เตือนเกษตรกรเฝ้าระวัง “ข้าวกระทบหนาว”
กรมการข้าวเตือนเกษตรกรระวัง “ข้าวกระทบหนาว-โรคไหม้” เหตุอุณหภูมิลดต่ำอาจทำข้าวตาย แนะเปลี่ยนปลูกข้าวพันธุ์ทนอากาศเย็น
วันที่ 25 ต.ค. 55 นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพอากาศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลายพื้นที่ มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิลดต่ำลง กรมการข้าวมีความเป็นห่วงเกษตรกร ที่ปลูกข้าวจะประสบกับปัญหา “ข้าวกระทบหนาว” ไม่ได้ผลผลิตเต็มที่โดยพันธุ์ข้าวที่มีความอ่อนแอต่อสภาพอากาศหนาวเย็น ได้แก่ พันธุ์พิษณุโลก 2 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับข้าวทุกระยะ ดังนั้นเกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงนาและสังเกตความผิดปกติของต้นข้าว เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที สำหรับอาการของต้นข้าวที่ได้รับผลกระทบนั้น ข้าวที่อยู่ในระยะกล้า ต้นข้าวจะชะงักการเจริญเติบโต แคระแกรน ใบเหลือง และอาจหยุดการเจริญเติบโตจนถึงตายได้ในกรณีที่อุณหภูมิลดต่ำลงมาก ถ้าเกิดในระยะออกดอกหรือระยะผสมเกสร จะทำให้การผสมไม่ติดและเกิดเมล็ดลีบมาก อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ เกษตรกรยังไม่ควรใส่ปุ๋ยให้กับต้นข้าว เนื่องจากต้นข้าวจะไม่สามารถดึงปุ๋ยไปใช้ได้ตามปกติ ควรใส่เมื่ออุณหภูมิสูงและอากาศอุ่นขึ้น ต้นข้าวจึงจะสามารถดูดปุ๋ยและเจริญเติบโตตามปกติ
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อว่า สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรเฝ้าระวังโรคไหม้ เนื่องจากขณะนี้สภาพอากาศที่เย็น รวมทั้งแห้งและชื้น ต้นข้าวจะมีความอ่อนแอต่อโรคไหม้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ โรคนี้พบมากในข้าวพันธุ์พื้นเมืองไวต่อช่วงแสง ได้แก่ ขาวดอกมะลิ 105 และข้าวพันธุ์ผสม เช่น กข6 และ กข15 ที่เกษตรกรนิยมปลูก โดยมีสาเหตุจากเชื้อรา เกิดได้กับข้าวทุกระยะ หากเป็นข้าวในระยะกล้า จะพบใบมีแผลจุดสีน้ำตาลคล้ายรูปตา ถ้าอาการของโรครุนแรง กล้าข้าวจะแห้งตาย อาการคล้ายถูกไฟไหม้ ในระยะแตกกอจะพบแผลบริเวณข้อต่อของใบและข้อต่อของลำต้น และระยะคอรวง (ระยะออกรวง) จะพบแผลบริเวณคอรวง ซึ่งจะมีผลทำให้เมล็ดลีบหรือคอรวงหักได้ ผลผลิตข้าวจะลดลงหรือไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้หากพบเริ่มมีโรคไหม้ในแปลงนา เกษตรกรสามารถควบคุมความรุนแรงของโรคได้ โดยใช้สารป้องกันกำจัดโรคตามคำแนะนำของกรมการข้าว พ่นในข้าวที่ออกรวงจนถึงใกล้เก็บเกี่ยว
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่เตรียมจะปลูกข้าวในขณะนี้ ควรติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้พันธุ์ข้าวพิษณุโลก 2 โดยปลูกพันธุ์อื่นที่สามารถ ทนสภาพอากาศหนาวได้ดีกว่า เช่น กข31 (ปทุมธานี 80) ทั้งนี้เกษตรกรสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ : ศูนย์บริการชาวนา ศูนย์วิจัยข้าว และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวใกล้บ้าน หรือ สืบค้นข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.ricethailand.go.th
ที่มาภาพ ::: http://bit.ly/RYX4NV