บุกพิสูจน์“บางกอก ดาต้า”ฐานทุน“เสธ.อ้าย”รับจองเสื้อ“รวมพลคนทนไม่ได้”
บุกพิสูจน์บ.บางกอก ดาต้าในสนามม้านางเลิ้ง ฐานธุรกิจ“เสธ.อ้าย” จนท.บอกเตรียมปิดกิจการ พบป้ายรับสั่งจองเสื้อ“รวมพลคนทนไม่ได้”สื่ออ้าง“ทอม เครือโสภณ”คนสนิท“สมศักดิ์ เทพสุทิน”รั้งประธาน
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) มิได้แกนนำกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามเพียงอย่างเดียว หากแต่เถือหุ้นและเป็นกรรมการ บริษัท บางกอก ดาต้า เซนเตอร์ จำกัด ผู้ประกอบการขายเครื่องคอมพิวเตอร์ (เป็นคู่ค้าหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี 2543-2550 ทั้งสิ้น 22 ครั้ง รวม 316,828,825.37 บาท)
ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) เดินทางไปยัง บริษัท บางกอก ดาต้า เซนเตอร์ จำกัด ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 183 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจ พบว่า บริษัทบางกอกฯ ตั้งอยู่ใน ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (สนามม้านางเลิง)
ทั้งนี้ สภาพบริษัทฯ เป็นออฟฟิศขนาดเล็กอยู่ใกล้กับห้องอาหารราชตฤณมัย ด้านหน้าเป็นกระจกสีดำ มีสติ๊กเกอร์สีแดงติดไว้ ระบุชื่อ สันติราษฎร์สาส์น (SANTIRAT MAGAZINE) และ สติ๊กเกอร์สี ฟ้า ระบุ บริษัทในเครือบางกอกดาต้า (BAMGKOK DATA GROUP) ด้านข้างประตูออฟฟิศมีป้ายติดไว้ ระบุข้อความว่า“รับสั่งจองเสื้อ รวมพลคนทนไม่ได้”(องค์การพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่ายจัดงานนัดรวมพล คนทนไม่ไหว เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2555 ที่สนามม้านางเลิ้ง )
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่บริษัทรายหนึ่ง ได้รับแจ้งว่า “ถ้าจะมาหาใครต้องนัดไว้ล่วงหน้า ส่วนเรื่องทางการเมืองไม่รู้เรื่อง เพราะเป็นพนักงานคอมพิวเตอร์ในบริษัท บางกอกฯ เท่านั้น”
เมื่อถามว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางเมือง บริษัทฯ กังวลเรื่องผลกระทบด้านธุรกิจที่จะตามมาหรือไม่ เนื่องจาก เสธ.อ้าย ปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า “ไม่ส่งผลหรอก เพราะตอนนี้ บางกอกดาต้า ไม่ได้ทำอะไรมากมายแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ยังมีประมูลขายคอมพิวเตอร์ เดี๋ยวนี้เราไม่ได้ขายพวกตัวเครื่อง มันก็จะไม่มีผลกระทบอะไร ตอนนี้เราทำซอฟต์แวร์อย่างเดียว ทำซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าเฉพาะราย ที่เราไม่ประมูลอีกแล้ว เพราะฉะนั้นมันจะไม่มีผลกระทบอย่างแน่นอน และเราไม่ได้รับว่าจ้างมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว”
เมื่อถามว่าห่วงถึงเรื่องภาพลักษณ์ที่จะตามมาหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า “ไม่ห่วง เพราะมันไม่มีภาพอะไรแล้ว (หัวเราะ) คือเราจะปิดกิจการนะเรื่องของเรื่อง เพราะเราไม่รับลูกค้าเพิ่ม เราไม่ขายอะไรใหม่แล้ว เราก็ดูแลลูกค้าเก่าเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นยืนยันว่าไม่มีผลอะไร”
