โพลชี้ ปชช.กว่าร้อยละ 80 ค้านนโยบาย “เด็กฝาก” ของก.ศึกษาฯ แนะเด็กควรใช้ความสามารถตัวเองสอบเข้า
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ค่านิยมไทย กับ นโยบายเด็กฝาก” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. 2555 จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง กระจายทุกภูมิภาค ทุกระดับการศึกษา และกลุ่มอาชีพ กรณีกระทรวงศึกษาการมีนโยบายรับเด็กฝากเพื่อเข้าสถานศึกษา จากการสำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.48 ไม่เห็นด้วยกับนโยบายเด็กฝาก เพราะเด็กทุกคนต้องใช้ความสามารถสอบเข้า ต้องมีความเท่าเทียมกัน อีกทั้งนโยบายดังกล่าว จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กปกติและเด็กฝาก ในขณะที่ประชาชน ร้อยละ 13.60 เห็นด้วย เพราะเป็นทางเลือกหนึ่งที่บุตรหลานจะได้เรียนในสถานศึกษาที่ดี สะดวกและใกล้บ้าน
เมื่อถามว่าค่านิยมของสังคมไทยยึดติดกับชื่อเสียงของสถานศึกษามากกว่าความสามารถของบุคคลหรือไม่ พบว่า ประชาชนร้อยละ 77.44 ระบุว่า ใช่ เพราะในปัจจุบันจะเน้นชื่อเสียงของสถาบันมากกว่าคุณภาพการเรียนการสอน รวมทั้งนักเรียนไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการเข้าศึกษา แต่ประชาชน ร้อยละ 16.88 ระบุว่า ไม่ใช่ เพราะ เด็กในปัจจุบันมีความรู้ความสามารถกันมากขึ้น และยังมีการเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ ประชาชนชนร้อยละ 78.64 เห็นด้วย ว่าการสร้างค่านิยม “เด็กฝาก” ในสถานศึกษาจะเป็นการสร้างค่านิยมเด็กฝากในที่ทำงานในอนาคต เพราะเด็กเห็นผู้ใหญ่เป็นแบบอย่าง และในระบบงานต้องใช้ระบบอุปถัมภ์ การใช้เส้นสายจึงจะได้เข้าที่ทำงาน แต่ประชาชนร้อยละ 13.44 ไม่เห็นด้วย เพราะอยู่ที่ตัวเด็กมากกว่า อีกทั้งเด็กในปัจจุบันมีความสามารถจริง ๆ และเมื่อโตขึ้น เด็กเหล่านั้นจะมีความคิด และมีความมุมานะด้วยตนเอง
ท้ายสุดประชาชน ร้อยละ 46.41 ระบุว่า ทางออกของปัญหาเด็กฝาก หรือการจ่ายแปะเจี๊ยะ ควรยกเลิก เพราะทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ไม่ควรมีระบบเส้นสาย และควรใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองสอบเข้า หรือมีระบบโค้วต้า ความสามารถพิเศษ เช่น ด้านกีฬา และร้อยละ 19.14 ระบุว่า ควรแก้ที่ตัวบุคคล ทั้งผู้บริหาร ผู้ใหญ่ ครู และผู้ปกครอง รวมทั้งอยู่ที่จิตสำนึกของทุกคน
