ไขสัมพันธ์“ไอ้ปาล์ม-เสี่ยเปี๋ยง-วัฒนา-อริสมันต์” จากบ้านเอื้ออาทร-ปมตั้งบริษัทผีซื้อข้าว?

ไขสัมพันธ์“ไอ้ปาล์ม-เสี่ยเปี๋ยง-วัฒนา-อริสมันต์”จากคดีบ้านเอื้ออาทร“ยุคแม้ว”สู่ปมตั้งบริษัทผีในจีนซื้อข้าวรัฐส่งต่อสยามอินดิก้า?   

       ชื่อของ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และ “เสี่ยเปี๋ยง” นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร กลับมาอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง

       เมื่อถูกฝ่ายค้านตรวจสอบว่า “ผู้มีอำนาจ”  บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ คือ  นายรัฐนิธ โสติกุล         

       ขณะที่ผู้รับมอบอำนาจจาก “รัฐนิธ โสติกุล” ให้ดำเนินการแทน คือ  นายนิมล รักดี ชาว อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร      

      ส่วนแหล่งที่มาของเงิน ที่นำมาใช้ในการซื้อข้าว ก็มาจากในประเทศไทย โดยปรากฏชื่อ นายสมคิด เรือนสุภา เป็นผู้ดำเนินการออกแคชเชียร์เช็ค      

      เบื้องต้นในการตรวจสอบข้อมูลฝ่ายค้าน พบว่า   “รัฐนิธ  โสติกุล”  ชื่อเล่นว่า “ปาล์ม” (นายแพทย์ วรงค์ เรียก ไอ้ปาล์ม) อายุ 32 ปี เพิ่งผ่านการเรียนหลักสูตรวุฒิบัตรผู้ช่วยและผู้ปฏิบัติงานของสมาชิกรัฐสภารุ่นที่ 6 รวมทั้งเป็นนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า และเป็นผู้ช่วยส.ส.ในลำดับที่ 3 ของนางรพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง)       

      “นิมล” มีชื่อในวงการว่า “เสี่ยโจว” เป็นมือขวา“เสี่ยเปี๋ยง”  หรือ อภิชาติ จันทร์สกุลพร  เจ้าของบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่ผูกขาดการซื้อข้าวจากโครงการรับจำนำข้าว ในสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี      

       ขณะที่ “สมคิด” เป็นคนของบริษัทสยามอินดิก้า เพราะเคยได้รับมอบอำนาจจากเสี่ยเปี๋ยง ไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สยามอินดิก้า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2547        

       จากข้อมูลทั้งหมดทำให้ฝ่ายค้านเชื่อว่า การระบายข้าวจีทูจี อาจไม่มีจริง?       

      “ จีทูจีที่อ้างขึ้นมาน่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการประมูลด้วยวิธีปกติ เพราะไม่มีการระบายข้าวจริง เป็นการตั้งบริษัทผีมารับข้าว เพื่อนำข้าวไปเร่ขายให้กับโรงสี ทำกำไรต่ออีกครั้ง”  นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.พิษณุโลก ระบุ       

       ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)  เคยทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หลังจากได้รับงานปรับปรุงสภาพข้าวและส่งมอบข้าว 15% ของรัฐจำนวน 300,000 ตัน ให้รัฐบาลอินโดนิเชีย ในช่วงปลายปี 2554 

@@ เปิดสัมพันธ์ลึก สยามอินดิก้า - เพรซิเดนท์        

       จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ที่เคยเป็นบริษัทส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยสมัยรัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ยุคนายวัฒนา เมืองสุข เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์        

        แม้ว่าจะเป็นคนละบริษัทกัน        

        เนื่องจากกรรมการและผู้ถือหุ้นหลายคน ในบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เคยเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง มาก่อน   

        อาทิ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำนวน 43,739,000 หุ้น เป็นอดีตผู้ก่อตั้ง กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จำนวน 232,560 หุ้น        

        นายอนุ จารุศิลาวงศ์ และนางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ เคยถือหุ้นในบริษัท บริษัท เพรซิเดนท์ เกรนไซโล จำกัด ในเครือ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง ก่อนจะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท สยามอินดิก้า        

       ขณะที่ บริษัท เพรซิเดนท์ฯ และนายอภิชาต ยังเข้าไปพัวพันการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรในช่วงที่นายวัฒนา เมืองสุข เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) จนทำให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)มีมติชี้มูลความผิดนายวัฒนาเมืองสุขกับพวกรวม 7 คน ซึ่งมีบริษัทเพรซิเดนท์ฯและนายอภิชาตรวมอยู่ด้วย ซึ่งคณะทำงานพิจารณาพิจารณาสำนวนคดีที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐของสำนักงายอัยการสูงสุดได้มีมติสั่งฟ้องนายวัฒนากับพวกต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเรียกรับเงินผู้ประกอบการเอกชนในโครงการดังกล่าว

@@  คตส.ชี้มูล อริสมันต์-เสี่ยเปี๋ยง คดีบ้านเอื้ออาทร        

       สำหรับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ประกอบด้วย 1.นายวัฒนา เมืองสุข 2.นายพรพรหม วงศ์วิทัศน์ 3.นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ส.ส.กทม.  4.นายอภิชาติ จันสกุลพร กรรมการผู้จัดการบริษัทเพรสซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด 5.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง 6.น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว และ 7.บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง        

       กรณีการปรากฏชื่อ นายรัฐนิธ โสติกุล  เป็นผู้ช่วย ส.ส.ในลำดับที่ 3 ของนางรพิพรรณ พงศ์เรืองรอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ภรรยานายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย จึงอาจจะใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด?          

      จากการตรวจสอบพบว่า  เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้ลงประกาศเรื่อง คำพิพากษาให้ล้มละลาย และกำหนดนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล. 18747/2552 ระบุว่า ศาลล้มละลายกลาง ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2553 ให้ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ลูกหนี้ ล้มละลายแล้ว และศาลได้กำหนดนัดไต่สวนลูกหนี้ทั้งสองโดยเปิดเผย ณ ศาลล้มละลายกลาง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯอาคาร เอ ชั้น2-4 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 เจ้าหนี้ที่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว มีสิทธิไปฟังการไต่สวนและซักถามลูกหนี้ที่ศาลได้หรือจะมอบฉันทะเป็นหนังสือให้ผู้หนึ่งผู้ใดไปแทนก็ได้           

      ทั้งนี้ คดีดังกล่าว มาจากการที่ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลมีคำสั่งลงวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ลูกหนี้ไว้เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483

@@  พบกก.เพรซิเดนท์ นั่งบริหาร “สยามอินดิก้า”        

       จากการตรวจสอบข้อมูลบัญชีผู้ถือหุ้นบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2552  พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อผู้ถือหุ้นใหม่ ที่น่าสนใจ คือ นางสุดา คุณจักร เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง จำนวน 655,359 หุ้น แทนที่ นายอนุ จารุศิลาวงศ์ ที่ลาออกไป เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2553 และถือเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน         

       ส่วนผู้ถือหุ้นรายอื่นยังเหมือนเดิม คือ นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง 95,639 หุ้น นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ 69,999 หุ้น นางสาววิไลลักษณ์ สิทธิจันทร์เสน 1 หุ้น นายโจวเซียงดอง 35,000 หุ้น นางสาวจาสุรี นาจารย์ 1 หุ้น นายชนกชน ลิมเจริญ 1 หุ้น         

       ขณะที่กรรมการและผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท คือ นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ และนางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง        

       ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท สยามอินดิก้า แจ้งที่ตั้งไว้ที่ 48/7-8 ( ชั้น 2) ซอยรัชดาภิเษก 20 (รุ่งเรือง) ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310        

       ขณะที่ บริษัท เคทีบี ไซโล จำกัด และบริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด ได้แจ้งที่อยู่ไว้แห่งเดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า คือ 48/7-8 ( ชั้น 2) ซอยรัชดาภิเษก 20 (รุ่งเรือง) ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310          

       บริษัท เคทีบี ไซโล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 มกราคม 2547 ทุน 750,000,000 บาท ประกอบธุรกิจไซโลเก็บพืชผลทางการเกษตร นางสาวเรืองวัน เลิศศลารักษ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ร่วมกับ น.ส. รัตนา แซ่เฮ้ง มีผู้ถือหุ้น 7 คน คือ นาย อนุ จารุศิลาวงศ์ 71.8399% นาย นที กาญจนพาที 5.3333% นางสาว เรืองวัน เลิศศลารักษ์ 5.3333% นาย โจว เซี่ยงดอง 4.6667% นางสาว จินตนา กาญจนคีรี 4.4% นางสาว รัตนา แซ่เฮ้ง 4.4% และนาย ชนกชน ลิมเจริญ 4.0268%            

