เปิดผลชันสูตรศพ"สุไลมาน" ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย
สุเมธ ปานเพชร / นาซือเราะ เจะฮะ
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
การเสียชีวิตของ นายสุไลมาน แนซา อายุ 25 ปี ระหว่างถูกคุมตัวโดยทหาร คาศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา กำลังเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่งในพื้นที่ ล่าสุดผลการชันสูตรศพโดยคณะแพทย์ได้สรุปออกมาแล้ว ปรากฏว่าไม่พบร่องรอย "คอหัก" หรือ "ถูกทำร้าย" ตามที่สงสัยกันในเบื้องต้น อย่างไรก็ดี ยังต้องรอผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยันซ้ำอีกครั้ง
ผลการชันสูตรศพ นายสุไลมาน โดยแพทย์จากโรงพยาบาลหนองจิก จ.ปัตตานี ระบุรายละเอียดดังนี้ เยื่อบุตาไม่มีเส้นเลือดในดวงตา สภาพศพ ลิ้นจุกปาก ไม่พบร่องรอยคล้ำตามตัว มีบาดแผลถลอกและมีเลือดออกบริเวณขอบกางเกงกับลูกอัณฑะ มีมดไต่ตามตัว พบการแข็งตัวของกล้ามเนื้อ บริเวณมือกับขามีจ้ำแดงของการแตกตัวของเม็ดเลือด ด้านหลังตามผิวหนังมีรอยกดจากเหล็กดัดหน้าต่างจุดที่ใช้ผูกคอ ที่ลำคอมีรอยเป็นจ้ำเลือดจากความแน่นของเชือกที่ผูก และน้ำหนักตัวตามแรงโน้มถ่วงของโลก
คาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 8-12 ชั่วโมง สาเหตุการเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจและเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้
เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลการชันสูตรศพ แพทย์ไม่ได้ระบุว่าคอหักตามที่มีการสันนิษฐานของหลายฝ่ายก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
จนท.นิติเวชแจงเหตุเลือดไหล-ขาติดพื้น
เจ้าหน้าที่ด้านนิติเวชวิทยา ให้ข้อมูลกับ "ทีมข่าวอิศรา" ถึงสาเหตุที่มีเลือดออกตามอวัยวะเพศของผู้ตายว่า เวลาคนตาย สารคัดหลั่งมีโอกาสไหลออกมาได้ตามปกติ เพราะเลือดไม่สามารถหมุนเวียนตามร่างกายได้อีกแล้ว สารคัดหลั่งประเภทเลือดและสารอื่นๆ จึงมีโอกาสที่จะไหลออกมา นอกจากนั้นยังมีการแตกตัวของเส้นเลือด บางคนที่เสียชีวิตแล้วมีเลือดออกจมูก ก็เป็นเพราะเส้นเลือดแตกตัว
เจ้าหน้าที่รายนี้บอกด้วยว่า นอกจากผลการชันสูตรศพอย่างละเอียดจากแพทย์แล้ว ยังมีผลพิสูจน์สารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ เพื่อหาร่องรอยของบุคคลอื่นที่อาจเข้าไปในห้อง หรือเกี่ยวพันกับการเสียชีวิตด้วย โดยได้ตรวจดีเอ็นเอบนผ้าเช็ดตัวและสิ่งของต่างๆ ภายในห้องของผู้ตาย คาดว่าอีกราว 2 สัปดาห์จะได้ผลเรียบร้อย
"ส่วนที่สงสัยกันว่าขาของผู้ตายติดพื้น จะผูกคอตายได้อย่างไรนั้น จริงๆ แล้วแม้แต่ท่านั่งก็ยังพูดคอตายได้ ขอให้สังเกตสภาพศพของผู้ตายช่วงที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้าย จะพบว่าขาไขว้กัน และมีการเกร็งของมือ แสดงให้เห็นว่าน่าจะเป็นการผูกคอตัวเอง เพราะมีการเกร็งของมือและไขว้ขวาก่อนเสียชีวิต ต่างจากการทำร้ายจนตายแล้วนำศพมาจัดฉาก เพราะมือกับขาจะไม่มีทางจัดให้เป็นลักษณะนี้ได้" เจ้าหน้าที่นิติเวช ระบุ
เปิดบันทึกเยี่ยมรายวันส่วนใหญ่เป็นญาติ
"ทีมข่าวอิศรา" ยังเดินทางไปที่ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ภายในค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อขอตรวจสอบบันทึกการเยี่ยมของนายสุไลมานด้วย ว่ามีบุคคลแปลกปลอมที่ไม่ใช่ญาติเข้าเยี่ยมบ้างหรือไม่
