"ประยุทธ์-วิเชียร-ไพฑูรย์-อุดมชัย" ผู้รับผิดชอบชุดใหม่ในภารกิจดับไฟใต้
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
เข้าสู่เดือนสุดท้ายปลายปีงบประมาณ 2553 การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการใกล้เสร็จเรียบร้อย และเห็นหน้าเห็นตาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญแก้ไขปัญหาให้บ้านให้เมืองกันพอสมควรแล้ว สำหรับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อรัฐบาลยังใช้บริการ "ทหาร-ตำรวจ" โดยมีกฎหมายพิเศษอย่างกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ความมั่นคงเป็นเครื่องมือ ก็สมควรที่ทุกฝ่ายจะได้ทำความรู้จักกับ "บิ๊กทหาร-ตำรวจ" ชุดใหม่ ที่จะร่วมกันรับผิดชอบภารกิจ "ดับไฟใต้"
ผบ.ทบ.ใหม่กับแรงกดดันเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
เริ่มจากหัวเรือใหญ่อย่างผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งจะเป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) โดยตำแหน่ง และมีอำนาจบังคับบัญชาทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ผ่านโครงสร้างของ กอ.รมน.เพื่อแก้ไขปัญหาภาคใต้ ผบ.ทบ.คนใหม่ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.ซึ่งเดินตามหลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องในระยะหลังๆ นั่นเอง
พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 12 (ตท.12) และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 23 (จปร.23) เป็นนายทหาร "สายบู๊" ที่หลายฝ่ายกำลังจับตาว่าจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายดับไฟใต้บ้างหรือไม่ และจะทำอย่างไรกับแรงกดดันจากข้อเรียกร้องทดลองงดใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นเวลา 3 เดือน และลดบทบาทของทหารในพื้นที่ลง
ผบ.ตร.ใหม่กับ "งานตำรวจ" ที่ท้าทาย
จากแม่ทัพสีเขียว มาถึง "แม่ทัพสีกากี" กันบ้าง หลังจาก 1 ปีที่ผ่านมาต้องว่างเว้น ผบ.ตร.ตัวจริง มีแต่รักษาการ ล่าสุด พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผบ.ตร.ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ด้วยมติเอกฉันท์ให้ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.คนใหม่ และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งลงมาแล้ว
พล.ต.อ.วิเชียร เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 (นรต.28) เทียบรุ่นแล้วก็เป็น ตท.12 รุ่นเดียวกันกับ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะไม่มีการยืนยันว่าสายสัมพันธ์แนบแน่นขนาดไหน แต่ความเป็นรุ่นเดียวกัน ย่อมทำให้การประสานงานต่างๆ น่าจะคล่องตัว
อย่างไรก็ดี จุดอ่อนของ พล.ต.อ.วิเชียร ที่หลายฝ่ายมองกันก็คือผ่าน "งานตำรวจ" จริงๆ มาน้อยมาก เพราะชีวิตราชการส่วนใหญ่เป็น "ตำรวจวัง" หรือนายตำรวจราชสำนักประจำ ตั้งแต่ยังเป็นแค่สารวัตรกระทั่งถึงพลตำรวจเอก จึงน่าจับตาว่าเขาจะทำงานเชิงยุทธศาสตร์ได้ดีขนาดไหน โดยเฉพาะ "เรื่องไม่ง่าย" อย่างการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
บางฝ่ายจึงหวั่นเกรงว่า งานภาคใต้ในยุคที่ พล.ต.อ.วิเชียร เป็น ผบ.ตร. อาจเป็นแค่งานรูทีน!
ผบช.ศชต.ใหม่ เชื่อมประสาน "อดุลย์ แสงสิงแก้ว"
เจาะลงมาในระดับพื้นที่บ้าง เป็นที่ทราบกันดีว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตัดพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกจากความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ดูแลพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง) และตั้งศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) ขึ้นมารับผิดชอบแทนเป็นการเฉพาะ โดยผู้บัญชาการ ศชต.คนแรกคือ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ซึ่งวันนี้เขาได้ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.แล้ว และคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ได้มีมติให้ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ รองผู้บัญชาการ ศชต.ขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ศชต.คนใหม่
อย่างไรก็ดี พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ไม่ใช่คนหน้าใหม่ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเขาเคยเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) และเคยเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 สมัยที่ยังดูแลพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ยังไม่แยกเป็น ศชต.
พล.ต.ต.ไพฑูรย์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.29 ของ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ซึ่งเพิ่งได้ขยับเป็นรองผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.อดุลย์ เคยฝากฝีมือไว้ที่ชายแดนใต้ ทั้งวางโครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จนเป็นหน่วยที่ได้มาตรฐาน และขยับขยายเป็น ศชต.ในปัจจุบัน ทั้งยังทำให้การปฏิบัติงานของตำรวจในพื้นที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น และลดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนลงอย่างเห็นได้ชัด
การที่ พล.ต.ต.ไพฑูรย์ ได้นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการ ศชต. หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า "ผู้บัญชาการภาค 10" ในขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์ ก็ได้เป็นรองผบ.ตร.ตำแหน่งหลัก น่าจะช่วยกันประสานงานในภารกิจดับไฟใต้ และสานต่อสิ่งดีๆ ที่เคยทำไว้ได้อย่างมีความต่อเนื่องพอสมควร
แม่ทัพ 4 คนใหม่ กับอำนาจตัดสินใจที่ยังต้องลุ้น
สุดท้ายคือแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งก็ไม่พลิกโผ และเป็นไปตามที่ "ทีมข่าวอิศรา" เคยเคาะชื่อเอาไว้เมื่อหลายเดือนก่อนคือ พล.ต.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 คนที่หนึ่ง ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนแบบ "สุดตัว" จาก พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 คนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะขึ้นไปรับตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ. หนึ่งใน 5 เสือทบ.ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ
จุดเด่นของ พล.ต.อุดมชัย คือเป็นลูกหม้อของกองทัพภาคที่ 4 และมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้นำศาสนาส่วนใหญ่ในพื้นที่ จึงไม่แปลกที่เมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายทหารออกมาเมื่อวันที่ 2 ก.ย. จะมีเสียงขานรับจากผู้นำศาสนาคนสำคัญในพื้นที่ชายแดนใต้อย่างคึกคัก
พล.ต.อุดมชัย เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 13 (ตท.13) ยังเหลืออายุราชการอีก 3 ปี หากมองในแง่โครงสร้างการบังคับบัญชาก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะถือเป็นรุ่นน้องของ ผบ.ทบ.คนใหม่ แต่ปัญหาก็คือ หากนโยบายและการตัดสินใจในภารกิจ "ดับไฟใต้" ยังไปกระจุกอยู่ที่ ผบ.ทบ.เหมือนในยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ โดยเฉพาะการจัดกำลังพลที่ดึงเอาทหารจากอีก 3 กองทัพภาคลงมาดูแลพื้นที่ และมีนายทหารระดับ "พลตรี" จากกองทัพภาคต่างๆ ลงมาทำหน้าที่ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ก็น่าสนใจว่า พล.ต.อุดมชัย ซึ่งกำลังจะครองยศ "พลโท" ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ จะทำอะไรได้บ้างหรือไม่ หรือจะเดินงานเฉพาะการสานต่อโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักเหมือนในยุค พล.ท.พิเชษฐ์ โดยแทบไม่ได้แตะงานด้านยุทธการเลย
ทั้งหมดนี้คือผู้รับผิดชอบชุดใหม่ในภารกิจดับไฟใต้ และความท้าทายบนหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละคน!
---------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (จากซ้ายไปขวา) พล.อ.ประยุทธ์ พล.ต.อ.วิเชียร พล.ต.ต.ไพฑูรย์ และ พล.ต.อุดมชัย
อ่านประกอบ :
- แม่ทัพภาค4 คนใหม่...จุดเปลี่ยนไฟใต้-การเมืองนำทหาร?
- เคาะชื่อ"พล.ต.อุดมชัย"นั่งแม่ทัพภาค 4 คนใหม่
- โผแม่ทัพภาค 4 ฝุ่นตลบ “พล.ต.อกนิษฐ์” โผล่คั่วเก้าอี้ แต่ทหารในพื้นที่ยังมั่นใจ“คนใน”ขึ้นแท่น