ไทยพุทธร่วมสร้าง“โรงเรียนตาดีกา” สัมพันธ์แน่นแฟ้นสองศาสนาที่บ้านเจาะกลาดี
นาซือเราะ เจะฮะ
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งคือความพยายามของฝ่ายผู้ก่อการที่ต้องการ “ตอกลิ่ม” ให้เกิดความแตกแยกระหว่างผู้คนต่างศาสนาในพื้นที่ แต่ดูเหมือนความพยายามนี้จะปรากฏผลไม่มากนัก เพราะถึงที่สุดแล้วก็ยังมีภาพอันงดงามของการร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างพี่น้องไทยพุทธกับมุสลิม แม้แต่ในพื้นที่ห่างไกลและถูกแต้มสีแดง
ดังเช่นที่บ้านเจาะกลาดี หมู่ 8 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ ต.ตาชี อ.ยะหา และประชากรส่วนใหญ่ถึง 99% เป็นมุสลิม แต่การก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียนตาดีกาแห่งบ้านเจาะกลาดีที่ชื่อ “โรงเรียนตาดีกาตัรบียตุลอัตฟาลมัสยิดซอลาฮุดดีน” ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนาลำดับต้นของอิสลาม กลับมีชาวบ้านไทยพุทธในพื้นที่มาร่วมลงทั้งกำลังแรงและกำลังทรัพย์กับพี่น้องมุสลิมด้วย
การก่อสร้างโรงเรียนตาดีกาแห่งนี้ไม่ต่างอะไรกับหนังเรื่องยาวที่ตัวเอกของเรื่องต้องผจญกับอุปสรรคนานัปการ เพราะโครงการก่อสร้างอาคารเรียนสูง 2 ชั้นนั้น ใช้งบประมาณถึง 700,000 บาท แต่ชาวบ้านเจาะกลาดีและชุมชนใกล้เคียงระดมทุนกันได้เพียง 400,000 บาท
ทุนตั้งต้น 400,000 บาทนั้น ก็ไม่ใช่เงินงบประมาณของหน่วยงานรัฐแห่งไหน แต่มาจากการเก็บยางแผ่นของทุกครัวเรือนในหมู่บ้านที่ทำได้ใน 1 วันไปขาย คือแทนที่วันนั้นจะขายยางแผ่นเก็บเงินเข้ากระเป๋าของแต่ละครอบครัว ก็นำเงินมาเข้ากองกลาง ได้มา 115,000 บาท จากนั้นก็ยังเรี่ยไรจากสมาชิกของหมู่บ้านอีกครัวเรือนละ 1,000 บาท ได้เงิน 120,000 บาท โดยในจำนวนนี้มีพี่น้องไทยพุทธจากตาชีร่วมสบทบทุนด้วย
แต่ทั้งหมดก็ยังไม่เพียงพอ ระยะหลังยังต้องเรี่ยไรเพิ่มอีกครอบครัวละ 20 บาทต่อสัปดาห์ ได้เงินสัปดาห์ละ 2,000-3,000 บาท เพื่อนำมาซื้ออิฐ หิน ปูน ทราย และอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ ส่วนแรงงานล้วนมาจากการร่วมใจของคนในชุมชน และพี่น้องทั้งไทยพุทธและมุสลิมจาก ต.ตาชี โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าเป็นศาสนาใด
การก่อสร้างดำเนินมาอย่างล่าช้าตามทุนทรัพย์ที่มี ผ่านมากว่า 2 ปีก็ยังไม่เสร็จสิ้น ปัจจุบันเด็กๆ ในหมู่บ้านและชุมชนใกล้เคียง 115 ชีวิตยังต้องใช้พื้นที่บางส่วนของมัสยิดเป็นห้องเรียนชั่วคราว
นายนาชิด จินากุล ชาวไทยพุทธวัย 57 ปีจาก ต.ตาชี ซึ่งชาวบ้านเจาะกลาดีเรียกเขาว่า “แบจิ” และร่วมลงแรงช่วยสร้างโรงเรียนตาดีกาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เล่าว่า ชาวบ้านที่นี่อยู่ร่วมกันมานาน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน เรื่องการสร้างอาคารเรียนทุกคนเห็นด้วย จึงระดมเงินจากชาวบ้านด้วยกันเอง เพื่อทำให้อาคารเรียนหลังใหม่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
“แต่กำลังของชาวบ้านก็มีจำกัด จะเห็นได้ว่าเราช่วยกันสร้างมานานหลายปีก็ยังเสร็จแค่ชั้นล่าง และยังไม่สมบูรณ์นัก ผมเองก็ช่วยลงเงินมาหลายครั้ง วันไหนว่างๆ ก็จะแวะมาดู และลงแรงช่วยก่อสร้าง ผมมั่นใจว่างานจะสำเร็จได้ถ้าทุกคนในชุมชนร่วมไม้ร่วมมือกัน” นาชิด กล่าวด้วยภาษายาวีอย่างคล่องแคล่ว
“แบจิ” ยังบอกถึงความสัมพันธ์ที่เขามีกับพี่น้องมุสลิมที่บ้านเจาะกลาดีด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