ผลปรากฏว่าวันที่มีคนมาเยี่ยมนายสุไลมานมากที่สุด คือวันที่ 23 พ.ค. ซึ่งเป็นช่วง 1 วันหลังจากถูกจับกุม โดยส่วนใหญ่จะเป็นญาติพี่น้อง จากนั้นพ่อกับแม่ของนายสุไลมานเดินทางเข้าเยี่ยมทุกวัน โดยวันที่ 27 พ.ค.ช่วงเช้า พ่อกับแม่ไปเยี่ยมตามปกติ แต่ไม่ได้เข้าเยี่ยม เพราะเจ้าหน้าที่พาออกไปค้นหาหลักฐานตามผลการซักถาม
วันที่ 28 พ.ค.ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่พาออกไปค้นหาอาวุธปืนและบุคคลที่นายสุไลมานซัดทอดว่าอยู่กลุ่มเดียวกับเขา โดยการลงพื้นที่ตรวจค้นครั้งนี้ กลับไปที่บ้านที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ด้วย และนายสุไลมานยังไปเจอแม่กับผู้ชายอีกคนหนึ่งซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นญาติกันหรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พากลับศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ แล้วในช่วงบ่ายพ่อกับน้องสาวก็เดินทางเข้าเยี่ยม และเป็นวันที่นำผ้าขนหนูกับลูกประกคำมามอบให้ ส่วนวันที่ 29 พ.ค.ช่วงบ่าย น้องสาวกับน้าสาวเดินทางมาเยี่ยม
เจ้าหน้าที่ทหารที่ร่วมคุมตัวนายสุไลมานเดินทางไปค้นหาอาวุธปืนที่ อ.สายบุรี เล่าว่า วันที่เข้าไปค้น นายสุไลมานยังบอกให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่อย่างระมัดระวัง เพราะฝ่ายผู้ก่อเหตุรุนแรงอาจฝังระเบิดเอาไว้ก็ได้ แสดงให้เห็นถึงน้ำใจของนายสุไลมาน ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าหน้าที่จะทำร้าย ส่วนวันที่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พ่อกับแม่พบนายสุไลมาน ก็คือวันที่พาลงพื้นที่ไปค้นหาหลักฐาน เพราะมีระเบียบว่าจะไม่บอกญาติ เนื่องจากเป็นปฏิบัติการในทางลับ
"พ่อ"ยังติดใจร้องศูนย์ทนายมุสลิมช่วย
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายเจ๊ะแว แนซา และ น.ส.นูรมา แนซา บิดาและน้องสาวของนายสุไลมาน ได้เดินทางไปที่ศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ นายอนุกูล อาแวปูเตะ ประธานศูนย์ทนายความมุสลิม กรณีนายสุไลมานเสียชีวิตภายในศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ในสภาพมีผ้าขนหนูผูกคอ ด้านหนึ่งผูกติดกับเหล็กดัดหน้าต่าง และทหารแจ้งว่านายสุไลมานผูกคอตายเอง
ทั้งนี้ นายเจ๊ะแว วัย 59 ปี กล่าวว่า อยากให้ศูนย์ทนายความมุสลิมช่วยดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนตัวเชื่อมั่นในความเป็นธรรม
วันเดียวกัน ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนายสุไลมานที่บ้านใน อ.สายบุรี ด้วย
เปิดบันทึกอีกฉบับของภาคประชาสังคม
หลังเกิดเหตุ ยังมีรายงานขององค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ อาทิ เครือข่ายส่งเสริมสิทธิและและเข้าถึงความยุติธรรม (HAP) คณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ (Just Peace) สมาคมสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ (Deep Peace) เครือข่ายอาสาสมัครสื่อสันติภาพชายแดนใต้(STM) และกลุ่มบุหงารายา สรุปข้อสังเกตการเสียชีวิตของนายสุไลมานเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.
