สลด! "พี่นฤมล"เจ้าของร้านชำปะนาเระที่เคยให้สัมภาษณ์"อิศรา" ถูกยิงเสียชีวิต
แวลีเมาะ ปูซู
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนจ่อยิง นางนฤมล ปราโมทย์ไพบูลย์ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านชำเลขที่ 135/1 หมู่ 1 ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาร้านเมื่อวันสุดท้ายของเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แม้จะมองได้ว่าเป็นอีกเพียง 1 ชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวันที่ชายแดนใต้ แต่สำหรับเจ้าของร้านชำรายนี้มีอะไรมากกว่านั้น
นางนฤมล หรือ “พี่นิ้ง” เป็นแหล่งข่าวคนหนึ่งของโต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา โดย “ทีมข่าวอิศรา” เคยรายงานเรื่องราวชีวิตรันทดของเธอเอาไว้และนำเสนอบนเว็บไซต์เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2550
ครั้งนั้น “พี่นิ้ง” เพิ่งสูญเสียสามีไปได้ไม่ถึงปีจากการถูกคนร้ายบุกยิงเสียชีวิตคาร้านในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อปลายปี 2549
ก่อนเสียชีวิต “พี่นิ้ง” เป็นลูกจ้างโครงการสร้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ที่ให้ความช่วยเหลือในฐานะที่ “พี่นิ้ง” ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป และยังรับภาระเลี้ยงตัวเองและลูกซึ่งกำลังศึกษาต่ออยู่ในระดับอุดมศึกษาด้วย
“พี่นิ้ง” หรือ “พี่นฤมล” เดิมเป็นชาวบางกรวย จ.นนทบุรี แต่มาลงหลักปักฐานเปิดร้านขายของชำที่ จ.ปัตตานี เนื่องจากได้สามีเป็นคนที่นี่ และใช้ชีวิตอยู่มาอย่างสงบสุขกว่า 20 ปีจนสามารถพูดภาษามลายูถิ่นได้อย่างคล่องแคล่ว
และแม้จะสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ “พี่นิ้ง” ก็ปฏิเสธที่จะย้ายครอบครัวหนี แต่กลับปักหลักอยู่ที่ปะนาเระ จ.ปัตตานี ต่อไป ทั้งๆ ที่สถานการณ์ร้ายแรงขึ้นทุกวัน
”พี่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ไม่ไปไหน ทั้งที่มีบ้านอยู่ที่ จ.นนทบุรี ด้วย เพราะพี่ไม่อยากเริ่มต้นใหม่อีก ฉะนั้นไม่ว่าจะมีเหตุการณ์อะไรก็จะสู้” เป็นคำกล่าวของ “พี่นิ้ง” ที่บอกกับ “ทีมข่าวอิศรา” เมื่อครั้งกระโน้น
เธอยังเล่าย้อนเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียสามี โดยที่ไม่รู้ว่าอีกเกือบๆ 3 ปีต่อมา เธอก็ต้องประสบชะตากรรมเดียวกัน
“วันนั้นประมาณ 10 โมงเช้า เป็นช่วงที่ทุกคนกำลังวุ่นวาย ต่างคนทำภารกิจของตัวเอง พี่ก็จัดของอยู่ข้างในบ้าน ตกใจแทบช็อคเมื่อได้ยินเสียงปืน รีบวิ่งออกมาดูแทบหมดแรงเมื่อเห็นสภาพแฟนนอนจมกองเลือด ตอนนั้นแฟนกำลังขายของอยู่หน้าบ้าน จู่ๆ ผู้ร้ายก็เดินเข้ามายิงถึงในบ้านเลย เสียชีวิตทันที พี่เชื่อว่าเป็นเรื่องสถานการณ์ เพราะเขาโปรยใบปลิวทิ้งเอาไว้ด้วย อีกอย่างแฟนพี่ไม่เคยยุ่งกับใคร วันๆ เอาแต่ขายของ ดูจากปฏิบัติการแล้วคิดว่าคนที่ทำน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ทำเสร็จก็เดินออกไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย ถ้าเป็นคนในพื้นที่จะต้องรู้สึกกลัวบ้าง เพราะคนอาจจะจำหน้าได้”
“พี่นิ้ง” บอกว่าแม้จะรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็ไม่ได้คิดโกรธเคืองใคร ได้แต่ตั้งคำถามว่าคนเหล่านั้นทำไปเพื่ออะไร เพราะคนที่ตายอยู่ทุกวันล้วนเป็นคนธรรมดาที่รักสงบ และไม่มีผลประโยชน์อะไรกับใครเลย
แม้จะสูญเสียสามี แต่ “พี่นิ้ง” ก็ยังเป็นห่วงผู้คนร่วมชะตากรรมเดียวกันโดยไม่แยกศาสนา เพราะ “พี่นิ้ง” เรียกร้องให้ทางราชการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน ระหว่างข้าราชการกับชาวบ้านทั้งพุทธและมุสลิม เนื่องจากเธอเห็นว่าชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือน้อยเกินไป ทั้งๆ ที่บางคนต้องขาดผู้นำครอบครัวไปเลย
“ช่วยเหลือชาวบ้าน 3-4 คนที่เสียชีวิต เทียบแล้วเท่ากับช่วยเหลือข้าราชการแค่เพียงคนเดียว บางรายได้เป็นล้านๆ ฐานะก็ดีอยู่แล้ว ในขณะที่ชาวบ้านมีลูกด้วย ไม่มีเงินประกันอะไรเลย แถมยังยากจนอีก แต่กลับไม่ได้อะไร รัฐควรจะเอาตาชั่งมาชั่งให้เท่าๆ กัน อย่าลำเอียง ยิ่งชาวบ้านที่เป็นมุสลิมยิ่งหนักกว่าไทยพุทธอีก”
เป็นหัวจิตหัวใจอันแสนบริสุทธิ์ของ “พี่นิ้ง” ที่ทำให้ผู้คนในละแวกบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องมุสลิมรักเธอกันทุกคน
แต่แล้ววันนี้เธอกลับกลายเป็นอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับความรุนแรง...
สกู๊ปพิเศษของ “ทีมข่าวอิศรา” เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2550 ซึ่งเขียนโดย อับดุลเลาะ หวังนิ และ แวลีเมาะ ปูซู ปิดท้ายด้วยประโยคที่หวังให้เป็นกำลังใจแด่ “พี่นิ้ง”
“...ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดเวลา เราได้แต่หวังว่าชีวิตของพี่นฤมลในวันพรุ่งนี้อาจดีขึ้น เหมือนกับที่มีคนเคยบอกว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ...”
แต่น่าเสียดายที่ฟ้าหลังฝนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงขุ่นมัวและน่าสะพรึงกลัวเช่นเดิม!
-------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พี่นฤมลร่ำไห้ขณะให้สัมภาษณ์ "ทีมข่าวอิศรา" เมื่อปี 2550
2 ร้านขายของชำใน ต.ปะนาเระ ด้านหนึ่งเป็นปั๊มหลอด มีพี่น้องทั้งไทยพุทธและมุสลิมมาอุดหนุนตลอดทั้งวัน
อ่านประกอบ :
- ใจที่อ่อนล้าแต่ยังพร้อมยืนหยัดต่อสู้...ท่ามกลางความรักและห่วงใยของพี่น้องต่างศาสนิกในพื้นที่
http://www.isranews.org/cms/index.php?option=com_content&task=view&id=2759&Itemid=58
- ใต้ป่วนตลอดสัปดาห์ วิสามัญฯ 2 จุด 3 ศพ คนแก่เจ้าของร้านชำตกเป็นเป้า 6 วันตายสาม