สังเคราะห์งานวิจัย แนะผู้ผลิตสินค้าบริโภคของไทยสร้างมาตรฐานสู่สากล
ผลวิจัยของเอแบคโพลล์กับกลุ่มคนกรุงเทพฯ ในปี 2554 พบว่า 7 อันดับแรกของโรคร้ายแรงที่ประชาชนคนไทยกลัว ได้แก่ อันดับแรก ร้อยละ 71.9 ระบุโรคมะเร็ง อันดับที่สอง ร้อยละ 53.2 ระบุ โรคเบาหวาน อันดับที่สาม ร้อยละ 47.1 ระบุ โรคความดันโลหิต อันดับที่สี่ ร้อยละ 46.3 ระบุ โรคหัวใจและหลอดเลือด อันดับที่ห้า ร้อยละ 41.4 ระบุโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด อันดับที่หก ร้อยละ 39.3 ระบุโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และอันดับที่เจ็ด ร้อยละ 38.9 ระบุโรคไต ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.0 ระบุสารพิษปนเปื้อนในอาหารคือ ยาฆ่าแมลง รองลงมาคือ ร้อยละ 58.1 ระบุผงชูรส ร้อยละ 57.1 ระบุสารกันบูด ร้อยละ 47.4 ระบุสีผสมอาหาร ร้อยละ 47.2 ระบุสารบอแร็กซ์ ร้อยละ 41.2 ระบุสารแต่งกลิ่นและรส ตามลำดับ
ร้อยละ 20.5 ระบุประเภทอาหารกระป๋อง รองลงมาคือ ร้อยละ 20.3 ระบุอาหารประเภทปิ้งย่าง ร้อยละ 19.7 ระบุอาหารตามสั่ง ร้อยละ 13.8 ระบุอาหารสำเร็จรูป ร้อยละ 12.7 ระบุอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด ร้อยละ 6.6 ระบุอาหารประเภททอด ร้อยละ 3.9 ระบุอาหารแช่แข็ง และร้อยละ 2.5 ระบุอาหารประเภทจิ้มจุ่ม ตามลำดับ
ร้อยละ 77.4 ระบุคุณภาพของวัตถุดิบ สดใหม่สะอาด รองลงมาคือ ร้อยละ 67.8 ระบุรสชาติ ร้อยละ 55.4 ระบุราคา ร้อยละ 38.5 ระบุความสะอาดของบรรจุภัณฑ์ ร้อยละ 35.9 ระบุ แบรนด์ ร้อยละ 33.4 ไม่มีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ร้อยละ 29.8 ระบุคุณค่าทางโภชนาการ ร้อยละ 23.5 ระบุวัตถุดิบที่ปราศจากสารพิษ และร้อยละ 9.3 ระบุมีฉลากบอกคุณค่าทางโภชนาการ ตามลำดับ
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้สังเคราะห์งานวิจัยข้างต้น โดยมีข้อสรุปและข้อเสนอแนะว่า ขณะที่กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีมาตรฐานอาหารปลอดภัยสูงกว่าที่เคยมีมาและสูงกว่าประเทศกำลังพัฒนา ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานอาหารปลอดภัยระดับสูงเพราะประเทศไทยเป็นประเทศเปิดและมีชาวต่างประเทศเดินทางเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงของโลกชี้ให้เห็นศักยภาพการรวมตัวของกลุ่มประเทศในอาเซียนและกลุ่มประเทศเอเซีย-แปซิฟิก ย่อมจะทำให้กลุ่มผู้ผลิตและผู้ค้าอาหารปลอดภัยต้องยกระดับเข้าสู่มาตรฐานสากลที่สูงขึ้น เช่น การลดความเสี่ยงต่อชีวิตของผู้บริโภคด้วยคำเตือนติดที่ภาชนะบรรจุภัณฑ์ของอาหารให้กลุ่มผู้บริโภคที่เป็นโรคแพ้อาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้แพ้ถั่ว แพ้นม แพ้แป้งสาลีที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เป็นต้น
ดังนั้น การระบุข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วนที่เป็นส่วนประกอบของอาหาร และความเสี่ยงของกระบวนการผลิตจึงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับกลุ่มผู้ผลิตและผู้ค้าอาหารปลอดภัยที่จำเป็นในเวลานี้เพื่อมุ่งไปสู่ “ความวางใจ” ในกลุ่มผู้บริโภค และสู่ความสำเร็จของความเป็นนำในการเป็นคลังอาหารที่สำคัญและได้มาตรฐานสากลระดับสูงของโลกต่อไป

โมเดลความเสี่ยงของผู้บริโภคต่ออาหารปลอดภัย