       ส่วน บริษัท ธัญรักษ์ ค้าข้าว จำกัด จดทะเบียน วันที่ 6 มีนาคม 2549 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ เป็นนายหน้า ตัวแทน ในกิจการค้าข้าว พืชผลทางการเกษตร ปรากฏชื่อ นาย สมชาย ธิติชัชวาลกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย พรสวัสดิ์ ยงทวิชาชาติ นางสาว รัตนา แซ่เฮ้ง นางสาว กรองทอง วงศ์แก้ว นางสาว วาสนา จินดา           

       มีผู้ถือหุ้น 7 คน คือ นาย อภิชาติ จันทร์สกุลพร ถือหุ้นใหญ่ 99.9400% นางสาว กรองทอง วงศ์แก้ว นาย พรสวัสดิ์ ยงทวิชาชาติ นางพีรยา แรมวิโรจน์ นางสาวรัตนา แซ่เฮ้ง นางสาววาสนา จินดา นายสมชาย ธิติชัชวาลกุล ถือไว้คนละ 0.01%  

( อ่านประกอบในเรื่อง    เปิดสัมพันธ์ลึก “สยามอินดิก้า-เพรซิเดนท์ ฯ ” เมีย นพ. หุ้นใหญ่ ก่อนคว้าข้าวรัฐฯ 3 แสนตัน http://www.isranews.org/investigate/investigative-04/item/5859--3-.html) 

@@ สยามอินดิก้า” อุ้ม“เพรซิเดนท์ฯ”ก่อนล้มละลาย          

       จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในช่วงปี 2551 บริษัท สยามอินดิก้า เคยเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับ บริษัท เพรซิฯโดยการเข้าไปทำสัญญาซื้อหนี้ ของบริษัท เพรซิเดนท์ ฯ จากธนาคารกรุงไทย ในราคา 1,050 ล้านบาท จากมูลหนี้ 1,286 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 556 ล้านบาท เป็น 856 ล้านบาท ( บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด จดทะเบียนเพิ่มทุน เป็น 856,000,000 บาท เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2550 ) และแต่งตั้งบริษัทอื่นตามความเห็นชอบของธนาคารควบคุมกระแสเงินสดเข้า-ออก ร่วมลงนามในการเบิกถอนเงินจากบัญชีของบริษัทฯ และควบคุมการรับ-จ่ายสินค้าสำเร็จรูปและวัตถุดิบ          

       นอกจากนี้ บริษัท สยามอินดิก้า จะไม่เข้าทำสัญญาซื้อขายหนี้กับธนาคาร แทนและ/หรือในนามของบริษัท เพรซิเดนท์ ฯ หรือขายหรือโอนหนี้ที่ซื้อไปจากธนาคารภายใต้สัญญาซื้อขายหนี้ (ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน) คืนให้กับบริษัท/หรือบุคคลที่ถือได้ว่าเกี่ยวข้องกันกับบริษัท เพรซิเดนท์ ฯ         

       หากบริษัทฯ ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำยืนยันข้างต้น บริษัท สยามอินดิก้า ยินยอมชำระหนี้ส่วนที่ธนาคารลดให้ทั้งจำนวนเป็นเงิน 236 ล้านบาท        

(อ่านประกอบ เจาะข้อมูลลับ “สยามอินดิก้า” อุ้ม“เพรซิเดนท์ฯ”ก่อนล้มละลาย ช่วยใช้หนี้ กรุงไทย 1.05 พันล้าน http://www.isranews.org/investigate/item/5879--105-.html)  

@@ “สยามอินดิก้า” ฟัน 4 พันล้าน รายได้ปี 54

         จากการตรวจสอบงบดุล ปี  2554  ที่นำส่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2555 บริษัทสยามอินดิก้า แจ้งว่า  ขาดทุนสุทธิ -150,347,471.90  บาท แต่มีรายได้จากการขายและบริการ –สุทธิ 4,408,552,336.04  บาท   รายได้รวม  4,444,010,170.38 บาท           

        ล่าสุด นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.พิษณุโลก   เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ระบุว่า จะหารือกับพรรคเกี่ยวกับการส่งเรื่องนี้ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาตรวจสอบอย่างเป็นทางการต่อไป          

        วิบากกรรมของ “สยามอินดิก้า” จะซ้ำรอยเดียวกับ “เพรซิเดนท์ฯ” หรือไม่ ต้องติดตามต่อไป