"ผมผูกพันกับพี่น้องมุสลิมที่นี่มาตั้งแต่รุ่นพ่อ กระทั่งมาในรุ่นผมและลูกๆ ก็ยังมาวิ่งเล่น กิน นอนอยู่ที่บ้านเพื่อนที่เจาะกลาดี ทุกวันนี้ผมก็ยังแวะเวียนมาเรื่อยๆ เพราะมีเพื่อนมาก เวลาเจอคนเจาะกลาดีไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าๆ ก็จะทักทายพูดคุยกันด้วยภาษายาวีตลอด ความสัมพันธ์ของคนที่นี่ในอดีตเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น เวลาหรือสถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของพวกเราได้” นาชิด กล่าว
ขณะที่ นายอับดุลเลาะ เลาะมิ มุสลิมวัย 45 ปี ชาวบ้านเจาะกลาดี บอกว่า ที่ผ่านมามีเพื่อนจากตาชีมาช่วยเหลือเงินและลงแรงก่อสร้างอาคารเรียนตาดีกาแห่งนี้มาตลอด โดยที่ชาวบ้านเจาะกลาดีไม่ต้องชวนเลย
“ความสัมพันธ์ของพี่น้องตาชีกับเจาะกลาดี ไม่ใช่แค่ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเรื่องโรงเรียนตาดีกาอย่างเดียว แต่พวกเรายังร่วมเป็นทีม อรบ. (อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน) กองเดียวกันด้วย เพราะอัตรา อรบ.ของ ต.ยะหา ไม่ถึงที่เจาะกลาดี เมื่อชาวตาชีเห็นว่าเราสนิทกัน บ้านอยู่ใกล้กัน พี่น้องตาชีเลยให้พวกเราร่วมเป็น อรบ.กองเดียวกัน เวลาไปฝึกก็จะฝึกร่วมกัน เวลาถางป่าริมถนน พวกเราก็จะร่วมกันทำอย่างสนุกสนาน ยิ่งมีปัญหาความไม่สงบเกิดขึ้น พวกเรายิ่งสนิทสนมแน่นแฟ้นมากขึ้นกว่าเดิม” อับดุลเลาะ กล่าว
การร่วมแรงร่วมใจและสมัครสมานสามัคคีของผู้คนที่นี่ ได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้าน พร้อมมอบเงินสนับสนุนก่อสร้างอาคารเรียนตาดีกาอีก 100,000 บาท
ล่าสุดเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ก็แวะเวียนเข้ามา และได้เห็นถึงน้ำจิตน้ำใจของชาวบ้านที่สมัครสมานสามัคคี จึงรับปากว่าจะช่วยเหลือผลักดันโครงการก่อสร้างโรงเรียนตาดีกาที่ยังค้างคาอยู่ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
“ผมขอขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ยอมเสียสละตามความสามารถเพื่อร่วมกันสร้างโรงเรียนตาดีกาแห่งนี้ ผมได้มอบหมายให้ ท่านภาณุ อุทัยรัตน์ ผอ.ศอ.บต.มาดูแล และหวังว่ากลับมาคราวหน้าจะมาเป็นประธานเปิดอาคารเรียนหลังใหม่ของโรงเรียน” เป็นคำสัญญาจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายแม เจะเงาะ อิหม่ามประจำมัสยิดบ้านเจาะกลาดี กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่รัฐบาลและทหารให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ก่อสร้างโรงเรียนตาดีกา เพราะที่ผ่านมาบ้านเจาะกลาดีไม่ค่อยมีผู้ใหญ่เดินทางมา เนื่องจากเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ
“ชาวบ้านรู้สึกเป็นเกียรติมากที่มีคนระดับรัฐมนตรีและแม่ทัพภาคที่ 4 มาเยี่ยมถึงหมู่บ้าน แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับปัญหาของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง ผมเชื่อว่าถ้ารัฐเปิดโอกาสให้ประชาชนในระดับหมู่บ้านได้แสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จะจบลงได้ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็จะกลับมามีแต่สันติสุขเหมือนเดิม” อิหม่ามแม กล่าว
ภาพความงดงามของการร่วมแรงร่วมใจ และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของผู้คนต่างศาสนาที่ไม่มีใครมาทำลายได้ จะทำให้ความหวังของอิหม่ามแมเป็นจริงในเร็ววัน...
----------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1. โรงเรียนตาดีกาที่บ้านเจาะกลาดี ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งชาวบ้านไทยพุทธร่วมแรงร่วมใจสร้างกับพี่น้องมุสลิม
2. นายนาชิด จินากุล ชาวบ้านไทยพุทธจาก ต.ตาชี
3. พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อครั้งลงพื้นที่บ้านเจาะกลาดี และมอบเงินสนับสนุนสร้างโรงเรียนตาดีกา
4. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะเข้าไปเยี่ยมเยียนชาวบ้าน