เมื่อถามว่า จะขอพบผู้บริหารได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ระบุว่า “อันนี้ก็ไม่รู้จะไปสัมภาษณ์ใคร ท่านไม่ให้สัมภาษณ์หรอก ปกติท่านก็ไม่ค่อยได้มา มาแค่ประชุมไม่ได้มานั่งประจำ ”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา นายทอม เครือโสภณ ซึ่งระบุว่ามีตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก ดาต้าเซ็นเตอร์ ให้สัมภาษณ์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ว่า ได้ลงทุนทำธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ใจกลางเมือง เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เคิร์ซ (kirz.com) กับศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งแต่เดิมพื้นที่นี้จัดไว้สำหรับเป็นที่เก็บของ และเปิดให้เช่าใช้ได้ ซึ่งรูปแบบการเช่าพื้นที่จะเป็นรูปแบบการต่อสัญญาแบบอัตโนมัติทุกๆ 3 ปี โดยใช้วงเงินลงทุนทั้งหมดสำหรับธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ประมาณ 200 ล้านบาท
http://www.manager.co.th/cyberBiz/viewNews.aspx?newsid=9550000038626
ทั้งนี้ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ยังเคยนำเสนอปูมหลังของ นายทอม โดยระบุว่า นายทอม เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจมานาน ในฐานะดีลเมกเกอร์ที่เก่งกาจคนหนึ่ง และเคยเข้าไปบริหารบริษัทใหญ่ๆ หลายบริษัท เช่น ประธานบริษัท ซินเนอร์ไจซ์ จำกัด, ผู้จัดการประเทศไทย บริษัท ซัมซุง อิเล็กโทรนิคส์ จำกัด, กรรมการผู้จัดการ บริษัท นอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ (ประเทศไทย) จำกัด, รองประธานบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รวมทั้งได้เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์บางรายการด้วย เป็นอดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ในทางการเมือง นายทอม เริ่มเป็นที่รู้จักในช่วงปลายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อเขาเป็นผู้ออกมาปกป้องครอบครัวชินวัตร ในการขายหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่น ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก เมื่อต้นปี 2549 โดยได้ไปออกรายการ “ถึงลูกถึงคน” ตอบโต้กับฝ่ายต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณอย่างหัวชนฝา นอกจากนี้ เขายังทำหน้าที่ประสานงานให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาครั้งสุดท้ายก่อนถูกยึดอำนาจ ในคืนวันที่ 19 ก.ย.2549 (ปฏิวัติ) นั้น นายทอม ยังอยู่กับคณะของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในนครนิวยอร์ก และได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศในฐานะสมาชิกพรรคไทยรักไทย และที่ปรึกษาอดีตรักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมแพ้ และยังไม่ได้ลงจากอำนาจ พร้อมกับบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องการที่รักษารัฐธรรมนูญของประเทศ
ภายหลังควันรัฐประหารจางลง และมีแนวโน้มว่า พรรคไทยรักไทย จะถูกยุบ กลุ่มก้อนต่างๆ ทยอยลาออกมา นายทอม ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม ที่ลาออกจากพรรค และตั้งกลุ่มมัชฌิมา ขึ้นมาเตรียมตัวรอเลือกตั้งครั้งใหม่
ทั้งนี้ นายทอม เพิ่งรู้จักกับ นายสมศักดิ์ ตอนจัดประกวดนางงามจักรวาลในไทยปี 2548 ขณะที่นายสมศักดิ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และได้ลงมาช่วยให้การประกวดนางงามจักรวาลที่กำลังประสบปัญหา ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งหลังจาก นายสมศักดิ์ ลาออกมาตั้งกลุ่มมัชฌิมา จึงได้เชิญนายทอมมาร่วมกลุ่ม โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานด้วย
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9500000032969
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยังบริษัท บางกอก ดาต้า เซนเตอร์ จำกัด อีกครั้ง ถึงสถานะของนายทอม เครือโสภณ เจ้าหน้าที่ ระบุว่า “ ไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้”