ฝังทำลายส้มจีนติดใบลักลอบนำเข้าเกลื่อนตลาดไทย ซื้อถูกระวังปนเปื้อน

กรมวิชาการเกษตรฝังทำลายส้มแมนดารินจีนลักลอบนำเข้า 96 ตัน เผยเสี่ยงเกิดโรคระบาดพืชใหม่-แย่งตลาดเกษตรกรไทย เตือนผู้บริโภคซื้อถูกแต่ระวังสารพิษตกค้างไม่ได้มาตรฐาน

วันที่ 20 พ.ย. 55 ที่กรมวิชาการเกษตร นายดำรง จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นประธานดำเนินการฝังทำลายส้มแมนดารินติดใบจำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ 96 ตัน ซึ่งลักลอบนำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยผิดเงื่อนไขการนำเข้าตาม พ.ร.บ.กักพืช และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารการนำเข้าผลไม้สดจากจีนมาไทย โดยไม่ผ่านการตรวจสอบของด่านตรวจพืชแหลมฉบัง ทั้งนี้สืบเนื่องจากจากกรณีที่กรมวิชาการเกษตรพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจจับตู้คอนเทนเนอร์เย็นบรรจุส้มแมนดารินลักลอบนำเข้า  5 ตู้คอนเทนเนอร์ 120 ตันบริเวณในตลาดไทวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา

นายดำรง เปิดเผยว่า ส้มแมนดารินเป็นสินค้าเกษตรที่ประเทศไทยนำเข้าจากจีนในปริมาณมาก ระหว่าง ต.ค. – ก.พ. ซึ่งปีที่ผ่านมาไทยนำเข้าผ่านด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตร 910 ครั้ง  26,560 ตัน มูลค่ากว่า 741 ล้านบาท โดยเป็นส้มที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารการนำเข้าผลไม้สดจากจีนมาไทยซึ่งใบติดปะปนมาในตะกร้าบรรจุสินค้ามากถึง 244 ครั้ง 5.9 ตัน มูลค่ากว่า 154 ล้านบาท

โดยขณะนี้พบว่าผู้นำเข้าบางรายใช้วิธีสอดไส้ผลส้มที่มีใบรวมมาในตู้คอนเทนเนอร์เดียวกับส้มที่ตัดใบออกแล้วจำนวนมากดังที่ได้มีการเข้าไปตรวจสอบจับกุมบริเวณตลาดไทย ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชตรวจพบใบส้มติดมากับสินค้า จะสั่งให้ทำการคัดแยกใบที่ติดมากับผลส้มออกแล้วเผาทำลายใบทิ้ง ซึ่งการนำเข้าครั้งต่อไปจะถูกสุ่มตรวจสอบอย่างเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะผู้นำเข้าที่มีประวัติการนำเข้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ โดยเชื่อว่าจะทำให้ปริมาณส้มที่ลักลอบนำเข้าลดลง ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการลักลอบนำเข้าพืชผลชนิดอื่นด้วย

นายดำรง กล่าวต่อว่าปัจจุบันส้มแมนดารินจากจีนหมุนเวียนในท้องตลาดไทยราว  4 แสนกิโลกรัมต่อวัน ซึ่งการลักลอบนำเข้าเป็นปัญหาสำคัญมาก เนื่องจากใบเป็นสาเหตุของโรคระบาดพืชและศัตรูพืชที่ไม่มีในประเทศไทย หากปล่อยไว้จะส่งผลเสียร้ายแรงต่อเกษตรกรไทยทั้งในแง่การแพร่กระจายโรคระบาด และยิ่งเป็นการตัดโอกาสทางการตลาดของเกษตรกรไทยผู้ปลูกส้มเช่น เกษตกรปลูกส้มโชกุนในจ.ยะลา ซึ่งไม่สามารถแข่งขันกับส้มแมนดารินลักลอบนำเข้าจากจีนที่ราคาถูกเพราะมีปริมาณมากและต้นทุนต่ำกว่าได้ นอกจากนี้อาจส่งผลเสียต่อผู้บริโภคเนื่องจาก ส้มที่ลักลอบนำเข้าไม่ผ่านการตรวจปริมาณสารพิษตกค้างและไม่มีกระบวนการทำความสะอาดที่ได้มาตรฐาน

อย่างไรก็ดีกรมวิชาการเกษตรได้ทำหนังสือชี้แจงและแจ้งไปตลาดซึ่งเป็นแหล่งระบายส้ม เช่น ตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไท รวมทั้งผู้ประกอบการห้องเย็นในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 50 แห่ง ให้ปฏิเสธการรับซื้อหรือรับแช่ส้มนำเข้าที่ผิดกฎหมาย และประสานไปยังทูตเกษตรและกงสุลเกษตรจีนให้แจ้งกระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเร่งตรวจสอบและแก้ปัญหาดังกล่าว นอกจากนี้กรมวิชาการเกษตรยังได้แจ้งให้กรมศุลกากรเคร่งครัดตรวจสอบเอกสารและสุ่มตรวจสินค้าจากด่านตรวจพืชก่อนปล่อยสินค้าให้มากขึ้น เนื่องจากเป็นปัญหาระดับประเทศที่คณะรัฐมนตรีให้ความสำคัญและมอบหมายให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวอีกว่า ขอความร่วมมือจากผู้บริโภคทั่วไปไม่ซื้อส้มแมนดารินหรือส้มจีนที่มีใบซึ่งมีขายทั่วไปตามท้องตลาด แม้จะดูสดและน่ารับประทานมากกว่าเพราะเป็นส้มลักลอบนำเข้าที่ผิดกฎหมายและอาจเป็นอันตราย ทั้งนี้สำหรับผู้ประกอบที่ลักลอบนำเข้าส้มผิดกฎหมาย ศาลได้ตัดสินลงโทษจำคุกและปรับตามกฎหมายแล้ว โดยให้ริบของกลางมาฝังทำลาย ซึ่งจะเป็นกรณีตัวอย่างไม่ให้ผู้ประกอบการนำเข้าทำผิดกฎหมายมากขึ้น .