พูโลอ้างจับมือบีอาร์เอ็นหยุดยิง 3 อำเภอสำเร็จ แบะท่าเปิดเจรจารัฐบาลไทย!
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น และเว็บไซต์เนชั่นมัลติมีเดียดอทคอม รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ขบวนการปลดปล่อยมลายูปัตตานี หรือ พีเอ็มแอลเอ็ม (Patani Malay Liberation Movement : PMLM) ได้ออกมาประกาศถึงผลของมาตรการหยุดยิงฝ่ายเดียวของกองกำลังติดอาวุธในพื้นที่ 3 อำเภอของ จ.นราธิวาส ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
นายกัสตูรี มาห์โกตา โฆษกของกลุ่มพูโล หรือองค์กรเอกภาพเพื่อการปลดปล่อยปัตตานี (Patani United Liberation Organisation : Pulo) กล่าวว่า การหยุดยิงชั่วคราวถูกกำหนดพื้นที่เฉพาะ อ.ระแงะ อ.ยี่งอ และ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.จนถึงวันที่ 10 ก.ค.2553 โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงความจริงใจต่อรัฐบาลไทยเรื่องการเปิดเจรจาเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ขณะเดียวกันก็เพื่อพิสูจน์ว่า พีเอ็มแอลเอ็มสามารถควบคุมพื้นที่และสั่งการกองกำลังที่ปฏิบัติการอยู่ในท้องถิ่นได้จริง
"เจตจำนงของการหยุดยิงชั่วคราวครอบคลุมเฉพาะการโจมตีเป้าหมายที่เป็นกองกำลังของรัฐบาลไทยซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในพื้นที่เท่านั้น โดยพีเอ็มแอลเอ็มมีความยินดีที่จะบอกว่ามาตรการของเราสามารถลดความรุนแรงใน 3 อำเภอดังกล่าวลงได้ในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา" นายกัสตูรี กล่าว
ข่าวของเดอะเนชั่น ยังให้ข้อมูลว่า พีเอ็มแอลเอ็ม คือการจับมือกันของสมาชิกขบวนการพูโล กับผู้แทนของกลุ่มบีอาร์เอ็น โคออร์ดิเนต หรือขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (Barisan Revolusi Nasional-Coordinate : BRN-C) โดยทั้ง 2 ขบวนการเป็นที่รู้จักตั้งแต่ทศวรรษที่ 60
เดอะเนชั่นยังอ้างคำกล่าวของทหารที่ปฏิบัติงานลับในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเขายอมรับว่ามีความพยายามประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวจากพีเอ็มแอลเอ็มจริง แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จ เพราะมีการลอบวางระเบิดรถตำรวจเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ในท้องที่ อ.เจาะไอร้อง ทั้งยังมีความรุนแรงปรากฏอีกหลายครั้งในพื้นที่ 3 อำเภอในช่วงเวลาดังกล่าว จึงยังมองไม่เห็นภาพที่ชัดเจนของการระงับการโจมตีของกลุ่มขบวนการในพื้นที่ตามที่ พีเอ็มแอลเอ็ม กล่าวอ้าง
ข่าวยังระบุด้วยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) รับทราบถึงความเคลื่อนไหวนี้ และให้ความสนใจติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่แหล่งข่าวอีกหลายแหล่งในพื้นที่ก็ยังมองไม่เห็นอนาคตของการยกระดับการเจรจาระหว่างตัวแทนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนกับรัฐบาลไทยมากนัก จากเหตุผลที่ว่าความรุนแรงยังคงดำรงอยู่ และรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระของแนวร่วมก่อความไม่สงบรุ่นใหม่
เหตุรุนแรง 3 อำเภอเบาบางแต่ยังไม่หมดเชื้อ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมของ "ทีมข่าวอิศรา" พบว่าช่วงระหว่างวันที่ 10 มิ.ย.ถึง 10 ก.ค.2553 มีเหตุรุนแรงที่กระทำต่อคนของรัฐในพื้นที่ อ.ระแงะ อ.ยี่งอ และ อ.เจาะไอร้อง ค่อนข้างเบาบางจริง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสงบเสียทีเดียว โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. เกิดเหตุคนร้ายมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนประกบยิง ร.ต.ต.นิยอ พารัตตะกฤติยาพันธ์ อายุ 61 ปี ตำรวจนอกราชการ เสียชีวิตในท้องที่ อ.ยี่งอ
วันที่ 19 มิ.ย. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถกระบะเป็นพาหนะ และใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายกูเฮง ยูโซ๊ะ ผู้ใหญ่บ้านไอร์ปาเซ หมู่ 8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะขับรถกระบะแบบตอนเดียว ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเทา หมายเลขทะเบียน ก 6123 สงขลา กลับจากตลาดนัดตันหยงมัส อ.ระแงะ ซึ่งมีการจัดการแข่งขันนกกรงหัวจุก โดยนายกูเฮงถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 ได้รับบาดเจ็บสาหัส
วันที่ 15 มิ.ย. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นามาราวี ยามาบาลา อายุ 37 ปี ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านบาโงระนะ หมู่ 5 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถไปซื้ออาหารกลางดึก
วันที่ 12 มิ.ย. คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายดือนัน เจ๊ะแต อายุ 28 ปี ชรบ.บ้านปาเซ หมู่ 7 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำธุระที่ตลาดดุซงญอมุ่งหน้ากลับบ้าน เหตุเกิดบนถนนสายตันหยงมัส-ดุซงญอ เป็นเหตุให้นายดือนันเสียชีวิตคาถนน
----------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : หน้าเว็บไซต์เนชั่นมัลติมีเดียดอทคอม ที่รายงานข่าว "กลุ่มแบ่งแยกดินแดนประกาศหยุดยิงในพื้นที่ 3 อำเภอ" เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา