารกิจของทหารยังไม่จบ และ พ.อ.ร่มเกล้า ก็คุมกำลังออกปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัว...
นายทหารรุ่นน้องซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ถ่ายทอดให้ฟังว่า ขณะที่กำลังทหารผลักดันผู้ชุมนุมเข้าไปยังบริเวณสะพานผ่านฟ้า และเข้าพื้นที่สี่แยกคอกวัว ขณะนั้น พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) พ.อ.ร่มเกล้า และ พ.ท.เกรียงศักดิ์ นันทโพธิเดช ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 12 (ร.12 พัน 2) และนายทหารอีกจำนวนหนึ่ง กำลังหารือเรื่องการถอนกำลังกลับ แล้วเสียงระเบิดก็ดังขึ้นตูมสนั่น
"คนอื่นโดนแค่สะเก็ด แต่พี่เปาโดนไปเต็มๆ แล้วก็นิ่งไปเลย นาทีนั้นทุกคนคิดว่าแกเสียแล้ว ก็พยายามช่วยกันปั๊มหัวใจ ให้รถพยาบาลมาส่ง แต่ก็ติดม็อบแดง กว่าจะผ่านไปได้ พี่ไก่ (พ.ท.เกรียงศักดิ์) ก็ถูกยิงที่หัวอาการยังโคม่า"
24.00 น.หลังจากแพทย์และพยาบาลเร่งช่วยกันปั๊มหัวใจ สัญญาณชีพของ พ.อ.ร่มเกล้า เริ่มกลับมาอีกครั้ง แพทย์จึงตัดสินใจนำตัวเข้าห้องผ่าตัดด่วน แต่เนื่องจากแผลที่ถูกระเบิดบริเวณศีรษะค่อนข้างลึกและเสียเลือดมาก เวลา 03.00 น.ของวันที่ 11 เม.ย. กองทัพบกก็ต้องสูญเสียนายทหารผู้มากความสามารถไปอีก 1 คน
“วันนี้หนัก อย่าเข้ามานะ อยู่รอบนอกไว้ ระวังตัวเองให้ดีด้วย” คำพูดของ พ.อ.ร่มเกล้า เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้ายังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท...
เป็นคำพูดสุดท้ายที่แม้ในสถานการณ์วิกฤติก็ยังเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง!
---------------------------------------------------------------------
*หมายเหตุ : กิ่งอ้อ เล่าฮง เป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์