รายงานระบุว่า จากการตรวจร่างกายโดยแพทย์ และมีญาติผู้เสียชีวิต กับผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมร่วมเป็นสักขีพยานจำนวนมากนั้น พบว่าบริเวณลำคอของผู้ตายมีรอยถลอก บริเวณใบหน้าและหน้าผากด้านขวามีรอยแผลเป็นทางยาว บริเวณหน้าท้องมีลักษณะคล้ายรอยจี้เป็นจุดๆ และเอวกับสะโพกมีลักษณะคล้ายรอยจี้เป็นแนวยาวเช่นกัน ส่วนบริเวณอวัยวะเพศมีคราบเลือด บริเวณต้นขามีลักษณะคล้ายรอยช้ำ
ภายหลังจากชันสูตรศพเบื้องต้นในวันเกิดเหตุ ทางครอบครัวได้นำศพ นายสุไลมาน กลับไปที่ อ.สายบุรี และทางองค์กรภาคประชาสังคมได้เชิญแพทย์จากโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรีตรวจร่างกายให้อีกครั้งที่บ้านของผู้เสียชีวิต เพื่อความสบายใจของครอบครัว
จากการสอบถามนายเจ๊ะแว บอกว่าหลังจากที่ลูกชายถูกควบคุมตัว ทางครอบครัวได้ไปเยี่ยมลูกชายทุกวัน และทุกครั้งที่ไปเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 23-26 พ.ค. ปรากฏว่าไม่สามารถเข้าเยี่ยมลูกชายแบบถึงตัวได้ แต่ในวันที่ 27- 28 พ.ค.เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พบลูกชายเลย โดยให้เหตุผลว่าลูกชายอยู่ในช่วงของการสอบสวน
วันศุกร์ที่ 28 พ.ค. เจ้าหน้าที่ทหารได้ไปตรวจค้นบ้านพร้อมกับนายสุไลมาน เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่การตรวจค้นไม่พบหลักฐานใดๆ
จากการสอบถาม น.ส.นูรมา แนซา อายุ 20 ปี น้องสาวของนายสุไลมาน ทราบว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 29 พ.ค.ได้ไปเยี่ยมพี่ชายที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร สังเกตเห็นว่าพี่ชายดูอ่อนเพลีย ทุกครั้งที่ตัวเองมาเยี่ยมพี่ชายจะสามารถจับมือถือแขนพี่ชายได้ แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้ โดยให้เหตุผลว่าพี่ชายอยู่ในช่วงของการสอบสวน
--------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 บิดาและน้องสาวของนายสุไลมาน ขณะเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ทนายความมุสลิม จ.ปัตตานี
2 ภาพถ่ายของนายสุไลมานภายในศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งอ้างว่าถ่ายก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน
อ่านประกอบ :
- ปากคำจากทุกฝ่าย...พิสูจน์เบื้องหลังการตายคาค่ายทหาร
- เทียบข้อเท็จจริง "ทหาร-องค์กรสิทธิ์" กับสาเหตุการเสียชีวิตคาค่ายทหารของผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง
- บุกพิสูจน์ศูนย์เสริมสร้างความสมานฉันท์ ไขข้อข้องใจ "ซ้อม-ทรมาน" ผู้ถูกเชิญตัว