เบื้องหลัง"สรยุทธ"หัก"เนชัน"ซบช่อง 3-โชว์เข้าตา"มิ่งขวัญ" เรียกตอบแทน
“สรยุทธ”เผยปมหัก“เนชั่น”เบรกทำรายการ“เรื่องเล่าเช้านี้”-โชว์ผลงานเข้าตาได้อัพค่าตัวพิธีกรจาก 5,000 บาทเป็น30,000 บาท“มิ่งขวัญ”ยก“คุยคุ้ยข่าว”ตอบแทน ดึงเพื่อนตั้งบริษัทแต่มีปัญหาเลยซื้อหุ้นคนเดียว
คำชี้แจงข้อกล่าวหาของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2554 กรณีถูกกล่าวหาสนับสนุนพนักงาน อสมท.ยักยอกเงินโฆษณา 138 ล้านบาท ประเด็นการก่อตั้ง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด นายสรยุทธได้เล่าความเป็นมาในการลาออกจากบริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด มาทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ที่ช่อง 3 จากนั้นก็เข้าสู่ช่อง 9 และมีปัญหากับหุ้นส่วนธุรกิจ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เรียบเรียงคำชี้แจงมาเสนอดังนี้ นายสรยุทธระบุว่า เดิมเป็นพนักงานบริษัท เนชั่น มัลติมีเดียกรุ๊ป จำกัด มีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และทำรายการโทรทัศน์ในระบบเคเบิ้ล คือรายการ “คมชัดลึก”และ “เก็บตกจากเนชั่น”
ต่อมาเมื่อประมาณปี 2546 ได้รับการทาบทามจากไทยทีวีสีช่อง 3 ให้มาทำรายการข่าวในช่วงเช้าวันละครึ่งชั่วโมง (ต่อมาคือรายการเรื่องเล่าเช้านี้)ซึ่งเป็นช่วงก่อนจัดรายการ“เก็บตกจากเนชั่น” แต่ปรากฏว่าบริษัทเนชันฯ ไม่ยินยอมที่จะให้ไปทำรายการดังกล่าว
ดังนั้นในเดือนพฤษภาคม 2546 จึงได้ลาออกจากการเป็นพนักงาน บริษัทเนชั่นฯ เพื่อมารับจ้างเป็นพิธีกรรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้”ทางช่อง 3 และในระหว่างเตรียมงานรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ก็ได้รับการติดต่อจากนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ในขณะนั้นให้มารับเป็นพิธีกรรายการใหม่ทางช่อง 9 อสมท.
จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่าเป็นรายการ “ถึงลูกถึงคน”ออกอากาศทุกคืนวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 23.00 น.-00.30 น. เริ่มออกอากาศครั้งแรกวันที่ 3 มิถุนายน 2546 ได้รับค่าจ้างเป็นพิธีกรแบบรายวันตอนละ 5,000 บาท
นายสรยุทธระบุว่า เมื่อรายการ “ถึงลูกถึงคน”ได้รับความนิยมจนมีโฆษณาสนับสนุนรายการมากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2547 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เสนอให้ทำรายการเพิ่มขึ้นอีกรายการหนึ่งในรูปแบบรายการ “คุยข่าว” คล้ายกับ “เรื่องเล่าเช้านี้”ที่ทำให้แก่ช่อง 3 ซึ่งได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน และเพื่อตอบแทนที่ได้ทำรายการ “ถึงลูกถึงคน”จนมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นหน้าเป็นตาของช่อง 9 รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับสถานีในช่วงเวลาดึกทั้งที่แต่เดิมนั้นไม่ใช่เวลาทั้งสร้างรายได้ของสถานีแต่อย่างใด บริษัท อสมท.ได้เสนอให้เข้าเป็นผู้ร่วมผลิตรายการและแบ่งเวลาโฆษณาแบบ Time Sharing 50:50 พร้อมกันนั้นก็ได้ขึ้นค่าตอบแทนการเป็นพิธีกรรายการ “ถึงลูกถึงคน”เป็นตอนละ 30,000 บาท โดยให้คงสภาพการจ้างเป็นพิธีกรเหมือนเดิม
นายสรยุทธระบุว่า เมื่อต้องผลิตรายการใหม่ให้อสมท.ในชื่อ “คุยคุ้ยข่าว”การทำงานคงเปลี่ยนไปและต้องหาโฆษณาและมีพนักงานที่จะต้องรับผิดชอบ จึงตั้งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพื่อรองรับการการทำรายการซึ่งเกิดขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว เพราะไม่มีประสบการในการก่อตั้งหรือบริหารกิจการด้วยตนเองมาก่อน
ก่อนหน้านั้นเคยร่วมกับเพื่อนที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจในการก่อตั้งบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด แต่ไม่ได้มีส่วนในการบริหารจัดการอย่างเต็มตัวจนกระทั่งมีปัญหาในแนวทางการทำงาน จึงได้ซื้อหุ้นของบริษัทนี้ทั้งหมดและนำมาใช้ในการรับค่าจ้างเป็นพิธีกรรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ในเวลาต่อมา ในการก่อตั้งบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ได้ชักชวน บุคคล 3 คน คือ
1.นางสาวอังคณา วัฒนามงคลศิลป์ ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยจัดรายการ “สนทนาข่าว”ทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี มาร่วมเป็นผู้ถือหุ้น กรรมการ รวมทั้งมีหน้าที่กำกับดูแลในการผลิตรายการ “คุยคุ้ยข่าว”
2.นางสาวสุกัญญา แซ่ลิ่ม เดิมเป็นนักข่าวประจำหนังสือพิมพ์เดอะเนชัน ชักชวนมาทำงานร่วมกันมีหน้าที่ติดต่อแขกรับเชิญมาออกรายการ “ถึงลูกถึงคน” ดูประเด็นข่าวในแต่ละวัน รวมถึงทำหน้าที่เลขานุการกรรมการผู้จัดการบริษัท ไร่ส้ม ประสานงานและนัดหมายงานต่างๆ และให้ถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัท ไร่ส้ม ด้วย
3.นางมณฑา ธีระเดช เคยเป็นโปรดิวเซอร์รายการสนทนาข่าวให้กับเนชัน มัลติมีเดียกรุ๊ป เคยเป็นโปรดิวเซอร์รายการ “เนชันนิวส์ทอล์ค” ให้กับนายสุทธิชัย หยุ่น มาเป็นเวลานาน และเคยทำงานร่วมกันในหน้าที่โปรดิวเซอร์รายการ “คมชัดลึก” โดยให้นางมณฑา มาช่วยเป็นโปรดิวเซอร์ร่วมทำรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ออกอากาศครั้งแรกวันที่ 2 มิถุนายน 2546 นางมณฑาจึงได้ลาออกจากบริษัทเนชัน
ต่อมานางสาวมณฑา ได้ทำหน้าที่เพียงพนักงานของบริษัทไร่ส้ม โดยไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นและเป็นกรรมการของบริษัทด้วย เนื่องจากบริษัท ไร่ส้ม ได้ใช้เวลาในการเตรียมการก่อตั้งทั้งโดยการประชุมและการรวบรวมเอกสารในช่วงหลังเที่ยงคืนหลังจากเสร็จการทำรายการ “ถึงลูกถึงคน” ซึ่งนางสาวมณฑามิได้มีส่วนร่วมในการจัดตั้งบริษัทดังกล่าว
(อ่านรายละเอียดเพิ่มตอนหน้า)