เรื่องวุ่นๆ ใน มศว เมื่อ “2 อธิการบดี” ถูก อ.มหาลัยร้องเอาผิดทางวินัย
เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ซึ่งมีมือกฎหมาย นักปกครอง อดีตข้าราชการประจำ ชั้นเซียนร่วมคณะ อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธ์ นายประสพสุข บุญเดช นายอารีย์ วงศ์อารยะ นายปรีชา วัชราภัย ฯลฯ ได้พิจารณาข้อหารือจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กรณีที่อาจารย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวหาอดีตอธิการบดีและอธิการบดีคนปัจจุบันของ มศว ได้แก่ ศ.วิรุณ ตั้งเจริญ และ ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ กระทำผิดวินัยข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
เรื่องวุ่นๆ ในรั้ว มศว เรื่องนี้ ปรากฏอยู่ในความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามเรื่องเสร็จที่ 1449/2555
โดยข้อเท็จจริงเบื้องต้น นายสุรพล จรรยากูล ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตำแหน่งอาจารย์ ระดับ 7สังกัดภาควิชาสังคมศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ ถูก ศ.วิรุณ อธิการบดี (ในขณะนั้น) โดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย สั่งให้ออกจากราชการ เพื่อรับบำเหน็จบำนาญทดแทนตามมาตรา 57 (9) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 ตามคำสั่ง มศว ที่ 2383/2553 ลงวันที่ 6 ก.ย.2553
เมื่อนายสุรพลรับทราบคำสั่ง ก็ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.)
ซึ่งคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (อ.ก.พ.อ.) เกี่ยวกับอุทธรณ์ ร้องทุกข์ และจรรยาบรรณ ทำหน้าที่แทน ก.พ.อ.พิจารณาเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2554 แล้วเห็นว่า กระบวนการสอบสวนนายสุรพลไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากมีการนำข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีการสอบสวนมาเป็นส่วนหนึ่งในการสั่งให้นายสุรพลออกจากราชการ จึงมีมติให้ มศว เพิกถอนคำสั่งที่ 2383/2553 และสั่งให้นายสุรพลกลับเข้ารับราชการเพื่อดำเนินการสอบสวนใหม่
โดย สกอ.ได้แจ้งมติของ อ.ก.พ.อ.ดังกล่าวให้ มศว ทราบ
แต่ ศ.วิรุณ อธิการบดี (ในขณะนั้น) ได้มีหนังสือตอบกลับ โดยอ้างว่าการสอบสวนวินัยสมบูรณ์แล้ว ส่วนข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีการสอบสวน แต่กลับปรากฏในคำสั่งนั้น เป็นเพียงการหารือในสภามหาวิทยาลัย มิได้ประสงค์จะให้มีการสอบสวนในข้อกล่าวหาเหล่านั้นด้วย จึงขอให้ ก.พ.อ.พิจารณาให้ไปตามมติของ มศว ด้วย
แต่ในระหว่างการพิจารณาของ ก.พ.อ. ปรากฏว่า ศ.วิรุณได้พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2554 โดยมีการสรรหาและโปรดเกล้าฯให้ ผศ.นพ.เฉลิมชัย ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.2554 ซึ่งระหว่างนี้ มศว ก็ยังไม่ดำเนินการตามมติของ อ.ก.พ.อ.แต่อย่างใด
กระทั่ง ก.พ.อ.มีมติเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2555 ยืนตามมติของ อ.ก.พ.อ. พร้อมกับแจ้งมติให้ มศว ทราบในวันที่ 4 เม.ย.2555
ผศ.นพ.เฉลิมชัย จึงมีคำสั่งที่ 1250/2555 และคำสั่งที่ 1251/2555 ลงวันที่ 4 พ.ค.2555 เพิกถอนคำสั่งให้นายสุรพลออกจากราชการ และสั่งให้นายสุรพลกลับเข้ารับราชการ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะเมื่อนายสุรพล ได้รับทราบมติของ อ.ก.พ.อ.ซึ่งทำหน้าที่แทน ก.พ.อ.เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2554 ก็ได้กล่าวหาว่า ศ.วิรุณและ ผศ.นพ.เฉลิมชัย กระทำผิดวินัยข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา กรณีไม่ดำเนินการแก้ไขคำสั่งลงโทษให้เป็นไปตามมติของ อ.ก.พ.อ. ดังกล่าว
สกอ.จึงหารือมายังคณะกรรมการกฤษฎีกา ใน 2 ประเด็น ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) มีความเห็น ดังนี้
หนึ่ง การที่ ศ.วิรุณถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางวินัย เห็นว่า เมื่อ ศ.วิรุณเกษียณอายุราชการไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2549 และพ้นจากตำแหน่งอธิการบดี มศว ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.2554 จึงไม่สามารถนำบทบัญญัติตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 ที่กำหนดให้การดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาที่พ้นจากราชการ ต้องกระทำภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันพ้นจากราชการ (เพราะ ศ.วิรุณเกษียณอายุราชการไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2549)
และแม้จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นอธิการบดี มศว จนถึงปี 2554 แต่ ศ.วิรุณก็มีสถานะเป็นเพียง “พนักงานมหาวิทยาลัย”
ขณะที่การเทียบเคียงนำข้อบังคับของราชการ โดยเฉพาะข้อ 3 แห่งประกาศ ก.พ.อ.เรื่องมาตรการดำเนินการทางวินัย มาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ “พนักงานมหาวิทยาลัย” แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ข้อบังคับดังกล่าวก็ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 จึงไม่อาจแปลความให้ต่างจากมาตรา 53 ได้
“ดังนั้น เมื่อ ศ.วิรุณได้พ้นจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2554 จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยกับ ศ.วิรุณ ได้ เพราะเกินระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่พ้นจากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยแล้ว”
สอง การที่ ผศ.นพ.เฉลิมชัย ปล่อยเวลาให้เนิ่นนานจนถึงวันที่ 4 พ.ค.2554 ถึงดำเนินการเพิกถอนคำสั่งให้นายสรุพลออกจากราชการ ทั้งๆ ที่ อ.ก.พ.อ.มีมติตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.2554 จะเข้าข่ายเป็นความผิดทางวินัยจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 หรือไม่
คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) พิจารณาแล้วเห็นว่า ในกรณีที่อธิการบดีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางวินัย ให้เลขาธิการ สกอ.ที่ถือเป็นผู้บังคับบัญชาตามกฎหมายพิจารณาว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้พิจารณา ส่วนจะมีความผิดทางวินัยหรือไม่ คณะกรรมการกฤษฎีกาไม่อยู่ในฐานะที่จะพิจารณาให้ความเห็นได้
